ความสำคัญของเส้นเอ็นข้อไหล่

อาการปวดไหล่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปอาจเป็นการปวดกล้ามเนื้อ แต่เมื่อพูดถึงอาการปวดไหล่ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เราควรพิจารณาถึงปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นเอ็นข้อไหล่ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ข้อไหล่เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและไม่มีอาการปวดหรืออ่อนแรง เมื่อคนเราอายุมากขึ้น เส้นเอ็นข้อไหล่ที่เคยทำงานได้ดีอาจเสื่อมสภาพ ฉีกขาด และทำให้เกิดอาการปวดไหล่ อาการอ่อนแรง ยกแขนไม่สุด และบางครั้งปวดมากในเวลากลางคืน รบกวนการนอนหลับ และทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง

โรคเส้นเอ็นข้อไหล่ฉีกขาด

โรคเอ็นข้อไหล่ฉีกขาดพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และบางครั้งอาจพบในผู้ที่อายุระหว่าง 50-60 ปี ที่มีอาการไหล่ติด อ่อนแรง และปวดมากในเวลากลางคืน หากรับประทานยาแก้ปวดและประคบอุ่นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจอย่างละเอียด เนื่องจากโรคเอ็นข้อไหล่ฉีกขาดอาจพบร่วมกับโรคไหล่ติด โรคกระดูกกดทับเส้นเอ็น หรือเส้นเอ็นลูกหนูอักเสบ

การรักษา

การตรวจรักษาโรคเส้นเอ็นข้อไหล่ฉีกขาดเริ่มจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมถึงการส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือเอ็มอาร์ไอ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของข้อไหล่ หากพบว่าเส้นเอ็นมีรอยเปื่อยหรือรอยขาดเล็กๆ การรักษาอาจประกอบด้วยการฉีดยา การรับประทานยา และการทำกายภาพบำบัด แต่หากพบว่ามีการฉีกขาดที่สมบูรณ์ การรักษาส่วนใหญ่มักเป็นการผ่าตัด

เทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้อง

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการผ่าตัดได้พัฒนาไปอย่างมาก แพทย์สามารถใช้การผ่าตัดส่องกล้องโดยการเจาะรูเล็กๆ บริเวณข้อไหล่ 3-4 รู และใช้เครื่องมือพิเศษในการเย็บตำแหน่งที่ฉีกขาดให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติ โดยคาดหวังว่าเส้นเอ็นที่เย็บจะสมานตัว และทำให้ไหล่หายปวด มีแรงมากขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ

...

เคล็ดลับป้องกันอาการปวดไหล่

ควรสังเกตตัวเองว่าอาการปวดไหล่เกิดจากอะไร บางคนอาจปวดโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน ในขณะที่บางคนอาจเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น อุบัติเหตุ ล้มแล้วคว้าอะไรบางอย่าง หรือกระแทกอย่างรุนแรง ในกรณีเหล่านี้ ควรพักการงาน ไม่ทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก รับประทานยาระงับปวด และประคบเย็นในช่วง 1-2 วันแรก จากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบร้อน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดและรับการรักษาที่เหมาะสม

แหล่งข้อมูล

ผศ. ดร. นพ.ชายนันท์ วิจิตรตระการรุ่ง ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

อ่านคอลัมน์ "ศุกร์สุขภาพ" เพิ่มเติมได้ที่นี่