โจวไห่เม่ย อดีตนางเอกดังชาวฮ่องกงในตำนานแห่งยุค 90 ได้เสียชีวิตลงในวัย 57 ปี หลังจากป่วยหนักด้วยโรคลูปัส ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีความผิดปกติ เป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โรคลูปัส เกิดจากอะไร

โรคลูปัส หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus (SLE)) หรือที่คนไทยมักจะเรียกกันว่า โรคพุ่มพวง เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันหลายชนิดต่อเนื้อเยื่อของตนเอง มีผลทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โรคลูปัส เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน เช่น

  • พันธุกรรม
  • ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต) ความเครียด
  • การติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอื่นๆ
  • การใช้ยาบางตัว เช่น Methyldopa, Procainamide, Hydralazine, Isoniazid, Chlorpromazine เป็นต้น

อาการโรคลูปัส

โรคลูปัสมักพบในวัยหนุ่มสาว อายุ 15-40 ปี พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย รวมทั้งยังมีอาการที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องมีทุกอาการดังต่อไปนี้ เช่น

  • มีไข้
  • อ่อนเพลีย
  • ปวดข้อ
  • มีผื่นแดงตามใบหน้า
  • ผื่นแพ้แดด
  • ผมร่วง
  • มีแผลในปาก
  • บางรายมีอาการซีด
  • ติดเชื้อง่าย
  • มีจุดเลือดออกหรือเส้นเลือดอักเสบ
  • นิ้วซีดเขียวเวลาถูกความเย็น
  • ขาบวม
  • ปัสสาวะผิดปกติ
  • มีความผิดปกติทางไต
  • เหนื่อยหอบ
  • เจ็บหน้าอก
  • ชักหรือมีปัญหาทางระบบประสาทได้

โรคลูปัส รักษาได้ไหม

โรคลูปัส หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใช้ระยะเวลารักษายาวนาน รวมทั้งต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ไม่มีอาการก็ตาม โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษา การเลือกใช้ยาให้เหมาะสมนั้นจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ยาที่ใช้ในการรักษา เช่น ยาปรับภูมิคุ้มกัน ยากดภูมิคุ้มกัน หรือกลุ่มยาสเตียรอยด์แล้วแต่กรณี

...

วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคลูปัส

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคลูปัสควรมีวิธีปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย

  • นอนหลับให้เพียงพอ
  • ควบคุมความเครียด
  • เลี่ยงการออกแดด หากต้องออกแดดควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 55
  • หลีกเลี่ยงการติดเชื้อด้วยการทานอาหารที่สะอาด
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งเสมอ
  • ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ การทำฟัน ถอนฟัน ควรรับประทานยาปฏิชีวนะก่อนและหลังทำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์
  • หากไม่สบายไม่ควรซื้อยากินเอง ควรพบแพทย์และบอกแพทย์ด้วยว่าเป็นโรคลูปัส เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม และแพทย์จะได้หลีกเลี่ยงยาบางตัวที่อาจทำให้โรคกำเริบขึ้น


นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรทราบว่าโรคนี้มีความรุนแรงแตกต่างกัน บางคนอาจมีอาการเล็กน้อย แต่บางคนอาจมีอาการรุนแรงได้ แม้ว่าผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อย ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาการอาจรุนแรงมากขึ้นได้ โรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งมีอาการกำเริบและสงบสลับกันไป ดังนั้นควรมารับการตรวจรักษาจากแพทย์โดยสม่ำเสมอ รับประทานยาตามสั่งโดยเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาหรือลดยาเอง เพราะอาจทำให้โรคกำเริบขึ้น

ถ้าโรคยังไม่สงบ ไม่ควรตั้งครรภ์ เนื่องจากโรคอาจกำเริบขณะตั้งครรภ์ได้ อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยและทารก นอกจากนี้ยาที่รับประทานเพื่อควบคุมโรคในผู้ป่วยบางรายอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ ถ้าโรคสงบแล้ว สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และขณะตั้งครรภ์ควรมารับการตรวจร่างกายอย่างใกล้ชิดมากกว่าเดิม เพราะบางครั้งโรคอาจกำเริบได้

ข้อมูลอ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, รพ.พญาไท