เมื่อถึงช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว นอกจากการเตรียมเสื้อผ้าให้เข้ากับสภาพอากาศของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว การดูแลสภาพผิวให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะสถานที่ที่มีสภาพอากาศแตกต่างจากชีวิตประจำวันมาก เราควรมีวิธีดูแลผิวอย่างไรไม่ให้พัง แต่สวยปังได้ทุกทริป

นอกจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปแล้ว ความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง การพักผ่อนน้อย รวมถึงการดื่มน้ำหรือรับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอ ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวอ่อนล้า หมองคล้ำ ไม่สดใส แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แนะวิธี “ดูแลผิวสวยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวให้พร้อมเผชิญกับทุกสภาพอากาศ”

แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล ได้แนะนำเคล็ดลับดูแลผิวสวยตลอดการเดินทางในทุกสภาพอากาศว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวของเราแตกต่างกันไป อาทิ

สภาพอากาศของสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเดิมทำให้ยิ่งต้องได้รับการดูแลมากเป็นพเิศษ
สภาพอากาศของสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเดิมทำให้ยิ่งต้องได้รับการดูแลมากเป็นพเิศษ

...

  • หากไปในสถานที่ที่มีฝนตกก็จะรู้สึกเหนอะหนะไม่สบายผิว หน้ามัน เกิดสิวและผด รวมถึงเชื้อราบริเวณอับชื้น
  • หากเดินทางไปสถานที่ที่มีอากาศร้อน แสงแดดแรง ก็จะทำให้ผิวไหม้ คล้ำเสีย
  • หากเดินทางไปในที่ที่มีอากาศเย็น ผิวก็แห้ง แตก คัน และลอกเป็นขุยได้

การดูแลผิวพรรณระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราอาจเผชิญกับปัญหาผิวโดยที่เราอาจคาดไม่ถึงได้ โดยมีขั้นตอนการดูแลดังต่อไปนี้

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
  2. ปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขน
  3. ใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว โดยเน้นครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้นสู่ผิว
  4. หากต้องเดินทางเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง ควรพกมาสก์เพื่อการบำรุงหรือสลีปปิ้งมาสก์แบบเจล เพื่อฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิว
  5. ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณยังสดใสอยู่เสมอ
การมาสก์หน้าจะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ขาดน้ำด้วย
การมาสก์หน้าจะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ขาดน้ำด้วย

ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวไปในแต่ละสถานที่นั้นทำให้เราต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วการดูแลผิวอาจจะไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม แต่หากเราเดินทางไปสถานที่ที่มีแสงแดดจ้ามากอย่างทะเล อาจจะต้องเน้นเรื่องการปกป้องผิวจากแสงแดดมากเป็นพิเศษ หากเป็นครีมกันแดดประเภทกันน้ำ ก็จะสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง

หากเดินทางไปในที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว ก็สามารถช่วยดูแลและแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลผิวแบบล้ำลึก ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิวที่เสียจากแสงแดดได้ดี ตัวอย่างเช่น

  • สารสกัดจากชิโซะ (Shiso extract) ที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพของผิว และช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน 
  • สารสกัดอูกอน (Ougon extract) พืชทะเลทรายที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบ รวมถึงช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้กลับแลดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ 

...

นอกจากการบำรุงผิวภายนอกแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การดูแลตัวเองจากภายในควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • ควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลไม้ตระกูลเบอร์รี และชาเขียว
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และระบบการทำงานต่างๆ ภายในร่างกาย

เพราะการดูแลตัวเองที่ถูกต้องควรจะใส่ใจให้ครบทุกด้าน จึงจะสามารถสร้างความสมบูรณ์แบบได้ในทุกมุมมอง