ในปัจจุบันนี้ เราทราบกันดีว่า การเดินอย่างรู้สังขาร ไม่ถึงกับต้องหักโหมแบบคาร์ดิโอหนักหนา หัวใจเต้นเร็ว ช่วยสุขภาพและลดการตาย ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดหัวใจ สมอง และยังลดสมองเสื่อมได้ด้วย ทั้งนี้ ถ้าทำให้ได้ถึง 10,000 ก้าวต่อวัน

ปัญหาก็คือ ในคนที่อายุมากขึ้น มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ ทั้งที่เสื่อมและที่แม้แต่ไปผ่าตัดแล้วก็ตาม ทำให้เดินไม่ได้สะดวก รวมทั้งปวดหลัง การทรงตัว เลยพาลไม่ยอมเคลื่อนไหว

ผลของการศึกษาใหม่นี้เฉพาะเจาะจงในคนที่สูงวัยตั้งแต่อายุ 71 ปียันไปถึง 92 ปีโดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 78 ปีและเป็นการรายงานในที่ประชุม epidemiology, and prevention/life style and cardiometabolic health โดย ดร.Erin Dooley ผู้เชี่ยวชาญทางระบาดวิทยาและคณะ ที่ university of Alabama at Birmingham

คณะผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์กลุ่มย่อยในการศึกษาความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดตันในชุมชน atherosclerosis
risk in communities (ARIC) ซึ่งเป็นการศึกษาวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่องโดย สถาบันหัวใจปอดและเลือดแห่งชาติ (National Heart, Lung and Blood Institute)

โดยกลุ่มการศึกษาย่อยนี้ประกอบไปด้วยผู้สูงวัยจำนวน 452 รายด้วยกันและมีการเก็บรายละเอียดและวิเคราะห์เป็นระยะในระหว่างช่วง 2016 และ 2017

...

โดยผู้ที่ร่วมการศึกษานั้นสวมเครื่องวัดการเคลื่อนไหวติดที่บั้นเอว อย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกันครั้งละสามวัน ในแต่ละครั้ง และเป็นสตรี 59% โดยเป็นคนผิวดำ 20%

ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ได้มีการสรุป จนกระทั่งถึง เดือนธันวาคม ในปี 2019 ซึ่งรวมถึงโรคทางเส้นเลือดหัวใจและสมองที่ถึงแก่ชีวิตและไม่ถึงกับตายแต่ต้องเข้าโรงพยาบาล และรวมภาวะหัวใจวายไว้ด้วย

ผลจากการศึกษาที่สำคัญชี้ให้เห็นว่าทุกๆ 500 ก้าวที่เดินเพิ่มต่อวันจะทำให้ความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดดังกล่าวลดลงถึง 14% ด้วยกัน (hazard ratio, 0.86 ; 95% confidence interval, 0.76-0.98)

ก้าวเดินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3,447 ก้าวต่อวันและมี 34 รายคิดเป็น 7.5% ที่เกิดโรคของเส้นเลือดในช่วงการติดตาม 1,269 person–years

ความเสี่ยงสะสมของโรคเส้นเลือดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือพบได้ 11.5% ใน quartile ที่เดินน้อยสุด คือน้อยกว่า 2,077 ก้าวต่อวัน เทียบกับเพียง 3.5% ในกลุ่มที่เดินสูงสุดคืออย่างน้อย 4,453 ก้าวต่อวัน

ที่น่าดีใจมากขึ้นไปอีกนั้นก็คือในกลุ่มที่เดินเยอะที่สุด (highest quartile) รวมแล้วมีความเสี่ยงลดลง 77% ในระยะ 3.5 ปีในตลอดระยะเวลาการติดตาม (HR, 0.23)

ผลของการศึกษานี้สนับสนุนคุณค่าของการเดิน แม้ว่าจะเพิ่มจำนวนก้าวขึ้นแม้ไม่มากก็ตามในผู้สูงอายุ โดยเริ่มตั้งแต่ทุก 500 ก้าว จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตัวให้ได้ง่ายที่สุดเลย ก็คือในผู้สูงวัยตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไปนั้น การเดินตั้งแต่ 3,000 ก้าวต่อวัน ก็จะเริ่มส่งผล ประโยชน์ในการป้องกันโรคของเส้นเลือดหัวใจหรือสมองแล้ว และประโยชน์ที่จะเห็นได้ชัดเลยนั้นก็คืออยู่ที่ตั้งแต่ 4,500 ก้าว เป็นต้นไป

ในขณะนี้ลูกหลานก็สามารถซื้อนาฬิกาสวมใส่ข้อมือ สมาร์ท วอช ราคาไม่แพงให้พ่อ แม่ คุณป้า คุณอา คุณน้า ปู่ ย่า ตา ยายใส่ และเป็นเครื่องวัด และสร้างเสริม กำลังใจให้ญาติผู้ใหญ่ขยับกายมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

ข้อสำคัญก็คือในวัยกลางคนยังทำแต่งาน นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานในแต่ละวัน เคลื่อนไหวเพียงแค่ 500-600 ก้าวเท่านั้นและมีข้ออ้างอยู่เป็นประจำว่าทำงานเหนื่อยแล้วต้องนั่งพักผ่อน ดูทีวี กินขนม

การเคลื่อนไหวออกกำลังต้องเริ่มทุกวัยจะได้ประโยชน์ ไม่ต้องเสียเวลามารักษาตัว เมื่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และเงินทองที่หามาได้ทั้งชีวิต จบลงในบั้นปลายชีวิต สูญเงินทองแถมยังต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อรักษาตัว เพียงสองถึงสี่ปีเท่านั้น จนตาย.

...