ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไปก็เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา นอกจากเรื่องลมฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงแล้ว “โรคหน้าฝน” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจเพื่อป้องกันสุขภาพให้แข็งแรงอีกด้วย ซึ่งฤดูนี้มีหลายโรคที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องป้องกันอย่างไร เรารวมมาให้แล้ว
ไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นหนึ่งในโรคหน้าฝนที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยกัดคนที่เป็นโรคนี้ จากนั้นเชื้อโรคจะเข้าไปฟักตัวอยู่ในยุง แล้วสามารถถ่ายทอดไปสู่คนอื่นๆ ที่ถูกยุงกัดได้ทุกครั้ง มักระบาดหนักในช่วงหน้าฝน ซึ่งแพร่กระจายได้มากกว่าฤดูอื่นๆ ถึง 3 เท่า
อาการของไข้เลือดออก
- มีไข้สูงแบบเฉียบพลัน และมีอาการไข้สูงตลอดทั้งวันต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 2-7 วัน
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- ส่วนใหญ่มีอาการหน้าแดง
- อาจมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา
- ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก
- มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้องและเบื่ออาหาร
...
วิธีป้องกันไข้เลือดออก
- เก็บกวาดบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก
- เก็บขยะ เศษภาชนะทุกชนิดบริเวณรอบบ้าน ทิ้งในถุงดำ มัดปิดปากถุงแล้วนำไปทิ้งในถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งขังน้ำให้ยุงวางไข่เพาะพันธุ์ได้
- เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะใส่น้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะที่ไม่ใช้ และเปลี่ยนน้ำในภาชนะเล็กๆ เช่น ถ้วยรองขาตู้ หรือแจกันทุกสัปดาห์
- ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ หรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ เช่น อ่างเลี้ยงไม้น้ำ
ไข้หวัด
ไข้หวัด หรือ โรคหวัด เป็นโรคหน้าฝนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนต้นที่ส่งผลกระทบต่อจมูกและคอ มักเกิดเมื่ออุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ตัวเปียกฝน อากาศเปลี่ยน ซึ่งสามารถพบได้ทั้งปี แต่จะพบบ่อยในหน้าฝน
อาการไข้หวัด
- คัดจมูก
- น้ำมูกไหลลักษณะใส
- ไอมีเสมหะ
- จาม
- เจ็บคอ
- เสียงแหบ
- อาจมีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย
วิธีป้องกันไข้หวัด
- ใส่หน้ากาก
- ล้างมือ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เลี่ยงสถานที่แออัด
ไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคหน้าฝนที่เกิดจากการติดเชื้ออินฟลูเอนซา (Influenza Virus) อาจมีอาการเริ่มต้นเหมือนไข้หวัด ส่วนใหญ่สามารถหายเป็นปกติได้ใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางรายอาจมีความรุนแรงทำให้เกิดปอดอักเสบและเสียชีวิตได้
อาการไข้หวัดใหญ่
- มีไข้สูงเกิน 38 องศาฯ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก
- ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หนาวสั่น
- เบื่ออาหาร
- คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอแห้งๆ
- บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ
- หลีกเลี่ยงคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปีละ 1 ครั้ง
อหิวาตกโรค
เกิดจากการกินอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียหรือติดเชื้อไวรัส ทำให้เกิดอาการท้องเสียฉับพลัน มักเกิดในชุมชนที่อยู่กันอย่างหนาแน่น และไม่มีน้ำสะอาดใช้อย่างพอเพียง ไม่มีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ร้านอาหารไม่สะอาด ถูกหลักอนามัย
อาการอหิวาตกโรค
- ท้องร่วง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีภาวะขาดน้ำ
- บางรายอาจมีการถ่ายเป็นมูกเลือด
- หากมีอาการรุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้
วิธีป้องกันอหิวาตกโรค
- ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำและก่อนกินอาหาร
- ดื่มน้ำต้มสุกและสะอาด
- กินอาหารปรุงสุก
- หลีกเลี่ยงอาหารดิบ
- รับประทานผลไม้ที่ปอกเปลือกเอง
- ระวังผลิตภัณฑ์เนยนม
...
โรคตาแดง
โรคตาแดง เป็นโรคหน้าฝนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับโรคหวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง เช่น สัมผัสกับขี้ตาหรือน้ำตาที่ติดอยู่บนมือหรือสิ่งของที่ผู้ป่วยสัมผัส จากการใช้สิ่งของร่วมกัน และจากการหายใจหรือไอจามรดกัน มักพบในกลุ่มเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กไม่ระมัดระวังในการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคเท่ากับผู้ใหญ่
อาการโรคตาแดง
- ตาแดง
- ปวดเล็กน้อยในเบ้าตา
- คันตา เคืองตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา
- น้ำตาไหล
- เปลือกตาบวม อาจพบตุ่มเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป
- ในกรณีที่ติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย จะมีขี้ตามากทำให้ลืมตายากในช่วงตื่นนอน
วิธีป้องกันโรคตาแดง
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ เครื่องสำอาง แว่นตา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขังหรือน้ำสกปรก ระวังไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าตา
ไม่ควรใช้มือขยี้ตา - ผู้ที่เป็นโรคตาแดง ควรงดการใช้ของสาธารณะหรือไปในที่สาธารณะจนกว่าจะหาย
- ไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น ควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการหยอดยาเสมอ
...
โรคฉี่หนู
เป็นโรคหน้าฝนที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยมีหนูหรือสัตว์ฟันแทะเป็นพาหะหลัก เชื้อถูกปล่อยออกมากับปัสสาวะที่ปนเปื้อนอยู่ตามน้ำ ดินที่เปียกชื้น เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังตามรอยแผล รอยขีดข่วน และเยื่อบุของปาก ตา จมูก ที่สำคัญคือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการโรคฉี่หนู
แบ่งออกเป็น 2 ระยะด้วยกัน
อาการระยะแรก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดศีรษะ มีไข้สูง หนาวสั่น
- ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
- เจ็บช่องท้อง
- รู้สึกเหนื่อยล้า
- ตาแดงหรือระคายเคืองที่ตา
- มีผื่นขึ้น
- ไม่อยากอาหาร
- ท้องเสีย
อาการระยะที่สอง
- มีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ตาอักเสบ
- หลอดเลือดอักเสบ
- ปอดอักเสบ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- เลือดออกในเนื้อปอด
- ตัวเหลืองตาเหลือง หรือภาวะดีซ่าน
- ไตวายเฉียบพลัน
- ภาวะเลือดออกง่ายตามอวัยวะต่างๆ และอาจทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลวและเป็นอันตรายถึงชีวิตในที่สุด
วิธีป้องกันโรคฉี่หนู
- หลีกเลี่ยงการเดินในที่น้ำขัง มีน้ำสกปรก
- ล้างเท้าด้วยน้ำสบู่หลังสัมผัสน้ำสกปรก
- ควรสวมรองเท้าบูตทุกครั้งที่ต้องลุยน้ำสกปรก
- ควบคุมและกำจัดหนูตามบริเวณที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
- ควรระบายน้ำตามท่อระบายออกแล้วล้างเพื่อกำจัดน้ำที่ปนเปื้อน
- หากสงสัยว่ามีอาการของโรคฉี่หนู ควรพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที
โรคมือเท้าปาก
...
เป็นโรคหน้าฝนที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ติดต่อง่าย ไม่มีวัคซีนป้องกัน และมีโอกาสเป็นเพิ่มมากขึ้นในช่วงหน้าฝน สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี แต่สามารถเกิดกับเด็กโตและผู้ใหญ่ได้เช่นกัน โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นและหายป่วยภายในเวลาประมาณ 7-10 วัน
อาการโรคมือเท้าปาก
- มีไข้
- เจ็บปาก
- น้ำลายไหล
- มีแผลที่กระพุ้งแก้มและเพดานปาก
- มีผื่นเป็นจุดแดงหรือตุ่มน้ำใสที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รอบก้นและอวัยวะเพศ
- อาจมีผื่นตามลำตัว แขนและขาได้
วิธีป้องกันโรคมือเท้าปาก
- แยกผู้ป่วยที่เป็นโรคไม่ให้ไปสัมผัสกับเด็กคนอื่น
- ผู้ปกครองควรหมั่นล้างมือเด็ก เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อไปยังเด็กคนอื่น
- หมั่นทำความสะอาดของเล่นและสภาพแวดล้อมทุกวัน
- ดูแลความสะอาดของน้ำ อาหาร และสิ่งของ ที่เด็กอาจนำเข้าปาก
- โรงเรียนควรงดรับเด็กป่วยเข้าเรียนจนกว่าจะหายดีเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
- ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานที่ป่วยไปรักษา พร้อมแจ้งโรงเรียนและเด็กควรหยุดเรียนจนกว่าจะหาย
จะเห็นได้ว่า โรคหน้าฝน ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคติดต่อ มีทั้งจากสัตว์สู่คนและคนสู่คนด้วยกัน วิธีป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในหน้าฝนที่ดีที่สุดคือ เมื่อรู้ตัวว่าป่วยควรรีบทำการรักษาและหยุดพักเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นจนกว่าจะหายดีเสียก่อน.
ข้อมูลอ้างอิง: กรมควบคุมโรค, สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย