เมื่อ "อากาศหนาว" มาเยือน นอกจากสาวๆ จะตื่นเต้นดีใจที่ได้รื้อเสื้อผ้าหนาๆ มาแต่งตัวอวด Layering Skill กันแล้ว ปัญหาที่ตามมาที่สาวๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้ คงจะหนีไม่พ้นปัญหาเรื่อง "ผิวแห้ง" เพราะอากาศที่แห้งทำให้ผิวที่เคยชุ่มชื้นของเรากลับแห้งกร้าน บางคนถึงขั้นเกิดอาการคัน แดง และลอกจากการเกากันเลยทีเดียว แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะ MIRROR มี "เคล็ดลับ" ง่ายๆ ในการรับมือกับเจ้า "ผิวแห้ง" มาฝาก

1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลและทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อผิว ควรเลือกใช้ครีมอาบน้ำที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง มีส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น


2. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่ร้อนจนเกินไป เพราะความร้อนจากน้ำจะทำให้ผิวที่แห้ง ยิ่งแห้งตึงมากกว่าเดิม

3. ขัดผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการใช้ฟองน้ำหรือใยขัดผิวที่หยาบกระด้างเกินไป

4. หลังอาบน้ำหรือล้างหน้า ควรทาครีมบำรุงผิวทันทีขณะที่ผิวยังหมาดๆ เพื่อจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น


5. ลองใช้ครีมบำรุงผิวแบบเข้มข้นที่มีส่วนผสมของ shea butter, argan oil, avocado oil แทนโลชั่น เพราะเนื้อของโลชั่นบางเบาเกินไปสำหรับผิวแห้ง

ซึ่งควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวที่แห้งไม่เหมือนกันด้วยแต่ไม่ว่าจะผิวแห้งระดับไหน ก็ไม่ต้องกังวล MIRROR มีวิธีเลือกโลชั่นที่ใช่สำหรับผิวคุณ มาบอก

ก่อนอื่นถ้าอยากลองทดสอบสภาพผิวกายของคุณว่ากำลังแห้งอยู่หรือเปล่าวิธีง่ายๆ คือ ลองข่วนผิวเล็กน้อย ถ้าขึ้นเส้นสีขาว นั่นแปลว่าผิวเริ่มแห้งแล้ว และถ้าจะให้ชัวร์ ลองวัดด้วยเครื่องวัดความชุ่มชื้นผิวซึ่งในฤดูหนาวค่าความชุ่มชื่นระดับปกติบริเวณแขนควรอยู่ที่ 35 - 45% หากน้อยกว่านี้ รีบขอตัวช่วยด่วน!

ผิวปกติ – แห้งน้อย

ครีมบำรุงผิวที่ใช้ได้ทุกวัน เหมาะสำหรับคนสภาพผิวปกติหรือแห้งบางช่วงตามสภาพอากาศ ขอแนะนำ โลชั่นบำรุงผิวผสานน้ำมันสกัดเนื้อบางเบา ซึมเร็ว มาพร้อมกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหลงใหลจากกุหลาบ อย่าง "นีเวีย ออยล์ อิน โลชั่น โรส แอนด์ อาร์แกน ออยล์"

ส่วนผสมช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกจากอาร์แกน ออยล์ ซึ่งอุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ทำให้ผิวนุ่มนวล อ่อนเยาว์และล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง โดยไม่ทิ้งความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะแถมกลิ่นหอมอ่อนๆ รับรองทาแล้วหลงรักผิวมาก

ผิวแห้ง

สำหรับสาวผิวแห้ง
เตรียมบอกลาผิวแห้งเหี่ยวด้วยโลชั่นที่เหมาะสำหรับฟื้นบำรุงผิวให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น มีส่วนผสมของวิตามินอีและอะโวคาโด ออยล์จากธรรมชาติ อย่าง "นีเวียอินเทนซีฟ มอยส์เจอร์ บอดี้ มิลค์ โลชั่น" ครีมบำรุงผิวเนื้อน้ำนมที่บางเบาแต่ซึมซาบเข้าฟื้นฟูผิวแห้งเสียให้กลับมาเนียนสมูท ด้วยเทคโนโลยี Deep Moisture Essence ผสานวิตามินอี 50 เท่า และอะโวคาโด ออยล์ เก็บล็อกความชุ่มชื้นให้คงอยู่บนผิวได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง และยังเป็นสูตร PH
Balance ที่ไม่ทำร้ายสมดุลผิวตามธรรมชาติด้วย

ผิวแห้งมาก

ถ้าผิวคุณกำลังแตก แห้งกร้านไม่เรียบเนียน หรือลอกเป็นขุยนี่คือสัญญาณผิวแห้งมาก-ขั้นสุด
ยกมือขอตัวช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาชุ่มชื่นอิ่มน้ำทันที ที่มีส่วนผสมของ Shea Butter
และวิตามินอีที่จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างวันเพิ่ม อย่าง "นีเวีย ซอฟท์ แอนด์ สมูท บอดี้ มิลค์ โลชั่น" ครีมบำรุงผิวเนื้อน้ำนม สัมผัสนุ่มละมุน พร้อมกักเก็บความชุ่มชื่นยาวนานถึง 48 ชั่วโมงจาก Shea Butter อุดมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติและวิตามินอี ซึ่งช่วยให้ผิวสมูทเป็นพิเศษ เนียนน่าสัมผัส ที่สำคัญ แม้จะเหมาะกับสภาพผิวแห้งมาก แต่เนื้อโลชั่นทาง่าย ซึมเร็ว และเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย

ผิวแห้งกร้าน

ถ้าต้องการฟื้นฟูผิวเฉพาะจุด หรือบริเวณไหนที่กร้านเสียสะสมจนต้องการการเยียวยาเป็นพิเศษให้ครีมบำรุงผิวที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นอย่าง "นีเวีย ครีม" ครีมกระปุกน้ำเงินในตำนานเข้าไปจัดการ

ตัวนี้มีส่วนผสมของยูเซริท (Eucerit) มอยส์เจอไรเซอร์พิเศษของนีเวียและแพนธีนอล มอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยลดจุดสัมผัสผิวแห้งกร้านให้เรียบเนียนนุ่มชุ่มชื่นน่าสัมผัส ป้องกันรอยแตกบนผิวหนัง โดยเฉพาะ 5 จุดสัมผัสกร้านเสียสะสมทั้ง ข้อศอก เข่า หน้าท้อง ต้นขา และสะโพก รวมถึงบริเวณกล้ามเนื้อต้องยืดขยายมากเป็นพิเศษ อย่างการแตกลายของผิวหนังระหว่างตั้งครรภ์ หลังออกกำลังกาย รวมถึงทาบริเวณส้นเท้าที่แตกลอกได้ด้วย


6. สำหรับ Lady MIRROR ที่มีผิวแห้งมาก ลองใช้น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เช่น argan oil, shea butter, avocado oil วิตามินอีเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนการบำรุงผิวในตอนเช้าและก่อนนอนเสริมการใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง

7. ผิวกายหายแห้งและเนียนนุ่มแล้ว อย่าลืมดูแลผิวหน้าด้วย เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าด้วยสเปรย์น้ำแร่ 1-2 ครั้งต่อวัน แร่ธาตุในน้ำแร่ยังช่วยให้สุขภาพของผิวดีขึ้นอีกด้วย

8. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า SPF15 เป็นประจำเพื่อปกป้องผิวสวยจากรังสี UV ที่จะทำให้ผิวแห้งกร้าน แสบร้อน และเกิดริ้วรอยโดยควรทาทั้งหน้าและตัว ซึ่งครีมกันแดดสำหรับทาตัวนั้นให้เลือกตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน วันปกติเจอแดดไม่มากใช้กันแดดเนื้อบางเบาก็เพียงพอแล้ว และส่วนวันไหนใช้ชีวิตกลางแจ้งหนักๆกันแดดสูตรเข้มข้นที่มีค่า SPF 50 PA++++ กันน้ำกันเหงื่อด้วย ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

9. ไม่ควรเกาบริเวณผิวหนังที่แห้งและเกิดอาการคัน เพราะการเกาจะยิ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นแย่ลงกว่าเดิม ควรทาครีมบำรุงผิวหรือยาที่บรรเทาอาการคัน

10. รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกวัน เพราะวิตามินและสารอาหารในผักและผลไม้ เช่น แตงโม บรอกโคลี และมะเขือเทศ ช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นของผิว

11. อาหารที่มีไขมันดีสูง เช่น อะโวคาโด มะกอก ปลาแซลมอน วอลนัต และเต้าหู้ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

12. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มและของทอด เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้ผิวขาดน้ำ

13. รู้หรือไม่ว่า นอกจากการสูบบุหรี่จะเป็นอันตรายต่อปอดแล้ว ยังส่งผลเสียต่อ "สุขภาพผิว" ของเราด้วย เมื่อระบบหายใจทำงานไม่ปกติ เซลล์ผิวจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และสารทาร์ในบุหรี่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน สาเหตุของการเกิดสิว แถมการสูบบุหรี่ยังทำให้ร่างกายขาดวิตามิน C และ E ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของผิวสุขภาพดี

14. ดูแลสุขภาพของตับ เพราะตับที่ทำงานหนักส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของผิว อาจก่อให้เกิดอาการคันหรือแห้งกร้าน ดื่มน้ำมากๆ ชาเขียวและน้ำผลไม้สดก็มีผลดีต่อตับเช่นกัน หมั่นรับประทานผักและผลไม้ที่บำรุงตับ เช่น ผักใบเขียว กระเทียม อะโวคาโด ถั่วต่างๆ และเกรปฟรุต

15. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายดูดซับของเหลวได้น้อยลง ส่งผลให้ร่างกายและผิวขาดน้ำ, electrolytes และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผิวแห้ง ผื่นแดง และผิวแพ้ง่าย

16. หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างดื่มควรสลับด้วยการดื่มน้ำมากๆ

17. สำหรับผิวแห้งมาก ลองใช้ Petroleum Jelly ทาเคลือบผิวบางๆ หลังจากทาครีมบำรุงผิวในเวลาก่อนนอน เพราะ Petroleum Jelly มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นของผิว

18. สำหรับผิวแห้งมาก ลองใช้ "นีเวีย ครีม" ครีมกระปุกน้ำเงิน ทาเคลือบผิวบางๆ หลังจากทาครีมบำรุงผิวในเวลาก่อนนอนอีกชั้น เพราะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื่นของผิวอย่างเข้มข้น

19. ฟื้นฟูสุขภาพของผิวกายและเติมความชุ่มชื่นด้วย "สูตรมาสก์หน้า" ที่มีส่วนผสมของนม โดยแช่เมล็ดอัลมอนด์ 1 ถ้วยตวงในน้ำนม 2 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำมาบดเพื่อพอกตัว 

หรืออีกหนึ่งสูตรที่ทำได้ง่ายๆ คือ การแช่น้ำนม โดยผสมนมในปริมาณ 4-10 ลิตรกับน้ำอุ่นให้พอดีกับการลงไปแช่สัก 15-20 นาที 

ไขมันจากนมที่มีวิตามินและโปรตีนช่วยให้ผิวที่แห้งกลับนุ่มและมีความยืดหยุ่นอีกครั้ง โดยเฉพาะนมแพะที่มีค่า PH ใกล้เคียงกับผิวคน

20. หาก "ผิวแห้งเป็นเวลานาน และไม่สามารถรักษาให้หายเองได้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง