สุขภาพที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดีก็ควรเริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะเด็กที่แข็งแรงด้วยกายและใจในวันนี้ ย่อมเป็นกำลังที่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต ‘มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย’ ในฐานะองค์กรที่เห็นความสำคัญของการมีสุขภาพดีผ่านฐานรากแห่งชีวิตที่แข็งแรง ได้ร่วมมือกับ ‘กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน’ จัดทำโครงการเพื่อเสริมสร้างแนวคิดด้านสุขภาพสู่การลงมือปฏิบัติ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ ซึ่งวาดหวังให้เป็นโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนที่ส่งผลสะท้อนกลับออกสู่ชุมชน โดยเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 จนได้ติดตามความสำเร็จผ่านกิจกรรม คาราวานฟาร์มสุข กับโครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ ที่จะกลายเป็นต้นแบบของความสุขที่ยั่งยืนร่วมกัน
‘สุขภาพ’ แข็งแรง สร้างคนให้แข็งแกร่ง
แม้เราจะอยู่ในยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์หนึ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากในปัจจุบันคือ การที่โลกยังมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก ซึ่งเป็นเหตุให้มีเด็กทั่วโลกเสียชีวิตกว่า 3 ล้านคน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีเด็กที่มีปัญหาแคระแกร็นถึง 161 ล้านคน ในขณะที่เด็กที่เป็นโรคอ้วนมีจำนวนกว่า 43 ล้านคน ภาวะดังกล่าวคือปัญหาทุพโภชนาการที่เนื่องมาจากการขาดความรู้ หรือความสามารถของพ่อแม่ในการดูแลเรื่องสารอาหารที่มีประโยชน์ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
สถานการณ์ภาวะทุพโภชนาการในประเทศไทยไม่ใช่สิ่งที่ควรนิ่งนอนใจ เพราะเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อการเรียนรู้และการเจริญเติบโตในเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลซึ่งผลสำรวจจากแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉบับที่ 5 พ.ศ.2560 – 2569 ระบุว่า นักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มีภาวะเตี้ย ร้อยละ 7.2 มีภาวะผอม ร้อยละ 3.8 และมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนถึงร้อยละ 4.9 ซึ่งส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพในระยะยาวของเด็ก หลายฝ่ายจึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก เช่นเดียวกับที่ ‘มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย’ ได้ร่วมมือกับ ‘กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน’ จัดทำโครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ ขึ้น คุณกิจธวัช ฤทธีราวี ประธานกรรมการ มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมาของมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย โดยการร่วมมือระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์ และบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ตอบแทนสังคมทั้งในด้านการศึกษาและสุขภาพมาโดยตลอด โดยเฉพาะการมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ด้วยเชื่อว่าจะเป็นการวางรากฐานสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรของชาติให้เติบโตอย่างมีคุณภาพได้
“ที่ผ่านมา มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการศึกษาและสุขภาพ โดยด้านการศึกษา เราได้ร่วมกันสร้างและพัฒนาห้องสมุดมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย จำนวน 19 แห่ง ให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2553 ส่วนด้านสุขภาพ เรามี ‘โครงการแอมเวย์รักน้อง’ ซึ่งในปี 2557 ได้มอบเสื้อกันหนาวให้แก่นักเรียนที่ขาดแคลนไปกว่า 23,000 คน รวมถึงมอบชุดนักเรียนให้กับนักเรียนกว่า 25,000 คน ในปี 2558 และต่อมาในปี 2560 ได้รวบรวมเงินบริจาคจากทุกภาคส่วนเพื่อมอบจักรยาน 3,000 คัน ให้กับนักเรียนทั่วประเทศ รวมแล้วที่ผ่านมา มูลนิธิได้ให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไปแล้วกว่า 54,000 คน ด้วยงบประมาณสนับสนุนทั้งสิ้น 28 ล้านบาท โดยโครงการต่างๆ ที่มูลนิธิดำเนินการสามารถช่วยให้เด็กและเยาวชนได้มีการศึกษาและมีสุขภาพที่ดีเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ”
แรงบันดาลใจในการส่งต่อพลังแห่งความสุขผ่านสุขภาพที่ดียังก่อให้เกิดโครงการต่อเนื่องตามมา โดยเฉพาะโครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ ซึ่งไม่ใช่เพียงการมอบทุนสนับสนุน แต่คือการสร้างความยั่งยืนที่แท้จริงผ่านการสร้างแนวคิดที่แข็งแกร่ง รวมถึงสร้างทรัพยากรอันมีค่าเพื่อการมีสุขภาพที่ดีร่วมกัน
‘ฟาร์ม’ เพื่อสุขภาพของหนูและทุกคน
โครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ โดยมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่คือการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมผ่านทรัพยากรที่มีคุณค่าในชุมชน ซึ่งมีกรอบการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน ตั้งแต่การส่งเสริมด้านโภชนาการและสุขภาพของเด็กๆ ให้มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย การผลักดันให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรแบบผสมผสานและถ่ายทอดความรู้นั้นไปสู่ชุมชน จนถึงการขยายการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี เสริมสร้างความแข็งแรงและความยั่งยืนจากโรงเรียนสู่ชุมชน ด้วยเหตุนี้ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ จึงเป็นมากกว่าโครงการเพื่อเด็กและเยาวชน เพราะท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่หมายถึงความเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน
“โครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ สานต่อแนวทางการดำเนินงาน ภายใต้แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยการนำหลัก ‘ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง’ มาเป็นปรัชญานำทางการพัฒนาสุขภาพด้านโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียน โดยสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการขยายความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน ส่งเสริมเรื่องการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้จากการขายผลผลิตที่เหลือจากการรับประทานในครัวเรือน โดยได้เริ่มต้นให้การสนับสนุน 16 โรงเรียน ในความดูแลของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า จังหวัดกาญจนบุรี มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 นับเป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน จนวันนี้เราได้รวมพลังอาสาสมัครนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และพนักงาน ลงพื้นที่จัดคาราวานฟาร์มสุข เพื่อเปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้สัมผัสประสบการณ์ที่ทำได้จริงจากปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อติดตามผลสำเร็จของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งในจังหวัดราชบุรี รวมถึงจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย”
ทั้งหมดนั้นเกิดจากความมุ่งหวังที่แท้จริง คือความต้องการให้ชุมชนที่อยู่ห่างไกลเมือง สามารถมีแหล่งผลิตอาหาร ซื้อขายอาหารของชุมชนได้เอง ขณะเดียวกัน โรงเรียน ชุมชน และครอบครัว ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสม ซึ่งได้วางรูปแบบโครงการให้เป็นเสมือนการสร้างภูมิคุ้มกันให้โรงเรียน และชุมชน ได้พึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืนขึ้น เป็นต้นว่า ต่อให้ไม่มีหน่วยงานภายนอกที่ให้ความช่วยเหลือ โรงเรียนก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ รวมถึงยังสามารถเป็นที่พึ่งให้แก่ชุมชน พร้อมกันนั้นยังเปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ที่เกิดจากการลงมือปฏิบัติจริงจนชำนาญแล้วสามารถถ่ายทอดต่อไปยังชุมชนอื่นๆ ได้ ทั้งยังมีกองทุนหมุนเวียนที่พึ่งพาตนเองได้อีกด้วย
‘ความสุข’ ของหนู รอยยิ้มของทุกคน
‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ นับเป็นการมอบรอยยิ้มผ่านความสุขที่ยั่งยืนของเด็กและเยาวชน ด้วยแหล่งอาหารที่ผลิตได้เองจากฟาร์มที่สร้างขึ้นด้วยมือของตนเอง อันเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีของทั้งวันนี้ จนถึงวันต่อๆ ไปในอนาคตตามเจตนารมณ์ของ ‘ผู้ให้’ ที่หวังอยากเห็นเด็กไทยสุขภาพดี และเติบโตขึ้นไปเป็นกำลังที่แข็งแกร่งของชาติในวันหน้า
กิจกรรม คาราวานฟาร์มสุข กับโครงการ ‘ฟาร์มสุขภาพของหนู’ จึงถือเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญเพื่อร่วมชื่นชมดอกผลแห่งการมอบคุณค่าสู่สังคม ขณะเดียวกันก็คืนกลับความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งผ่านกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ที่ทั้งอาสาสมัครนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และพนักงาน ซึ่งลงพื้นที่เตรียมมาอย่างครบครัน ตั้งแต่ให้ความรู้ด้านโภชนาการและสุขภาพเด็ก การเลี้ยงอาหารกลางวันมื้อพิเศษ การมอบของขวัญ พร้อมเกมสนุกสนานอีกมากมาย ทั้งนี้เพื่อมอบรอยยิ้มให้แก่น้องๆ ในขณะเดียวกันก็รับพลังจากความสุขเหล่านั้นคืนกลับมาเป็นรางวัลสำหรับผู้ให้ทุกคนเช่นกัน