ทำไมการเป็น "ผู้หญิง" มันถึงยากเย็นขนาดนี้? (ชาติหน้าขอเกิดเป็นผู้ชายมั่งนะ...ฮ่าๆ) ก็ผู้หญิงมักป่วยเป็นโรคเฉพาะเจาะจงที่ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจ อย่างเช่นอาการ "ตกขาว" เราเชื่อว่าผู้หญิงเป็นบ่อย เป็นกันจนเบื่อเลยแหละ เป็นแล้วเป็นอีก บางครั้งก็ตกขาวแบบผิดปกติด้วย

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชวนสาวๆ มารู้ถึงสาเหตุของการ "ตกขาว" ของ "ผู้หญิง" ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่? ถ้าเป็นมาก หรือมีอาการตกขาวผิดปกติ จะต้องแก้ยังไง?

"ตกขาว" คืออะไร?

ตกขาว คือ สารคัดหลั่งทางช่องคลอด มีลักษณะเป็นมูกใสๆ หลั่งออกมาจากต่อมต่างๆ ภายในปากมดลูกและผนังช่องคลอด มักพบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ อาจทำให้สาวๆ จำนวนไม่น้อยหมดความมั่นใจ และยังก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วย

โดยปกติตกขาวจะมีปริมาณมากในช่วงเวลาที่ไข่ตกในระยะกลางของรอบเดือน แล้วจะหายไป และกลับมาอีกรอบช่วงใกล้มีประจำเดือน แปลว่าเป็นเรื่องปกติที่สาวๆ จะมี "ตกขาว" เป็นประจำ

...

ตกขาวปกติ VS ตกขาวผิดปกติ

ตกขาวปกติหรือตกขาวธรรมดา จะขึ้นอยู่กับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงที่เปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือน โดยปกติจะไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่ก่อให้เกิดอาการคัน และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ตกขาวจะถูกขับจากปากมดลูกให้ไหลมายังช่องคลอด เพื่อหล่อลื่นสร้างความชุ่มชื้นและช่วยป้องกันการติดเชื้อ

ส่วนตกขาวที่ผิดปกติ มักเป็นผลมาจากการติดเชื้อและอาการป่วยต่างๆ ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ อาจส่งผลให้มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดท้อง หรือขัดเบา และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นต้น

7 สาเหตุอาการ "ตกขาว" ผิดปกติ

อาการ ตกขาวผิดปกติ เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อหนองใน เชื้อรา เป็นต้น และยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อก็มี เช่น เกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอดหรือปากมดลูก การแพ้สารเคมี เช่น สารจากผ้าอนามัย หรือถุงยางอนามัย การสวนล้างช่องคลอด การเกิดติ่งเนื้อที่ปากมดลูก เป็นต้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสี และลักษณะของตกขาว

1. ตกขาวสีขาว

ตกขาวสีขาว มีลักษณะเป็นแป้งหนา หรือมีสีขาวข้น หรือปนเหลืองเล็กน้อย และมีอาการคัน หรืออาจเจ็บบริเวณช่องคลอดเล็กน้อย แต่มักไม่มีกลิ่นเหม็น อาจเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอด และไม่ใช่การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รักษาได้ด้วยการใช้ยาในกลุ่ม clotrimazole มีทั้งแบบยาทาและแบบเม็ดใช้เหน็บในช่องคลอด ช่วยฆ่าเชื้อราในช่องคลอด

2. ตกขาวสีเขียวเหลือง

ตกขาวเป็นสีเขียวเหลือง และมีกลิ่นเหม็น หรือคันมาก จะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาการแบบนี้ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้น ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุและการรักษาอย่างถูกวิธี

3. ตกขาวสีขาวขุ่นหรือเทา

ตกขาวสีขาวขุ่นหรือเทา และมีกลิ่นคาวปลา มีลักษณะเป็นเมือกบางและเปียก มีอาการคันมาก มักไม่พบอาการเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นภาวะช่องคลอดอักเสบที่เกิดจากความไม่สมดุลของเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด ไม่ใช่การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

...

4. ตกขาวสีชมพู

พบได้มากในหญิงหลังคลอด อาจเป็นการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกหลังคลอด ซึ่งไม่เป็นอันตรายอะไร มีลักษณะเป็นสีชมพูจางๆ 

5. ตกขาวมีเลือด

ตกขาวแบบมีเลือดสดปนออกมา และมีความเจ็บปวด ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน เจ็บปวดขณะปัสสาวะ และขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากประจำเดือนมาไม่ปกติ มะเร็งเยื่อบุมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูก

6. ตกขาวสีเขียว

เป็นตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอดประเภทโปรโตซัวที่มีชื่อว่า Trichomonas vaginalis ซึ่งมักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะเป็นฟอง มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว มีอาการคันและแสบแดงที่บริเวณอวัยวะเพศ ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการปัสสาวะขัดและมีตกขาวมากผิดปกติ 

7. ตกขาว เสี่ยงมะเร็ง

หากเป็นตกขาวมากๆ และมีอาการเจ็บปวด ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และหาว่าเป็นเชื้อชนิดไหน โดยแพทย์จะต้องนำตกขาวนั้นๆ ไปตรวจเพื่อหาเชื้อ หรืออาจนำไปเพาะเชื้อเพื่อดูว่าเชื้อดื้อยาหรือไม่ การตกขาวอาจเป็นจากมะเร็งโพรงมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูกก็ได้ 

...

รู้อย่างนี้แล้ว คุณผู้หญิงอย่านิ่งนอนใจ ถ้ามีตกขาวผิดปกติ และมีอาการคัน หรือเจ็บปวด ต้องรีบไปพบแพทย์นะคะ สามารถติดตามเรื่องราว "สุขภาพ" ดีๆ กันต่อได้ที่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ

ที่มา : rtcog, haamorhonestdocspobpad