"ผู้หญิง" ทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยมีเวลาดูแล "สุขภาพ" ตัวเอง ทั้งการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร หรือบางคนก็พอจะแบ่งเวลาได้นะ แต่มักจะลงมือทำได้ไม่กี่ครั้ง ก็ต้องล้มเลิกไปกลางคัน แบบนี้...จะมีวิธีไหน? ที่จะช่วยสาวๆ ให้งัดตัวเองมา "ออกกำลังกาย" และดูแลตัวเองได้อย่างง่ายๆ และต่อเนื่อง...(5 ความเชื่อผิดๆ ที่ "ลดน้ำหนัก" ยังไงก็ไม่มีวันผอม!)
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ได้มีโอกาสพูดคุยกับกูรูด้าน "สุขภาพ" สำหรับ "ผู้หญิง" อย่าง "เมจิ อโณมา" เพื่อซักถามและขอคำแนะนำเกี่ยวกับหลักวิธีคิดง่ายๆ เพื่อให้ "ผู้หญิง" งัดตัวเองมาออกกำลังกายให้ได้และต่อเนื่อง
3 หลัก "ออกกำลังกาย" ฉบับสาวออฟฟิศ
1. วางแผน จัดตารางชีวิต
ต้องเริ่มจากการวางแผน และจัดตารางเวลาชีวิตของคุณให้ดี เช่น ในแต่ละวันต้องเข้าทำงานกี่โมง? เลิกงานกี่โมง? ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานเท่าไหร่? หลังเลิกงานแล้วมีเวลาเหลือเยอะแค่ไหน สามารถเดินทางต่อไปที่ฟิตเนสได้ไหม? เป็นต้น
พอรู้เวลาทั้งหมดแล้ว ก็ค่อยจัดสรรเวลาส่วนหนึ่งเพื่อออกกำลังกายแทรกไว้ในตารางเวลาชีวิต อาจจะเป็นช่วงเช้า หรือช่วงเย็นก็ได้
สาวๆ พนักงานออฟฟิศบางคน เลือกที่จะไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสเซ็นเตอร์ตามที่ต่างๆ เพื่อหวังว่าจะกระตุ้นให้ตัวเองไปออกกำลังกายให้ได้บ่อยๆ แต่บางครั้ง...คุณก็มักจะเหนื่อยจากการทำงาน ก็ไม่อยากไปแล้ว หรือไม่ก็เหนื่อยขับรถไปยิม กว่าจะเสร็จ กว่าจะขับรถกลับบ้าน มันทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า ชีวิตมันยาก และสุดท้ายก็ล้มเลิกไป
...
2. ไอเดีย 15 นาที Say Yes!
เมจิ แนะนำว่า สาวๆ พนักงานออฟฟิศควรออกกำลังกายที่บ้านหรือคอนโดจะดีที่สุด ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลฝ่ารถติดในกรุงเทพฯ ใช้วิธีเปิดคลิปออกกำลังกายตามยูทูบ แล้วทำตาม แบบนี้จะเหมาะกับผู้หญิงทำงานที่เพิ่งจะหัดเริ่มออกกำลังกายมากที่สุด แค่แบ่งเวลามาทำวันละ 15 นาที!
ไอเดีย 15 นาที Say Yes! เป็นวิธีคิดที่ "เมจิ อโณมา" แนะนำให้สาวๆ ลองเอาไปทำตามกันดู เริ่มจากง่ายๆ ก้าวเล็กๆ ของคุณเนี่ยแหละ ตั้งเป้าในจุดหมายที่คุณรู้ว่าคุณทำมันได้แน่ๆ เช่น ถ้าบอกว่าคุณต้องออกกำลังกายทุกวันให้ได้วันละ 1 ชั่วโมง ถามตัวเองว่าจะทำได้มั้ย? ถ้าไม่ได้...ให้ลดเวลาลงมาเรื่อยๆ
บางคนคิดว่า ถ้าวันละ 30 นาที โอเคทำได้! ก็ให้เริ่มที่ 30 นาที แต่ถ้ายังคิดว่า 30 นาที อาจจะทำได้หรือไม่ได้ แปลว่ายังไม่มั่นใจ ก็ให้ลดเวลาลงมาอีกเป็น 15 นาที หรือจนกว่าความคิดในหัวจะบอกว่า เออ..ฉันทำได้แน่! แบบนี้คือจิตใต้สำนึกยอมรับและ Say Yes! 100% ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะสามารถงัดตัวเองมา "ออกกำลังกาย" ได้ง่ายๆ อาจจะแบ่ง 15 นาทีช่วงเช้าหลังตื่นนอน หรือ 15 นาทีช่วงก่อนนอน เป็นต้น
...
3. เก็บหน่วยกิตสุขภาพ
จริงๆ แล้ว การออกกำลังกายไม่ใช่แค่การไปฟิตเนส ปูเสื่อโยคะ ต่อยมวย หรือวิ่งเท่านั้น แต่เชื่อมั้ย? ว่าคุณสามารถ "เก็บหน่วยกิตสุขภาพ" และสามารถ "ออกกำลังกาย" ตามการเดินทางระหว่างวันไปได้เรื่อยๆ
"ไม่ใช่ว่าการออกกำลังกายแปลว่าต้องเข้ายิม ต้องมีเทรนเนอร์ ไม่ใช่ มันอยู่กับการที่เราทำมันทุกๆ วันนี่แหละ เก็บเล็กเก็บน้อบไปเรื่อยๆ เวลาขึ้นรถไฟฟ้า ลองไม่ขึ้นบันไดเลื่อนมั้ย? ลองเดินขึ้นบันไดปกติ เนี่ยเราก็ได้แล้วการออกกำลังกาย 5 นาที 10 นาที หรือการเดินไปไหนสักที่ แทนที่จะนั่งวินมอไซค์ แล้วพอมาดูที่ตัววัดนะ อ้าว...นี่เราเผาผลาญแคลอรีไปได้แล้ว 300 กว่าแคลฯ" เมจิบอก
การออกกำลังกายแบบเข้ายิม หรือวิธีการอื่นๆ มันก็ดี แต่อย่าลืมว่าควรสะสมการออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันด้วย มันก็จะช่วยให้ร่างกายของคุณได้เผาผลาญแคลอรีส่วนเกินได้ตลอดเวลา รับรองว่ารูปร่างที่ดีและสุขภาพที่ดีอยู่ใกล้แค่เอื้อม
...
คำถามยอดฮิต ในเพจ Meiji Anorma
กูรูสายสุขภาพคนนี้ได้ทำเพจส่วนตัวขึ้นมาได้ 3 ปีแล้ว เพื่อแชร์ความรู้และประสบการณ์ดีๆ เกี่ยวกับการมีสุขภาพดีให้สาวๆ ได้เอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีบางคำถามที่ถูกถามเข้ามาเยอะมาก และเมจิต้องตอบบ่อยๆ นั่นคือ
Q : ผู้หญิงมีรอบเดือน ออกกำลังกายได้มั้ย?
A : คุณแค่มีประจำเดือนนะคะสาวๆ ไม่ได้เป็นคนป่วย ดังนั้นคุณสามารถออกกำลังกายได้ปกติค่ะ แต่อาจจะต้องออกแบบเบาๆ ไม่หักโหมเกินไป แล้วจะบอกว่ายิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ ยิ่งจะช่วยให้อาการปวดประจำเดือนบรรเทาลงได้ด้วย ยกเว้นผู้หญิงบางคนที่เขามีอาการหนักเฉพาะเจาะจง ที่ถึงขั้นวิงเวียน หน้าซีด จะเป็นลม อันนั้นถือว่าเข้าข่ายว่าเป็นคนป่วย ไม่สบาย และควรพักผ่อนค่ะ
...
Q : อยากมีซิกซ์แพ็กเหมือนพี่เมจิ ต้องทำยังไงบ้าง?
A : แล้วน้องจะเอาซิกซ์แพ็กไปทำอะไร? อย่าหลงทางนะคะ อยากมีซิกซ์แพ็กแค่เอามาถ่ายรูปขึ้นไอจีเหรอ? แล้วหลังจากนั้นยังไง? เลิกทำ? นั่นก็แปลว่าไม่ใช่การมุ่งสู่สุขภาพดีอย่างยั่งยืน
เมจิมองว่า การออกกำลังกายเพื่อหุ่นดีมีซิกซ์แพ็กนั่นมันสำหรับดารา นางแบบ และเขาต้องอัพรูปลงโซเชียล เขาต้องสวย ผิวดี รูปร่างดี เพราะมันเป็นงานของเขา แต่สำหรับพวกเราที่เป็นสาวๆ ออฟฟิศ เราต้องมีเป้าหมายของเรา อย่าไปเสียเวลากับอะไรตรงนั้นเลยค่ะ
แนะนำว่า กลับมาตั้งเป้า แล้ววางแผนการออกกำลังกายไปตามเป้าหมายของเราให้ได้ น่าจะดีกว่า แล้วถ้ามันทำได้แล้ว เชื่อได้ว่าคุณจะไม่หยุดนิ่ง คุณจะอยากทำมันไปเรื่อยๆ เอง แล้วจะได้สุขภาพดีอย่างยั่งยืนแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม :
ที่มาภาพ : meiji_27anorma