ผมเชื่อเรื่องกฎของแรงดึงดูด ทำหน้าที่จัดสรรให้คนที่มีความชอบความหลงใหลในเรื่องคล้ายกันมาบรรจบพบกัน ส่วนตัวผมชื่นชอบการเกษตรปลูกพืชผักผลไม้อยู่เป็นทุน ครั้งนี้ เป็นอีกบทพิสูจน์ของกฎแห่งแรงดึงดูด ที่ชักนำผมให้มาพบกับ “เกษตรกรหัวใจอินทรีย์” ที่ทุ่มเททำเกษตรผสมผสานเป็นพื้นฐาน ก่อนจะต่อยอดด้วยการนำพืชผักสวนครัวไร้สารเคมีมาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยให้คนรักสุขภาพได้ลิ้มลอง

สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำ “ไสวคาเฟ่” ร้านคาเฟ่เก๋ๆในซอยไทยรามัญ ย่านหทัยราษฎร์ รับรองว่าใครผ่านไปมาย่านนี้ต้องสะดุดตาในความร่มรื่นมีสไตล์ เพราะโดดเด่นด้วยตัวบ้านสีฟ้าพาสเทล ที่โอบล้อมด้วยทุ่งนาเขียวขจี และแปลงผักผลไม้นานาชนิด บนพื้นที่กว่า 10 ไร่

ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เครื่องดื่มชากาแฟ แต่มีอาหารให้เลือกทานหลากหลายรสชาติ ผมดับกระหายด้วย “ชาสองสหาย” ส่วนผสมระหว่างชาไทยกับชาเขียวสูตรเฉพาะไม่เหมือนใคร ระหว่างที่นั่งดูเมนูอาหาร “คุณน้ำผึ้ง ใจใหญ่” สาววัย 44 ปี เจ้าของร้านแต่งกายในชุดม่อฮ่อม ยิ้มหวานพร้อมให้บริการ ประเดิมเมนูแรกด้วย “ข้าวแกงเขียวหวานเนื้อน่องลาย” เครื่องแกงเขียวหวานหอมฉุยขึ้นจมูกรสชาติแกงเข้มข้น เนื้อน่องลายเคี่ยวจนเปื่อยนุ่มละมุนลิ้น เคล็ดลับของเมนูนี้คือการใส่พริกแห้งและพริกขี้หนูสวนโขลกพร้อมกับเครื่องพริกแกง ส่วนเนื้อน่องลายที่มีความเหนียวต้องเคี่ยวแล้วพัก ก่อนกลับไปเคี่ยวใหม่ใช้เวลา 2 วันเต็ม จึงนุ่มละมุนลิ้น เป็นสูตรดั้งเดิมของ “คุณยายไสว” ส่งต่อให้ลูกหลานไว้ใช้ทำมาหากิน

...

จานเด็ดขายดียังยกให้ “สปาเกตตีสไปซี่มีตบอล” รสชาติจัดจ้านสมชื่อ คุณผึ้งบอกว่า ตัวซอสมะเขือเทศทำขึ้นเองจากมะเขือเทศออร์แกนิก ปรุงแต่งรสด้วยเครื่องเทศทั้งไทยและเทศตามสไตล์อิตาเลียน ไม่ได้ใช้ซอสมะเขือเทศสำเร็จรูป รสชาติจึงแตกต่างด้วยความหอม ขณะที่มีตบอลชุ่มฉ่ำถึงเนื้อในเข้ากันดี อีกจานเด็ดไม่น่าพลาดคือ “โรตีแกงเขียวหวานไก่” ต้องยอมรับว่าร้านนี้พริกแกงหอม และรสชาติเข้มข้นจริงๆ ยิ่งทานคู่กับแป้งโรตีกรอบ โอ้โห!! อร่อยเพลินลืมนับแคลอรี หรือจะสั่ง “สตูลิ้นหมู” มาแจมก็ไม่ผิดกติกา

เหลือบดูตู้เย็นมีผักสดใหม่ไร้สารเคมีแช่อยู่ละลานตา เตรียมให้ลูกค้าได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ทั้งกวางตุ้ง, มะเขือเปาะ, ถั่วฝักยาว, มะนาวไร้เมล็ด และพริกกะเหรี่ยง คุณผึ้งเห็นคุณชายแป๊ะตาลุกวาวจึงชวนไปเดินเล่นชมสวนผักผลไม้

ภายในสวนแบ่งโซนฟากหนึ่งขุดดินยกร่องปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ ต้นใหญ่เล็กสลับกันไปตามขนาดต้นไม้ บางต้นมะนาวดกขึ้นเบียดกันหนาแน่น บางต้นกำลังเติบโตแตกยอดใบอ่อน ร่มเงาใต้ต้นไม้มีแสงแดดลอดรำไร ผมยืนดูฝูงเป็ดร้องก้าบก้าบ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติ แอบชื่นชมเจ้าของร้านที่สร้างระบบนิเวศให้คน, สัตว์ และต้นไม้อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว

...

คุณผึ้งเล่าว่า “เดิมตรงนี้เป็นผืนนาไร้การดูแล ถูกปล่อยให้ต้นไม้ขึ้นรกเต็มไปหมด กระทั่งปี 2560 ครอบครัวตัดสินใจขายที่นาผืนนี้ เพราะเจ้าของที่นาข้างเคียงทยอยขายที่ดินให้บริษัทหลายแห่งเพื่อสร้างหมู่บ้าน ผึ้งกับพี่น้องรู้สึกเสียดายที่ดิน ซึ่งเป็นมรดกของคุณยายไสวที่มอบให้ลูกหลาน จึงเริ่มทำการเกษตรอินทรีย์ โดยปลูกต้นมะนาวในบ่อซีเมนต์ ปรากฏว่าได้กิ่งพันธุ์ไม่ดียืนต้นตายเกือบหมด แม้จะล้มเหลวแต่ผึ้งไม่ยอมแพ้ ไปเรียนรู้การปลูกมะนาวที่ ม.เกษตร เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่การปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ หัดเลี้ยงไส้เดือนนำมูลไส้เดือนมาปรุงดิน ประกอบกับได้กิ่งพันธุ์ที่ดี ต้นมะนาวจึงเติบโตแข็งแรงทนต่อโรคและแมลง ความสำเร็จจากการปลูกมะนาวเป็นเหมือนการปลดล็อกไปสู่การขยายพื้นที่ปลูกผักสวนครัวกว่า 50 ชนิด คราวนี้ลงทุนขุดบ่อน้ำเลี้ยงปลา สร้างระบบนิเวศให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติจริงๆ”

“เมื่อสวนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง จึงตามมาด้วยไอเดียสร้างบ้านในสไตล์อิงลิชนอร์มอล โดยใช้โทนสีฟ้าให้เข้ากับบรรยากาศของสวน และต่อยอดมาเป็นร้านคาเฟ่อย่างที่เห็น ผึ้งนำผักออร์แกนิกจากสวนมาเป็นวัตถุดิบในร้านและบรรจุถุงขายให้ลูกค้านำกลับบ้าน ไข่เป็ดของเราก็เป็นเป็ดที่เลี้ยงอย่างอิสระ ลูกค้าหลายคนติดใจในรสชาติ เพราะไม่มีกลิ่นคาว ผลพวงจากการเลี้ยงเป็ดยังได้มูลเป็ดเป็นปุ๋ยอีกด้วย”

...

มาถึงวันนี้พิสูจน์แล้วว่า เธอตัดสินใจถูกที่ไม่ขายที่ดิน พี่น้องทุกคนร่วมแรงร่วมใจพลิกฟื้นผืนนา ให้กลายเป็นพื้นที่ของความสุข ข้อสำคัญของการทำการเกษตรคือ ลงมือทำแล้วห้ามหยุด หากหยุดเท่ากับทุกอย่างจบ เมื่อล้มเหลวต้องอดทน หาความรู้เพิ่มเติมแล้วเริ่มใหม่

สนนราคา ข้าวแกงเขียวหวานเนื้อน่องลาย 130 บาท, สปาเกตตีสไปซี่มีตบอล 130 บาท, โรตีแกงเขียวหวานไก่ 140 บาท, ข้าวสตูลิ้นหมู 150 บาท, ชาสองสหาย 80 บาท, มะนาว-พริก-ถั่วฝักยาว แพ็กละ 25 บาท ส่วนมะนาวไร้เมล็ดผลใหญ่ 40 บาท “ไสวคาเฟ่” เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 07.30-18.00 น. โทร.08-1646-5953 หรือคลิกดูรายละเอียดที่ Facebook : Swai Cafe.

คุณชายแป๊ะ