ท้องถิ่นใดมีข้าวปลาอุดมสมบูรณ์ ท้องถิ่นนั้นย่อมได้เปรียบในเรื่องข้าวปลาอาหาร เพราะแม่ครัวสามารถปรุงได้สดใหม่ ส่งผลให้อาหารรสอร่อย
แดดสายวันนี้ “คุณชาย 2” ใช้ถนนเส้นตลิ่งชัน บางบัวทอง มุ่งหน้าเข้า “บรรหารบุรี” ตามเสียงเพลงของไอ้หนุ่มบางปลาม้า เสรี รุ่งสว่าง ที่ชักชวนว่า “ไปไหมแจ่มจันทร์ไปเที่ยวสุพรรณบ้านพี่ เมืองสุพรรณบุรีมีของดีมานาน...”
ปล่อยให้เสรีร้องไป เรามาชิมอาหารกันดีกว่า เลี้ยวรถแยกจากถนนเส้นบางบัวทอง สุพรรณ ตรงเข้ามายังวัดไผ่โรงวัว ก่อนถึงราว 1 กม. มองด้านขวามือเห็นร้าน “23 น.” โดดเด่นเป็นสง่า มองดูเป็นร้านเล็กๆ แต่สะอาดสะอ้าน
ปลาช่อนต้มยำยังเดือดปุดๆ โชยกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย
โบราณว่าเจองูให้ตี เจอหมีให้นิ่ง แต่คราวนี้ “คุณชาย 2” เจอต้มยำจะรออยู่ไย ซดน้ำร้อนๆนำเข้าไปพลางๆก่อน ปลาช่อนชิ้นโตๆ ต้มสดๆ รสน้ำจากเนื้อปลาบวกเครื่องปรุงทำให้ต้องซดทบทวนอีก 1 คำรบ ถึงบอกได้ว่า หอมกลิ่นเครื่องปรุงโชยมาบางๆ เปรี้ยวนำมาเบาๆ และอยากจะบอกว่า เมื่อชิมเนื้อปลาช่อนชิ้นโตๆแล้ว เนื้อปลานุ่มนวลและหวานนิดๆ ผลมาจากความสดใหม่ของปลานั่นเอง
...
ปลาจะไม่สดได้อย่างไรกัน ในเมื่อท้องถิ่นอำเภอสองพี่น้อง สถานที่ตั้งของวัดไผ่โรงวัวและร้าน 23 น. มองไปทางไหนก็มีแต่ปลา จะเรียกว่าคืบก็ปลาศอกก็ปลาก็ยังได้
ยังมิคลายจากรสอร่อยของต้มยำ ปลาหมอตัวโตๆ ฉู่ฉี่ออกจากกระทะร้อนๆ ก็วางตรงหน้า การไม่จู่โจมจิกเนื้อออกมาชิมดูจะเป็นการเสียมารยาทมากไป “คุณชาย 2” จึงตวัดช้อนจิกเนื้อปลาหมอพร้อมกับเครื่องปรุงสีออกส้มๆ จากส่วนผสมของเครื่องแกงเข้าปากไปอย่างว่องไว กะทิจากมะพร้าวสดๆ คั้นมาอย่างดี ประสานกับพริกแกงที่อุดมไปด้วยเครื่องปรุงสมุนไพรอย่างพริก กระเทียม ผิวมะกรูด และอีกหลายประการประสานกันช่วยดับกลิ่นคาวไปสิ้น เหลือก็แต่ความอร่อยเนื้อปลาหมอให้ลิ้มลอง
ปลาหมอแต่ละตัวคัดสรรขนาดมาเท่าๆกัน น้ำหนักแต่ละตัวหลายขีดทีเดียว เรารู้กันดีว่าปลาหมอยิ่งตัวโตเท่าไร เนื้อปลาก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัวเท่านั้น ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย
คุณเคยกินกุ้งแม่น้ำพล่าไหม ถ้าไม่เคยหรือเคยแต่ไม่อร่อยก็ลองมาชิมที่ร้าน 23 น.ดูได้ เพื่อจะได้รู้ว่ากุ้งพล่าอร่อยๆ เขาทำกันอย่างไร
ตามติดไปด้วยกบทอดกระเทียม ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทุ่งเมืองสุพรรณ นอกจากปลาตัวโตแล้ว กบก็ตัวโตไม่อายปลาเหมือนกัน รายการนี้แม้จะดูแห้งๆ แต่เมื่อลองหยิบมาบิเบาๆ กลิ่นของเนื้อกบผสมกับน้ำปลาจางๆก็ลอยเข้าจมูก ไม่ต้องบอกหรอกว่ามันยั่วยวนขนาดไหน ส่งเข้าปากไปเลยเหมาะกว่า เนื้อกบขาวๆเคี้ยวง่ายได้รสชาติเนื้อกบผสมกับน้ำปลาอ่อนๆ นุ่มเจือเค็มนิดๆ แถมด้วยเนื้อกบสดๆ มีรสหวานน้อยๆตามมาด้วย
อยากจะบอกว่า ถ้าเป็นแดดอ่อนๆตอนเย็นๆ นั่งริมทุ่งมองยอดข้าวเขียวขจี ลมทักทายยอดข้าวเป็นริ้วๆ เราจิบน้ำมีแอลกอฮอล์บางๆ แกล้มด้วยกบทอดกระเทียมชิ้นโต ไม่อยากจะบอกเลยว่า รสชาติของการกินกับการมองว่าอย่างไหนจะอร่อยกว่ากัน
...
ดูความเป็นมาของร้านกันหน่อย นฤมล พงษ์สวัสดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านบอกว่า ร้านเริ่มขายมาตั้งแต่ราว พ.ศ.2537 เป็นร้านขายข้าวต้มโต้รุ่งเปิดขายราว 23.00 น. ยามนั้นเลยตั้งชื่อว่า “ร้านข้าวต้ม 23 น.”
ต้องการสื่อนัยว่า เวลา 23.00 น. เจอกัน
หลังจากเปิดขายข้าวต้มมาระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด และเปลี่ยนมาเป็นอาหารตามสั่ง และในที่สุดก็เป็นร้านอาหาร “23 น.” ในปัจจุบัน
อาหารที่ขายเน้นอาหารพื้นบ้านจำพวกปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาบู่ ปลาเหล่านั้นส่วนใหญ่ชาวบ้านจับมาขายให้ ทำให้ร้านได้ปลาสดๆ จากท้องนาอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาแต่บรรพกาล
...
เนื่องจากเปิดขายอาหารมาราว 30 ปี จึงกลายเป็นร้านที่รู้จักกันทั่วไป โดยเฉพาะข้าราชการในอำเภอสองพี่น้อง อำเภอที่มีสมาชิกในบ้านน้อยที่สุดในประเทศไทย เวลากลางวันจะมารับประทานกันคับคั่ง บ้างก็มาสั่งใส่ถุงไปรับประทานกันที่สำนักงาน หรือไม่ก็ในงานเลี้ยงต่างๆ
สำหรับรายการอาหารหลักๆที่คนสั่งคือ คุณนฤมลบอกว่า มีต้มยำปลาช่อน ปลาหมอฉู่ฉี่ กบทอดกระเทียม พร้อมกระซิบดังๆว่า ร้านใช้รสเผ็ดนำ ดังนั้น คนที่ไม่ชอบอาหารรสจัดจ้านต้องบอกตอนสั่งอาหารก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าต้องมาเสียน้ำตาให้กับความเผ็ดไปเปล่าๆ
อาหารรายการอื่นๆก็มี อาทิ ปลาไหลผัดเผ็ด ปลาดุกผัดหน่อไม้ดอง ปลาดุกผัดเผ็ด สายบัวผัดกุ้ง กุ้งทอดกระเทียม ยำกบ ยำตะไคร้ พร้อมต้ม ยำ พล่า แกง ผัด อีกสารพัดแล้วแต่ลูกค้าต้องการ ไม่ต้องห่วงว่าจะทำไม่ได้ แม่อำนวยแม่ครัววัย 72 ปี เป็นประกัน
สนใจอาหารพื้นบ้าน ตรงไปที่ร้าน 23 น. ตั้งอยู่ข้างวัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. หยุดวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน จำง่ายๆก็คือหยุดวันหวยรัฐบาลออกนั่นเอง สงสัยประการใดติดต่อได้ที่เบอร์ 08-9200-3104 เจ้าของร้านยินดีต้อนรับ
...
“คุณชาย 2” ขอบอกก่อนว่า สำหรับคนที่ชอบไหว้พระ อาจเลยไปไหว้หลวงพ่อขอมก่อนก็ได้
วัดไผ่โรงวัวตั้งอยู่ใกล้ๆร้าน พอเดินจนหิวแล้วค่อยกลับมารับประทานอาหารก็ได้ ภายในวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ข้าวของขายสารพัดอย่าง โดยเฉพาะจำพวกบรรดาปลาๆทั้งหลาย อาทิ ปลาเค็ม ปลาร้า กะปิ สถานที่เยี่ยมชมเพลินๆ ภายในวัดไผ่ฯ มีทั้งสวรรค์และนรกให้เลือกได้ตามใจเรา
เห็นไหมว่าคนสุพรรณใจดี นอกจากมีอาหารอร่อยๆให้ทานแล้ว ยังมีสวรรค์และนรกให้เลือกชมอีกด้วย.
คุณชาย 2