เป็นกระแสร้อนแรงในวงการอาหารไทยมากทีเดียว เมื่อมีการประกาศผลมอบดาวมิชลินให้แก่ร้านอาหารรไทย ขึ้นโชว์ในสมุดเล่มแดง ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา

วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาบรรดานักชิมไปส่องร้านอาหารไทยที่คว้า 1 ดาวมิชลินมาประดับทั้ง 7 ร้าน ว่ามีเมนูไหนเด็ด น่าลองกันบ้าง แอบน้ำลายไหลเบาๆ ตามมาดูกันดีกว่า...

1. ร้านเจ๊ไฝ

เริ่มจากร้านสตรีทฟู้ดเจ้าเดียวในเมืองไทยที่ได้มิชลินสตาร์ 1 ดาวไปครอง ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิม ขายมานานประมาณ 35-40 ปี ซึ่งยังคงเอกลักษณ์การปรุงอาหารด้วยเตาถ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนักชิมสายซีฟู้ดเขารู้จักกันดีว่าร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เน้นเรื่องความสดสะอาดของอาหารทะเล แต่ก็มีราคาสูงพอสมควร

โดยเมนูขึ้นชื่อของร้านเจ๊ไฝอย่าง ‘ไข่เจียวปู’ มีราคาถึงจานละ 800-1,000 บาท เจ๊ไฝแอบกระซิบมาว่าขายราคานี้มาตั้งแต่ก่อนได้รับดาวมิชลินนะจ๊ะ

...

เมนูแนะนำ : ไข่เจียวปู, ราดหน้าทะเล, ปูผัดผงกะหรี่, ผัดขี้เมาทะเล

พิกัด : ตั้งอยู่ที่ 327 สี่แยกสำราญราษฎร์ แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม.

จากถนนราชดำเนินวิ่งตรงมาถึงแยกผ่านฟ้า ให้เลี้ยวเข้าสู่ถนนมหาไชย ร้านอยู่ติดริมถนน เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 13.30-01.30 น. โทร. 0-2223-9384 (ไม่รับจองโต๊ะ)

2. ร้านโบ.ลาน 

โบ.ลาน เป็นร้านอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงรสที่อยู่ในอาณาจักรไทยเท่านั้น เน้นในการส่งเสริม สนับสนุน การใช้ผลิตผลทางการเกษตร และทรัพยากรอาหารแบบธรรมชาติที่มีความหลากหลายทั้งทางชีวภาพและพันธุกรรม

รายการอาหารของโบ.ลาน จึงถูกคิดค้น รังสรรค์ ปรุง และปรับเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล เพราะแต่ละฤดูจะมีของดีของอร่อยที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังเน้นการใช้วัตถุดิบแบบอินทรีย์ ปลอดสารเคมี เพราะถือเป็นทั้งหัวใจและพื้นฐานสำคัญในการปรุงอาหาร

เมนูแนะนำ : ยำเนื้อย่างมังคุด จุดเด่นคือ กะปิ เนื้อโคขุนย่าง และมังคุด ปรุงมาอย่างดีได้รสชาติน้ำยำแซ่บๆ ได้กลิ่นหอมของใบสะระแหน่ และความเค็มของกะปิตัดกับความหวานของมังคุด โดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย นอกจากนี้ก็ยังมีเมนู น้ำพริกกุ้งเสียบ, แกงขี้เหล็กมอญ, ผัดกุ้งใส่กระท้อน, หลนแหนมทอดมัน

พิกัด : ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 23 คลองเตย กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 16.00-22.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

3. ร้านเสน่ห์จันทร์

ต่อมาจะพาไปส่องร้านเสน่ห์จันทร์ ซึ่งเหมาะสำหรับนักชิมที่กำลังมองหาร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ตัวร้านให้บรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยที่มีความหรูหรา เมนูแต่ละจานก็คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงอย่างพิถีพิถันในทุกกระบวนการ

เชฟของทางร้านมีการคิดค้น พัฒนาสูตรบางตำรับ ให้เพิ่มรสสัมผัสลิ้น โดยไม่ทิ้งความเป็นไทยดั้งเดิม ทุกจานของร้านเสน่ห์จันทน์ จึงมีเรื่องราวให้ค้นหา และมีเมนูให้เลือกลิ้มลองอย่างหลากหลาย

เมนูแนะนำ : ไข่พะโล้หมูเต้าเจี้ยว, ห่อหมกปลาช่อนนา, ขนมมงคลไทยโบราณ

...

พิกัด : ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองบริเวณอาคารสินธร ถนนวิทยุ เปิดให้บริการมื้อกลางวันเวลา 11.30-14.00 น. มื้อเย็นเวลา 18.00-22.00 น. เลานจ์เปิดเวลา17.00-24.00 น.

4. ร้านสระบัว บายกินกิน (Sra-Bua by KiinKiin)

สำหรับนักชิมที่ชอบแสวงหารสชาติแปลกใหม่ไร้ขอบเขต ร้านอาหารงดงามแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ตอบโจทย์นั้น ร้านนี้นำเสนอนวัตกรรมอาหารไทยล้ำสมัย ที่จะเปิดประสบการณ์สุดล้ำของศิลปะการปรุงอาหาร

...

เชฟที่มากความสามารถ จะเน้นการปรุงอาหารแบบผสมผสาน ยังคงรักษาความเป็นไทยในรสชาติและวัตถุดิบ แต่มีการตีความใหม่และรังสรรค์ให้กลายเป็นจานเด็ดสุดครีเอทที่มีเอกลักษณ์ ด้วยแรงบันดาลใจจากเทคนิคการปรุงของ Kiin Kiin จากโคเปนเฮเกน

เมนูแนะนำ : Maine Lobster Salad, Frozen Red Curry แกงแดงเย็นกับกุ้งมังกรเนื้อขาวเด้ง ทานกับไอศกรีมแกงแดงเข้มข้น มีรสหวานจาก Lychee Foam และลิ้นจี่

...

พิกัด : ตั้งอยู่ที่ Siam Kempinski Hotel Bangkok ชั้น Lobby 991/9 ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการทุกวันเวลา 12.00-15.00, 18.00-23.00

5. ร้าน Paste

ส่วนร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยสไตล์ Innovative ที่ยังคงยึดคอนเซปต์การปรุงอาหารแบบไทยดั้งเดิม แต่นำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อให้ได้อาหารไทยที่รสชาติถูกปากทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือฝรั่ง

เมนูแนะนำ : แสร้งว่ากุ้งมังกร, ลาบไก่ฟ้าคั่ว, สาคูไส้ปลาเทร้าต์จากโครงการหลวง, เมี่ยงปลาทูและเป็ดรมควันกับน้ำพริกข่า

พิกัด : อยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้า Gaysorn Shopping Centre ย่านปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการทุกวัน 12.00-14.00 น., 18.30-23.00 น.

6. ร้านชิม บาย สยาม วิสดอม (Chim by Siam Wisdom)

หลังจากการปรับโฉมปลายปี 2017 ชิม บาย สยาม วิสดอม นำเสนอสำรับไทยที่ผสานความโบราณและความทันสมัยได้อย่างลงตัวงดงาม จะเลือกสั่งเมนู à la carte ตามใจชอบมาแบ่งกัน หรือสั่งเป็นเซตเมนูที่มีความหลากหลายแต่ครบรสก็ได้

เมนูแนะนำ : หมี่กรอบชาววัง, ขนมช่อม่วง, ต้มยำปลาช่อนโบราณสูตรหม่อมส้มจีน ร.ศ. 109

พิกัด : ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 31 แยก 4 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12:00-14:30 น. และเวลา 18:00-22:30 น.

7. ร้าน Nahm

ร้านอาหาร Nahm ให้ความสำคัญกับรสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิม ใช้วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติแปลกใหม่ และมีรสนิยมทุกจาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหวาน เนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือผัก ห้องอาหารตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง

ผู้เข้าพักในโรงแรมสามารถรับประทานอาหารภายในห้องแอร์เย็นสบาย หรือจะออกไปนั่งที่ลานระเบียงก็ชมวิวได้ชิลๆ นอกจากนี้ยังมีห้องรับประทานอาหารส่วนตัวที่เหมาะสำหรับงานสังสรรค์อีกด้วย

เมนูแนะนำ : แกงเหลืองกุ้งสด, พล่าหอยเชลล์, ม้าฮ่อ, กุ้งย่าง

พิกัด : ตั้งอยู่ที่ในโรงแรม Metropolitan By Como บนถนนสาทร เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-14.00 น. , 18.00-22.00 น.

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เชื่อเหลือเกินว่าเมนูเด็ดของแต่ละร้านนั้นสมคำร่ำลือ สมแล้วที่สามารถคว้าดาวมิชลิน 1 ดวงมาครอง ใครอยากตามรอยเมนูเด็ดเหล่านี้ อย่ารอช้า อ่านจบแล้วเริ่มได้ ไปกันเลย!

ที่มาภาพบางส่วน : sanehjaan, glasshouseatsindhorn, kempinski, comohotels, guide.michelin, Bo S.foursquare