เมนูขึ้นสำรับวันนี้ ดัดแปลงจากเมนูเนื้อเค็มต้มกะทิ อาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากขึ้นแล้ว เพียงแต่เนื้อเค็มต้มกะทิ ต้องนำเนื้อเค็มลงไปต้มกับกะทิให้เนื้อเปื่อยนุ่ม และน้ำกะทิก็มีรสชาติออกเค็มๆหวานๆ คล้ายกับหลนอย่างหนึ่ง จากการนำเสนอของ คุณท๊อป–ธนัญชัย ลิมปิพิพัฒนากร นักธุรกิจอารมณ์ดี กรรมการผู้จัดการ 3 บริษัท ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องตกแต่งบ้าน ทั้งนำเข้าคริสตัลแชนเดอเลียร์ นำเข้าเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ และโรงงานทอพรม
ด้วยหุ่นของผู้มี อันจะกิน คงเป็นคำเฉลยได้อย่างดี ถึงการเป็นทั้งนักกินและนักปรุงของคุณท๊อป โดยเขาเล่าว่า ชอบเข้าครัวทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และมักจะเป็นคนทำกับข้าวกับปลาเตรียมไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ทาน หลังกลับจากทำงาน ซึ่งทั้งเหนื่อยและหิวกลับมา และเขายังเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ เพราะต้องไปเลี้ยงลูกค้า เมื่อเจออาหารถูกปาก ก็มักจะจำมาทำเองที่บ้าน อย่าง เนื้อเค็มผัดกะทิสด ที่นำเสนอวันนี้ คุณท๊อปไปได้สูตรมาจาก เชฟสันติภาพ เพชรว่าว หัวหน้าพ่อครัวแห่งห้องอาหารไทยสวนบัว โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว แต่ถ้าใครไม่ชอบเนื้อคุณท๊อปบอกว่า เปลี่ยนเป็นใช้เนื้อหมูก็ได้ แต่ต้องบอกก่อนนะว่า รสชาติจะแตกต่างกันมาก สำหรับเนื้อเค็มจะทำเองก็ได้ โดยใช้เนื้อวัวส่วนที่เรียกว่าเนื้อลูกสะโพกมาสไลด์เป็นแผ่นไม่ต้องบางมาก แล้วหมักเกลือ น้ำปลาอย่างดี น้ำตาลปี๊บ ทิ้งไว้สัก 2 ชม.ให้เครื่องปรุงแทรกเข้าในเนื้อ จากนั้นนำไปตากแดดจัดๆ สัก 3 แดด ก็จะได้เนื้อเค็มกำลังทาน เมื่อนำมาย่างกับเตาถ่านก็จะยิ่งเข้ากันดีกับกะทิสด ตามแบบที่คนโบราณท่านได้คิดมาอย่างดีแล้ว
...
เครื่องปรุง : เนื้อเค็มฉีกฝอย 100 กรัม/น้ำมันพืช 20 กรัม / หัวกะทิสด 80 กรัม/หัวหอมแดงซอย 50 กรัม/หอมแดงเจียว 40 กรัม/พริกขี้หนูทอด 10 กรัม/ พริกไทยป่น (แล้วแต่ชอบ)
วิธีทำ 1) ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตั้งไฟให้ร้อน 2) ใส่หัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง แล้วตามด้วยหอมแดงซอยลงไปผัดจนหอมและให้กะทิแตกมันจนเป็นเงา 3) ใส่เนื้อเค็มฝอยลงผัดให้เข้ากันและส่งกลิ่นหอม 4) ปรุงรสด้วยกะทิที่เหลือ พร้อมด้วยน้ำตาลปี๊บ ผัดให้เข้ากันชิมรสออกหวานปะแล่มๆ 5) ใส่หอมเจียวและพริกขี้หนูทอดลงไป พร้อมกับเร่งไฟให้แรงเพื่อให้เนื้อส่งกลิ่นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนตักใส่จานตกแต่งด้วยใบผักชี พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้นๆ.