ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาหลายหนแล้ว ก็มักจะไปฝากท้องกับร้านเดิมๆ ใช่มั้ย? แต่ถ้าคุณอยากลองทานอาหารอร่อยแบบอื่นๆ บ้าง เราขอแนะนำอาหารแนวฟิวชั่นเก๋ๆ ที่ตอนนี้มีมาเสิร์ฟให้ลองกันแล้วนะจ๊ะ กับร้านอาหาร ณ คิดถึง ที่ตั้งอยู่ในโครงการชูชัยบุรีศรีอัมพวา แลนด์มาร์กท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของเมืองอัมพวา

วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปชิมความอร่อยรูปแบบใหม่ เป็นเมนูพื้นบ้านแนวฟิวชั่น ที่นำเอาวัตถุดิบหลักจากท้องถิ่นอัมพวามาปรุง และมีการออกแบบจัดจานให้สวยงามดูหรูหราระดับอินเตอร์ แต่ราคาน่าคบ รับรองว่าคุณจะได้ทานอาหารจานอร่อยง่ายๆ แบบสบายกระเป๋า งานนี้ พยุง ใจเย็น หรือเชฟน้อย เชฟประจำ ร้านอาหาร ณ คิดถึง ได้ครีเอตเมนูสูตรเด็ดด้วยตัวเอง

เชฟน้อย บอกว่า ไอเดียในการครีเอตเมนูเซ็ตนี้ มาจากแนวคิดว่า เมืองอัมพวาแห่งนี้มีวัตถุดิบชั้นดีอยู่หลายอย่าง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเล พืชผักประจำถิ่น ซึ่งหาทานได้ยากและมีรสชาติเฉพาะตัว อย่างเช่น ชะคราม ดอกอัญชัน มะพร้าว ปลา หอย กุ้งแม่น้ำ เป็นต้น ก็คิดว่าไหนๆ จะทำอาหารพื้นบ้านของคนอัมพวาทั้งที ก็จะต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้มาปรุง และนำเสนอในแนวประยุกต์ ออกแบบให้ทันสมัยมากขึ้น จึงได้ออกมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านทั้ง 6 เมนู ซึ่งหารับประทานที่อื่นไม่ได้

...

ส่วนจะมีอะไรแนะนำบ้าง ตามมาดูกันเลย

1. ผัดไทยทูน่า 

เป็นเมนูฟิวชั่นที่น่าสนใจมาก นอกจากจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การคิดเมนูก็เก๋ไก๋ไม่เบา สำหรับคนที่รักสุขภาพก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทานปลาทูน่าดีต่อร่างกาย ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เชฟน้อยจึงรังสรรค์ออกมาเป็นเมนูเย็น คล้ายกับโซบะเย็นของญี่ปุ่น แต่ประยุกต์เอาเนื้อปลาทูน่ามาหั่นซอยเป็นเส้นยาว ปรุงแบบดิบหรือซาซิมิ โดยนำมาคลุกด้วยน้ำซอสผัดไทยพร้อมผักสด ทานแบบเย็นๆ

เป็นเมนู light Healthy ที่เหมาะกับเป็นมื้อเบาๆ อาจทานคู่กับไวน์ขาวเย็นๆ สักแก้ว และเหมาะที่จะทานในหน้าร้อน เพราะทานแล้วสดชื่น อร่อยลงตัว
สนนราคา : 250 บาท

2. ปลากะพงทอดน้ำปลา เสิร์ฟคู่ส้มตำผลไม้

เมนูนี้ใช้ปลากะพงสดๆ ทั้งตัว นำมาทอดจนเหลืองกรอบ แต่จะไม่ราดน้ำปรุงเพิ่ม เพราะจะมันเยิ้มเกินไป ความพิเศษที่แตกต่างจากที่อื่นอยู่ที่น้ำยำ ปกติปลาทอดมักจะทานคู่กับน้ำยำมะม่วง แต่จานนี้เคียงคู่มากับส้มตำไทยผลไม้เมืองร้อน เช่น สับปะรด แตงโม แก้วมังกร เป็นต้น ปรุงรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด รสชาติเด็ดลงตัว ได้ความหวานฉ่ำจากผลไม้เต็มคำ ไม่ต้องปรุงเยอะก็อร่อยแล้ว
สนนราคา : 390 บาท

3. ยำดอกอัญชันทอดกรอบ

ที่อัมพวามีดอกอัญชันเยอะมาก ไปที่ไหนก็จะเจอเป็นปกติ เป็นดอกไม้ที่รับประทานได้ บางคนอาจจะมองข้าม บางคนก็รู้จักคุ้นเคยเฉพาะแค่น้ำอัญชัน แต่จริงๆ แล้ว สามารถนำดอกอัญชันมาทำเมนูอาหารอื่นๆ ได้อีกหลากหลายเมนู อย่างเช่นจานนี้ เชฟน้อยนำดอกอัญชันมาชุบแป้งทอดกรอบ ราดด้วยน้ำยำเมี่ยง

โดยใช้วัตถุดิบหลักจากท้องถิ่นอย่างมะพร้าวน้ำหอม โดยเอาเนื้อมะพร้าวมาคั่วให้หอม ใส่กะปิดีจากคลองโคน เอามาเคี่ยวและปรุงรสให้เป็นน้ำเมี่ยง เพิ่มถั่วบด พริกสดซอยละเอียด ข่าซอย ตะไคร้ซอย แล้วเอามาคลุกกับอัญชันทอดกรอบ อร่อยเด็ดไม่ซ้ำใคร
สนนราคา : 120 บาท

...

4. หมูเค็มต้มกะทิใบชะคราม

ใบชะคราม เป็นผักประจำถิ่นของที่นี่ มีรสชาติหวานและเค็มในตัว มักขึ้นตามริมชายทะเล หรือตามป่าชายเลน พืชชนิดนี้ดูดความเค็มจากน้ำขึ้นมา ทำให้มีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัว เวลานำมาปรุงอาหาร ก็ไม่จำเป็นต้องปรุงรสเค็มมากเกินไป เพราะใบชะครามมีรสชาตินี้อยู่แล้ว และซึมออกมาในน้ำแกงด้วย ยิ่งนำมาแกงกับกะทิหวานๆ หอมๆ ก็ยิ่งเข้ากัน อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก
สนนราคา : 200 บาท

5. ส้มตำหัวปลี ไก่ย่างชายคลอง

นำหัวปลีใช้แทนเส้นมะละกอ มาทำเป็นส้มตำรสแซ่บ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเมื่อหัวปลีโดนน้ำมะนาวแล้วความฝาดจะลดลงไป ดังนั้นจึงเหมาะมากที่จะเอาหัวปลีมาปรุงเป็นส้มตำ ใส่มะนาว น้ำปลา พริก ซึ่งสูตรนี้ใช้พริกแห้งคั่วให้ความเผ็ดแทนพริกสด เพราะจะทำให้ได้กลิ่นหอมมากกว่า ส่วนไก่ย่างก็หมักสมุนไพรสูตรลับเฉพาะของทางร้าน ขอบอกว่าอร่อยแซ่บติดใจ
สนนราคา : 220 บาท

...

6. ต้มยำกุ้งแม่น้ำแม่กลอง

พื้นที่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นแหล่งที่มีกุ้งแม่น้ำเยอะ จึงพลาดไม่ได้ที่จะต้องมีเมนูต้มยำกุ้ง ซึ่งเมนูนี้เป็นต้มย้ำแบบน้ำข้น มีความพิเศษกว่าต้มยำกุ้งทั่วๆ ไป คือใช้มันกุ้งแม่น้ำมาเคี่ยวกับน้ำซุปก่อน แล้วค่อยใส่สมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ปรุงรสชาติให้อร่อยครบรสแบบต้มยำด้วยพริก น้ำปลา มะนาว น้ำพริกเผา

ส่วนกุ้งแม่น้ำก็ต้องนำมาทอดให้สะดุ้งน้ำมันก่อนเล็กน้อย จากนั้นนำไปคลุกกับเครื่องต้มยำให้รสชาติซึมเข้าไปในตัวกุ้ง แล้วจึงนำมาใส่ในชามต้มยำ
สนนราคา : 250 บาท

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเครื่องดื่มม็อกเทล 3 สูตร ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แก่

1. นางพญาร้อยชู้

มีส่วนผสม คือ ใบโหระพา น้ำสับปะรด น้ำมะนาว ไซรัป ใบมินต์ ปั่นผสมรวมกัน แล้วนำมาเขย่ากับน้ำแข็ง จนได้เครื่องดื่มหอมเย็น เปรี้ยว หวาน สดชื่น

...

2. มิสอัมพวา

มีส่วนผสมจาก บลูฮาวาย น้ำมะนาว โซดา ไซรัป มิกซ์กันจนได้เครื่องดื่มสีฟ้า ซึ่งเป็นสีแห่งตำนานความรักของสาวอัมพวา จึงใช้ชื่อว่ามิสอัมพวานั่นเอง ส่วนรสชาติก็หวาน เปรี้ยว ซ่า สดชื่นดีอีกเหมือนกัน

3. ทางช้างเผือก

มีส่วนผสมจาก นมสด น้ำสับปะรด น้ำส้ม น้ำมะนาว นำมามิกซ์และเขย่ากับน้ำแข็งจนได้เครื่องดื่มสีนวลสวย เหมือนทางช้างเผือก รสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น

ใครมีแพลนไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาช่วงต้นปีนี้ ก็อย่าลืมแวะไปลองเมนูเด็ดๆ เหล่านี้ได้ น่าจะทำให้มื้ออาหารของคุณและครอบครัวอิ่ม อร่อย และมีความสุขได้ไม่มากก็น้อย