ดังจนฉุดไม่อยู่ในฐานะเซเลบริตี้เชฟที่มีเสน่ห์ที่สุดของยุค สำหรับ “เจฟ แรมซีย์” เชฟมิชลินสตาร์ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน แห่งห้องอาหาร “คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์” (Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey) โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ผู้หลงใหลการนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิในรูปแบบสมัยใหม่ หากแต่ยังคงรักษาแก่นแท้ดั้งเดิมของวัฒนธรรม

...

“เชฟแรมซีย์” เป็นเชฟรุ่นที่สามของครอบครัวฝั่งมารดาชาวญี่ปุ่น แม้จะนำเสนออาหารในรูปแบบแปลกใหม่ทันสมัย แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้ และเพื่ออธิบายความเป็นไคเซกิในแบบฉบับของเขาเอง “เชฟแรมซีย์” ตั้งชื่อห้องอาหารว่า “คินสุกิ” หมายถึง “เชื่อมต่อด้วยทอง” อ้างอิงศิลปะการซ่อมแซมเครื่องเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีทอง ซึ่งไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมเพื่อปกปิดรอยแตก แต่ทำให้เครื่องเคลือบโดดเด่นขึ้นมาด้วยสีทอง เปรียบเสมือนการคิดค้นเทคนิคใหม่ เพื่อเชิดชูวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น

สำหรับฤดูกาลนี้เชฟภูมิใจเสนอเมนูไคเซกิ 8 คอร์ส ที่รวมความอร่อยทั้ง 4 ฤดูกาลมาไว้ด้วยกัน ทั้งฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ผสมผสานทั้งรสชาติและเทคนิคความเป็นญี่ปุ่นกับตะวันตกไว้อย่างสลับซับซ้อน สะท้อนถึงศิลปะการทำอาหารชั้นสูง และปรัชญาของการกินตามฤดูกาล

เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย “Sakizuke” นำเสนอเป็นซาชิมิโอโทโระในแก้วมาร์ตินี ท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์, เยลลี่โชยุ และวาซาบิสด ให้ความสดชื่นทันใจ ตามด้วยจานของว่าง “Nakachoko” เป็นปลาอังกิโมะโรยน้ำตาลและทอร์ชจนขึ้นสี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพอนสึเสาวรสแบบไนโตร หรือจะเลือกเป็น “Nagano Walnut Soba” โซบะเย็นวอลนัตอันเลื่องชื่อที่ทุกคนติดใจ

...

ก่อนจะพาไปสัมผัส “Sashimi” ปลาดิบระดับพรีเมียม 2 ชนิดตามฤดูกาล ในคอร์สนี้จะเสิร์ฟซาชิมิส่วนชูโทโระหรือโอโทโระ พร้อมกับปลาหรืออาหารทะเลชนิดอื่นๆที่จับได้ในฤดูกาล ขาดไม่ได้คือ อาหารประเภททอด “Agemono” เชฟนำเสนอความหวานของเนื้อปูวาตาริ หรือปูม้า ซึ่งเป็นไฮไลต์ของฤดูกาล ผสมกับ ข้าวโพดหวานทำเป็นเมนูโครกเก เสิร์ฟกับซอสมันปูที่ทำจากมันปู, มันกุ้งล็อบสเตอร์ และไข่หอยเม่น เคียงคู่มากับข้าวโพดอ่อนย่างและผักชี จากนั้นเป็นคิวของอาหารประเภทนึ่ง “Mushimono” เชฟเลือกเสิร์ฟไข่ตุ๋นหน้ากุ้งซากุระ

ไฮไลต์ของมื้ออร่อยต้องยกให้ “Yakimono” อาหารประเภทย่าง เชฟเลือกใช้ปลาคามะสุ หรือปลาน้ำดอกไม้ เป็นวัตถุดิบหลัก ย่างบนใบโอบะจนสุกส่งกลิ่นหอม โรยด้วยหัวไชเท้าฝนละเอียดยิบ ส่วนอาหารจานเล็กคั่นกลาง “Oshinogi” นำเสนอข้าวหน้าสเต๊กเนื้อวากิว A5 ย่างถ่าน เสิร์ฟพร้อมไข่แดงทรัฟเฟิล ปิดท้ายด้วยขนมหวานในตำนาน “ไดฟูกุไส้เชอรี่” มาพร้อมเต้าหู้เย็นเมล็ดแอปริคอท, ไวท์พีช และไอศกรีมสาเก หรือจะลอง “Kin Kat” ช็อกโกแลตฟัวกราส์ในแบบฉบับของคินสุกิ

...

Tasting Menu Signature รวม 8 คอร์สขายดีทั้ง 4 ฤดูกาล ราคา 4,500++ บาท และ Kappo-Ito เมนูไคเซกิ 8 คอร์ส ราคา 3,800++ บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.kintsugibangkok.com

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่