มาเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี ผมถือโอกาสแนะนำร้านอาหารให้ได้ตามชิม ร้านนี้ตั้งอยู่ริมชายหาด สามารถมองเห็นความงดงามของท้องทะเลไทยเต็มตา สมกับคำว่า “อาหารหลักร้อย บรรยากาศหลักล้าน” นอกจากอาหารสดรสชาติอร่อย ยังได้มองเห็นเส้นขอบฟ้าไกลออกไปสุดสายตา มุมมองกว้างยิ่งกว่าภาพพาโนรามา
“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “ชมวิวซีฟู้ด” ของ “คุณวิว– ศรันย์กร จรูญจิตไพรัช” อายุ 30 ปี ลูกสาวคนเล็กของ “คุณพ่อ–วสวัติ์ จรูญจิตไพรัช” อายุ 64 ปี และ “คุณแม่–อรัชฌา อ่อนวงศ์” อายุ 62 ปี เธอก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 2 สืบสานธุรกิจของครอบครัว ร้าน “ชมวิวซีฟู้ด” อยู่ในซอยชะอำ 59 ตำบลห้วยทรายใต้ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เข้าไปในซอยตามป้ายบอกทางก็จะไปถึงร้านริมชายหาดแห่งนี้
หลังจับจองที่นั่งเป็นที่เรียบร้อย ยกเมนูขึ้นมาเลือกสั่งอาหารไปหลายรายการ ระหว่างรออาหาร ทอดสายตามองท้องทะเลชายฝั่งคลื่นสงบ ผิวกายสัมผัสลมหนาวพัดผ่านมาเบาๆ ในช่วงเวลาพลบค่ำแบบนี้ผมและครอบครัวกำลังพักผ่อนกับการทานอาหาร ขณะที่วิถีชีวิตของชาวประมงกำลังสาละวนกับการตระเตรียมอุปกรณ์ออกเรือไปหาปู หาปลา ไดหมึก สร้างรายได้มาหล่อเลี้ยงครอบครัว หันไปมองที่ชายหาดผู้ให้บริการขี่ม้ามีรายได้จากการให้ลูกค้า โดยเฉพาะเด็กๆ ขี่ม้าเลียบชายทะเล ถือเป็นประสบการณ์ที่เด็กๆได้ต่อเติมจินตนาการสวมบทบาทเป็นเจ้าหญิง เจ้าชายเหมือนในนิทานเทพนิยาย
...
มีเรื่องแปลกแต่จริง ลูกค้าที่มาร้านนี้ต่างชื่นชอบการถ่ายภาพกับป้ายชื่อร้านอาหาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากป้ายสถานีรถไฟหัวหิน เอามาทำเป็นป้ายชื่อร้านตั้งตระหง่านอยู่ริมหาด เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์กประจำร้าน ผู้คนมาทั้งถ่ายเซลฟี่ ได้ยินเสียงหัวเราะระหว่างถ่ายรูปกับครอบครัวและหมู่คณะ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ร้านใส่ใจมอบความสุขให้ลูกค้า
ถึงเวลาชิมอาหารจานแรก “ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว” ปลาเก๋าน้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม นึ่งซีอิ๊ว แต่งหน้าด้วยขิงซอยและต้นหอมซอย แค่เห็นขนาดของปลาก็ทำเอาตกตะลึงด้วยความใหญ่ยักษ์ ขนาดตัวปลาใหญ่กว่าเตาที่เอามาเสิร์ฟเสียอีก อาหารจานนี้เหมาะกับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ด้วยรสชาติของน้ำซีอิ๊วละมุนลิ้น ซดน้ำร้อนๆคล่องคอ เนื้อปลาเก๋านุ่มฟู กลิ่นหอมของขิงและต้นหอมช่วยให้โล่งจมูก คุณวิวบอกเคล็ดลับของเมนูนี้ต้องใช้ปลาเป็นเท่านั้น ถึงจะอร่อยได้เนื้อปลาที่มีคุณภาพ
“แกงเหลือง” ใครที่ชอบทานแกงใต้ต้องถูกใจอย่างแรง ด้วยรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องพริกแกง ซดน้ำแกงแล้วรู้สึกเหงื่อซึมตามไรผม ความเผ็ดร้อนทำให้โล่งจมูก กุ้งแชบ๊วย เป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในพื้นที่ทะเลชะอำ ได้แม่ครัวจากภาคใต้มาทำให้โดยตรง เพื่อให้เกิดความหลากหลายในรสชาติ เชื่อเถอะว่า ยิ่งเผ็ดร้อนยิ่งกินข้าวอร่อย
คุณวิวคงเห็นผมเหงื่อแตก สั่ง “หมูโค” เมนูขายดีประจำร้าน มาช่วยดับความเผ็ดติดอยู่ที่ปลายลิ้น ปรากฏว่าได้ผลชะงัด “หมูโค” มีชื่อเพี้ยนมาจากคำว่า “หมูโคะ” หรือ “หมูคั่ว” ทำจากหมูสามชั้นนำไปผัดปรุงรสชาติให้มีรสหวานๆเค็มๆ ส่วนเนื้อจะมีความกรุบกรอบ มีมันหมูช่วยให้นุ่มละมุนลิ้น เมนูจานนี้เข้ากันดีกับแกงเหลือง ทานเล่นก็อร่อย
...
ความอร่อยยังไม่หมดเพียงแค่นี้ จานต่อมา “ยำ 3 ไข่” ใช้ไข่ 3 ชนิด คือ ไข่ปลาริวกิว ไข่แมงดา และไข่ปู คลุกเคล้าเข้ากับน้ำยำ รสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ครบรส ได้ความกรุบๆของไข่แมงดา ได้ความหนึบๆจากไข่ปลาริวกิว และได้ความมันจากไข่ปู รสชาติออกมานัวถึงขั้นสุด ปลุกความสดชื่นในตัวขึ้นทันที ใครชอบทานยำต้องไม่พลาดจานนี้
“พุงปลาผัดยี่หร่า” ใช้พุงปลากะพงทะเล นำมาผัดเคล้ากับเครื่องพริกกระเทียม เพิ่มความร้อนแรงด้วยใบยี่หร่า พุงปลาเคี้ยวหนึบหนับ รสชาติเผ็ดร้อน ทานกับข้าวสวยรับรองเจริญอาหาร
ตบท้ายด้วยเมนูสุดแสนประทับใจของผม “เนื้อปูหลน” เป็นรสชาติของคนเพชรฯโดยแท้ รสหวานนำ มีพริกขี้หนูสวนเม็ดลูกโดดช่วยเพิ่มรสชาติเวลาทานกับข้าว เนื้อปูเป็นก้อนๆ ชิ้นใหญ่รสหวาน หลนหอมน้ำกะทิ มีหอมแดงเพิ่มความหอม เข้มข้นจากการเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน เสิร์ฟมาพร้อมกับผักเครื่องเคียง ผมเอามากินตบท้ายกับข้าวสวย ทำให้มื้อนี้อิ่มสุขสุดพิเศษจริงๆ มั่นใจว่า เมนูนี้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ใหญ่หลายคนเลยทีเดียว
...
อิ่มหนำเป็นที่เรียบร้อย เชิญคุณวิวมานั่งพูดคุยกันสักหน่อย คุณวิวเล่าว่า “วิวเป็นลูกคนเล็กจากทั้งหมด 3 คนพี่น้อง เห็นพ่อกับแม่ทำร้านอาหารมาตั้งแต่เรียน ป.3 พ่อหัดให้วิวทำข้าวผัด ช่วยงานในครัว เพราะพ่อกับแม่อยากให้ลูกๆได้ซึมซับการทำร้านอาหาร สร้างความรู้สึกผูกพันกับร้านมาตั้งแต่เด็ก วิวเรียนจบคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สิ่งที่เรียนมากับการทำร้านอาหารมันเป็นคนละแนว แรกๆต้องปรับตัวมาเรียนรู้ พออยู่ตัวจึงได้หาทางพัฒนาร้าน อาหารจานไหนดีอยู่แล้วเราก็รักษาไว้พร้อมกับเสนอไอเดียใหม่ให้พ่อกับแม่ เพื่อให้ร้านเกิดการพัฒนาขึ้น”
“ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองนานไหม กว่าพ่อกับแม่จะวางใจ” ผมมองไปที่ตาเธอเห็นแววตาของความมุ่งมั่น
“พอสมควรเลยค่ะ วิวเริ่มเอาระบบการจัดการเข้ามาบริหารร้าน จัดเก็บวัตถุดิบให้คงความสดใหม่ที่สุด ให้ลูกค้าเห็นว่า ร้านเราใช้ของสดและของดี เมื่อพิสูจน์ให้พ่อกับแม่เห็นได้ว่าเรา 3 คนพี่น้องทำได้ พ่อกับแม่ก็วางมือให้พวกเราบริหารร้านด้วยตัวเองมา 3 ปีแล้ว การทำร้านอาหารทะเล มีความจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบสดๆจากทะเล วิวต้องไปดิวกับเจ้าประจำในการหาวัตถุดิบ อย่างปูม้า ถ้าเราไม่มีเจ้าประจำ พอถึงช่วงที่หาปูม้าได้ยาก ทำให้วิวต้องซื้อกับเจ้าประจำในวันธรรมดา เพราะหากไม่รับในช่วงวันธรรมดา ช่วงวันหยุดร้านก็จะไม่มีปูมาให้ขาย ทุกอย่างมันจึงต้องเกื้อกูลกัน ต้องช่วยกัน การจัดเก็บวัตถุดิบเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้ความสดใหม่ เมื่อชาวประมงออกเรือไปหาปลา หาปูมาส่งตอนเช้า พอมาถึงร้านต้องเอาลงบ่อมีออกซิเจน รับช่วงต่อทันที ทำให้ร้านมีวัตถุดิบสดๆจากทะเลมาตลอด”
...
ผมมองที่บ่อกุ้ง ปู และครัวใหญ่ภายในร้าน พร้อมถามว่า “มีเมนูพิเศษไหม และทิศทางของร้านในอนาคตล่ะ”
คุณวิวตอบว่า “หลายเมนูเกิดจากความ ต้องการของลูกค้า เช่น หอยแครงจัมโบ้ กุ้งลายเสือ มาจากความต้องการของลูกค้า บางคนอยากมานั่งทานอะไรเบาๆ ก่อนมื้อหลัก ทำให้วิวเพิ่มในส่วนของคาเฟ่ขึ้นมา ให้บริการเครื่องดื่มชา กาแฟ ไอศกรีม และขนมหวาน ให้ลูกค้านั่งชมบรรยากาศแบบสบายๆ กับอนาคตของร้าน ต้องฟังเสียงลูกค้าว่า ลูกค้าต้องการอะไร หลายคนอยากให้มีที่พัก อาจเป็นโครงการต่อไปในอนาคต เมื่อลูกค้าทานเสร็จจะได้พักสบายๆ ไม่ต้องขับรถค่ะ”
สนนราคา ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว กิโลกรัมละ 900 บาท, พุงปลาผัดใบยี่หร่า 250 บาท, หมูโค 250 บาท, แกงเหลือง 260 บาท, ยำ 3 ไข่ 380 บาท และเนื้อปูหลน 250 บาท นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อยแนะนำ คือ ปลาทรายทอดขมิ้น, กุ้งแชบ๊วยคั่วพริกเกลือ, ออส่วนหอยนางรม และหอยแครงจัมโบ้ลวกจิ้ม ที่ลูกค้าไม่ควรพลาด ร้าน “ชมวิวซีฟู้ด” เปิดทุกวัน บริการตั้งแต่ เวลา 10.00 ถึง 21.30 น. โทรศัพท์ 06–4446–9456 และ 08–1757–9704 Facebook : ชมวิวซีฟู้ด หัวหิน.
คุณชายแป๊ะ
คลิกอ่านคอลัมน์ "คุณชาย ตะลอนชิม" เพิ่มเติม