อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารถูกปากและเป็นที่คุ้นเคยของคนไทย จึงอยากพาชาวโฮมคุ้กมารู้จักวัฒนธรรมการรับประทานอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีหลากหลาย สำหรับอาหารที่เสิร์ฟในภัตตาคารแบบญี่ปุ่นหรือเรียวกัง จะเป็นสไตล์ “ไคเซกิ” (Kaiseki) คอร์สอาหารญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และนำมาเสิร์ฟตามลำดับแบบญี่ปุ่น คล้ายกับ Full Course ของชาวตะวันตก เชฟทาคากิ คะซุโอะ เชฟระดับปรมาจารย์ จากห้องอาหารเกียวโตควิซีนทาคากิ ระดับมิชลินสองดาว เป็นผู้หนึ่งที่ได้นำวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบ “ไคเซกิ” มาเผยแพร่ในกรุงเทพฯ ผ่านห้องอาหาร “คินู บาย ทาคากิ” (Kinu by Takagi) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ที่นำเสนอวัฒนธรรมการรับประทานอาหารญี่ปุ่นตามแบบวิถีไคเซกิ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของญี่ปุ่นที่มีความโก้หรู สะท้อนถึงทักษะการปรุงอาหารและประสบการณ์ความชำนาญของเชฟ
อาหารแต่ละจานที่ “เชฟทาคากิ” รังสรรค์นั้นเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถัน กระบวนทางความคิดที่กลั่นกรองออกมา และถ่ายทอดออกมาเป็นอาหารตำรับเกียวโต หรือที่รู้จักกันในนามของอาหารตำรับ “เคียว เรียวริ” เมนูที่เชฟทาคากิสร้างสรรค์นั้นสะท้อนถึงฤดูกาลและวัฒนธรรมของทั้งญี่ปุ่นและไทย “เชฟทาคากิ” ได้นำวัตถุดิบของไทยมาผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ดังนั้นเมนูในแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับการคัดสรรและการสร้างสรรค์ของเชฟ เพราะเชฟจะเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลมาปรุงให้ท่านรับประทาน นับเป็นความงดงามทางวัฒนธรรมการรับประทานอาหารตามแบบวิถีชาวญี่ปุ่น
...
สำหรับอาหารสไตล์ ไคเซกิ จะมีลำดับการเสิร์ฟประกอบด้วย ซาคิสึเกะ ออเดิร์ฟเบาๆ เรียกน้ำย่อย, ซุยโมโน หรือซุปใสที่ทำให้สดชื่น, ซาชิมิเนื้อปลาตามฤดูกาล, ยากิโมโน หรือเมนูย่าง, นิโมโน หรือเมนูนึ่ง, อาเกะโมโน เมนูของทอด, มุชิโมโน มักเป็นไข่ตุ๋น, โกฮัง หรือข้าว, มิซึโมโน ของหวานหรือผลไม้ตามฤดูกาล ส่วนห้องอาหารคินูบายทาคากิ ให้บริการมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ประสบ การณ์การรับประทานเริ่มต้นด้วยชาต้อนรับซึ่งจะเสิร์ฟในห้องรับรองก่อนเข้าสู่ห้องอาหารและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เชฟยืนปรุงอาหารโชว์ฝีมือและทักษะทั้งยังเลือกสาเกคุณภาพระดับพรีเมียมมาดื่มควบคู่กับการรับประทานอาหาร ปิดท้ายวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบ “ไคเซกิ” ด้วยพิธีเสิร์ฟชาให้ได้อิ่มอร่อยกับอาหารและอิ่มเอมกับวัฒน ธรรมญี่ปุ่นอย่างเต็มที่.
...