ไอศกรีมกะทิ ของหวานท้องถิ่นที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ยิ่งอากาศร้อนๆ หากได้ทานไอศกรีมกะทิแล้วจะทำให้สดชื่นและชื่นใจ ด้วยเพราะรสชาติที่หวานมันละมุนลิ้น บวกกับกลิ่นหอมๆของกะทิ คนไทยมักทานร่วมกับเครื่องเคียง เช่น ลูกชิด ขนุนฉีก ข้าวโพด มันเชื่อม วุ้นมะพร้าว เนื้อมะพร้าว ข้าวเหนียวมูล ขนมปัง และราดนมข้นจืด โรยถั่วลิสงคั่วเพิ่มความนัว มีทั้งแบบตักใส่ขนมปัง ใส่โคนไอศกรีม ใส่ถ้วยพลาสติกและใส่ลูกมะพร้าว
ไอศกรีมกะทิมีส่วนประกอบหลักคือ กะทิสด หากใช้วัตถุดิบกะทิที่ไม่สด สะอาด หรือในระหว่างการผลิตผู้ผลิตไม่รักษาสุขลักษณะให้ดีเพียงพอ ใช้ภาชนะและอุปกรณ์ที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนได้ เช่น ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส เชื้อชนิดนี้พบได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ดิน น้ำ อากาศ พืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 0-42 องศาเซลเซียส การเก็บรักษาอาหารในตู้เย็นจะไม่สามารถยับยั้งการเจริญของ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส ได้ ไอศกรีมกะทิที่วางขายแต่ละร้านค้ามีวิธีการเก็บรักษาที่ต่างกัน เช่น ถ้าขายในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าทั่วไปจะเก็บในตู้แช่แข็งที่อุณหภูมิคงที่ แต่หากขายตามรถเข็นจะเก็บรักษาในถังแช่แข็งหรือถังเก็บความเย็น ในระหว่างขายจะเปิดฝาถังบ่อยครั้งเพื่อตักไอศกรีม การเปิดปิดถังบ่อยๆนี้ก็อาจทำให้เชื้อ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส ปนเปื้อนในไอศกรีมกะทิได้เช่นกัน
เมื่อเราได้รับเชื้อลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดโรค listeriosis ทำให้มีอาการมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง หากอาการรุนแรงจะทำให้ปวดศีรษะ คอเคล็ด สับสน สูญเสียการทรงตัว ชัก หรือติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาจมีอาการเยื่อหุ้มสมอง ไขสันหลังอักเสบ เด็กหรือผู้สูงอายุที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ ตามกฎหมายของไทยกำหนดให้ต้องไม่พบเชื้อ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส ในไอศกรีมกระทิ 25 กรัม
...
สถาบันอาหารเก็บตัวอย่างไอศกรีมกะทิจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ ที่ขายในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์เชื้อ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส ปนเปื้อน ผลวิเคราะห์พบว่าทั้ง 5 ตัวอย่างไม่พบเชื้อ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส ปนเปื้อนเลย วันนี้ไอศกรีมกะทิยังปลอดภัยอยู่ แต่ไม่ควรชะล่าใจ เลือกซื้อไอศกรีมกะทิจากร้านที่มั่นใจได้ถึงความสะอาด มีการรักษาสุขลักษณะที่ดี เพื่อป้องกันการได้รับเชื้อก่อโรคจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย และความปลอดภัยในระยะยาว.
ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย