Royal Project Bistro กิจกรรมใหม่ในงานโครงการหลวง 54 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ มาพร้อมเมนูไฟน์ไดนิ่ง (Fine Dining) สุดหรู จากผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโครงการหลวงให้ได้ลิ้มลองกันเป็นครั้งแรก ที่ทุกเมนูมาพร้อมเรื่องราวการเดินทางของโครงการหลวงตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

กลับมาอีกครั้งกับงานโครงการหลวง 54 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ร่วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้แนวคิด “ไออุ่นจากขุนเขา เรื่องเล่าสู่ใจกลางเมือง” ซึ่งปีนี้พิเศษกว่าที่เคย ด้วยการเพิ่มกิจกรรม Royal Project Bistro ให้ร่วมชิมเมนูไฟน์ไดนิ่งสุดพิเศษ 5 คอร์ส ที่ใช้วัตถุดิบจากมูลนิธิโครงการหลวงทั้งหมด พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของมูลนิธิโครงการหลวงได้อย่างสวยงาม ที่สร้างสรรค์โดย เชฟแป๊บ สหฤกษ์ ศรีบุญเรือง Creative chef ของกิจกรรมนี้

Course 1 : Afternoon Tea “สายหมอกแห่งขุนเขา”

แนวคิดของเมนูนี้แทนจุดเริ่มต้นของโครงการหลวงที่มาจากขุนเขา เมนูนี้จะประกอบไปด้วย

ชาสมุนไพรสด 7 ชนิด คือ หญ้าหวาน, ชาหอม, เลมอนบาล์ม, คาโมมายด์, เลมอนไทม์, ยูเอสเอมินต์, เจแปนนิสมินต์ ที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องความผ่อนคลาย และการนอนหลับ

ไดฟุกุไส้แยมมะม่วงเสาวรส ในส่วนของตัวไส้จะใช้มะม่วงนวลคำจากโครงการหลวง ผสมกับ เสาวรสสายพันธุ์ไทนุง ที่ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ส่วนตัวแป้งไดฟุกุจะใส่สีส้มจากแครอต มาทำให้สีสันน่ารับประทานยิ่งขึ้นค่ะ เมนูนี้เป็นเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่องานวันนี้โดยเฉพาะ

ไดฟุกุไส้หมูควินัว ไดฟุกุอีก 1 เมนูใน set นี้ ที่ตัวไส้จะทำมาจากหมูสับผัดกับควินัว ปรุงรสให้ออกเค็มหวาน และเพิ่มเผ็ดด้วยพริกไทย ให้รสชาติเหมือนกับไส้ของสาคูไส้หมู แต่นำมา Present ในรูปแบบของขนมสไตล์ญี่ปุ่น

...

เค้กควินัวมันเทศญี่ปุ่น ตัวเค้กทำจากข้าวเหนียวผสมกะทิและควินัว ตัวไส้ใช้มันเทศญี่ปุ่นโครงการหลวงกวน ที่ให้รสชาติหวานมัน เป็นขนมหวานสไตล์ไทยที่ตั้งใจทำออกมาในรูปแบบของข้าวปั้นญี่ปุ่น

สโคนและแยมสตรอว์เบอร์รีกุหลาบ ตัวสโคนพิเศษด้วยการผสมกลีบกุหลาบที่ปลูกด้วยระบบอินทรีย์ เพิ่มความเปรี้ยวด้วยสตรอว์เบอร์รีอบแห้ง และเพิ่มความหอมด้วยมะตูมเชื่อม เสิร์ฟพร้อมแยมสตรอว์เบอร์รีกุหลาบ ซึ่งใช้สตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์พระราชทาน 80 กับกลีบกุหลาบอินทรีย์ ซึ่งเป็นแยม Home made ที่มีเสิร์ฟแค่เฉพาะที่โครงการหลวงทุ่งเริงเท่านั้น

Course 2 : น้ำเสาวรสสดน้ำผึ้ง “ประกายแสงแห่งชีวิต”

สำหรับเมนูนี้เปรียบเสมือนเมื่อครั้งรัชกาลที่ 9 ทรงเริ่มโครงการหลวง ซึ่งเป็นการจุดประกายความหวังให้กับชาวบ้านและชุมชน โดยใช้เสาวรสพันธุ์ไทนุง ที่มีความหอม หวานอมเปรี้ยวเฉพาะตัวของเสาวรสพันธุ์นี้ นำมาผสมกับน้ำผึ้งเพิ่มความสดชื่น และมีกิมมิกเป็นเจลลี่ขิง ที่สามารถรับประทานด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งน้ำเสาวรสจะช่วยในเรื่องของการเปิดต่อมรับรส สำหรับการรับประทานอาหารในจานต่อๆ ไป

Course 3 : สลัดผลไม้ควินัวกุ้งทอดครีมเสาวรส “ไออุ่นจากโครงการหลวง”

เป็นสลัดที่รวมของเด่นจากโครงการหลวงมาไว้ในจานเดียว ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ต่างๆ เช่น เมลอนเนื้อส้มและเนื้อเขียวจากโครงการหลวง ที่ทั้งหวานฉ่ำและกรอบ เพิ่มความแตกต่างด้วยควินัวแครกเกอร์ และ Fruit Gum ที่นำผลไม้จากโครงการหลวงมาเพิ่มลูกเล่นให้กับสลัดจานนี้

...

Course 4 : ข้าวซอยปลาเทราต์ทอด “ทรัพย์ในดินสินในน้ำ”

มาจากแนวคิดที่เมื่อโครงการหลวงเกิดขึ้น ก็สร้างรายได้เป็นอาชีพที่มาจากพื้นดินและท้องน้ำ เมนูนี้ประกอบด้วยข้าวซอยที่หอมเครื่องแกงสูตรเฉพาะจากโครงการหลวง และพิเศษยิ่งขึ้นด้วยเนื้อปลาเทราต์ทอดจากโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ที่ไม่สามารถรับประทานข้าวซอยสูตรนี้ได้ที่อื่นนอกจากงานนี้เท่านั้น เพราะใช้ Sauerkraut (เซาเออร์เคราต์) แทนผักดอง และหอมแดงที่มาในรูปแบบ Shallot Foam

Course 5 : Dessert “หยดน้ำแห่งผืนดิน”

ตบท้ายเมนูที่ 5 ด้วย ไอศกรีมอะโวคาโด ที่เปรียบเสมือนหยาดเหงื่อของรัชกาลที่ 9 ที่ทำให้ได้มีโครงการหลวงอย่างเช่นทุกวันนี้ เมนูนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีม 2 รสคือ ไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าว ที่เป็นไอศกรีมรสพิเศษ เป็นรสวานิลา และไอศกรีมผสมเนื้ออะโวคาโดจากร้านนภาในเครือโครงการหลวงเช่นกัน

สำหรับอะโวคาโดที่เสิร์ฟในวันนี้จะเป็นพันธุ์ปีเตอร์สัน จุดเด่นคือเนื้อที่หนาและรสชาติฉ่ำมัน ไม่หวาน เมื่อรับประทานคู่กับไอศกรีมแล้วให้รสชาติลงตัว ซึ่งเป็นเมนูขายดีที่มีขายแค่เฉพาะงานโครงการหลวงเท่านั้น แต่ในกิจกรรม Royal Project Bistro จะเสิร์ฟคู่กับ Crumble Cocao, Sponge Matcha และ Sponge Earlgrey ที่มาช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสให้เมนูนี้พิเศษยิ่งขึ้น

...

กิจกรรม Royal Project Bistro จัดขึ้นที่ชั้น 3 โซนอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าภายในงานโครงการหลวงและในศูนย์การค้าครบ 4,000 บาท ระหว่างวันที่ 8-14 สิงหาคม 2566 เปิดวันละ 2 รอบ 14.30-15.30 น. กับ 16.30-17.30 น. รอบละ 30 คน โดยนำใบเสร็จมายื่นที่เคาน์เตอร์ Bistro หน้างานโซนอีเดน ชั้น 3 เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์