กฎใหม่ของนิวยอร์ก ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อาจสร้างผลกระทบต่อร้านพิซซ่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันเนิ่นนานของนิวยอร์ก
พิซซ่าสไตล์นิวยอร์ก ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของชาวนิวยอร์ก ด้วยสาเหตุที่ว่า รับประทานง่าย และมีราคาไม่แพง เพียงแต่กฎใหม่ของกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมนิวยอร์ก หรือ Department of Environmental Protection (DEP) กำลังส่งผลกระทบต่อร้านพิซซ่าสไตล์นิวยอร์ก ไปจนถึงร้านขายเบเกิล อีกด้วย
กรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมนิวยอร์ก ได้ร่างกฎใหม่ซึ่งอาจทำให้ร้านพิซซ่าที่ติดตั้งเตาก่อนพฤษภาคมปี 2016 จะต้องซื้ออุปกรณ์ที่ควบคุมการปล่อยมลพิษซึ่งมีราคาแพง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 75 เปอร์เซ็นต์
จากประเด็นข้างต้นทำให้ร้านที่ขายพิซซ่าในนิวยอร์กถึงกับโอดครวญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะสิ่งที่ต้องจ่ายไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้ง แต่ยังรวมถึงค่าดูแลรักษา และค่าความสะอาดที่ต้องทำทุกๆ 2-3 สัปดาห์
นอกจากนี้ ร้านพิซซ่าบางร้านอ้างด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นการทำลายรสชาติของพิซซ่าสไตล์นิวยอร์ก เพราะการทำพิซซ่าด้วยเตาถ่านเป็นการสร้างรสชาติที่ดีของอาหาร บ้างก็บอกด้วยความเกรี้ยวกราดว่า หน่วยงานของรัฐนิวยอร์กกำลังทำให้การทำพิซซ่ากลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงการวิจารณ์ว่า นี่เป็นสิ่งที่ทำลายวัฒนธรรมทางอาหารของนิวยอร์กที่มีมาหลายทศวรรษด้วย
ในเวลาเดียวกัน ยังมีลูกค้าร้านพิซซ่าอีกไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับทางการนิวยอร์ก
เท็ด ทิมเบอร์ส โฆษกของกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมนิวยอร์ก ออกมาปกป้องกฎดังกล่าวว่า ชาวนิวยอร์กทุกคนสมควรได้รับอากาศที่ดีต่อสุขภาพ เตาฟืนและเตาถ่านเป็นหนึ่งในสิ่งที่ก่อมลพิษมากที่สุด และส่งผลต่อคุณภาพของอากาศ
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ร้านพิซซ่ากว่า 100 ร้านทั่วนิวยอร์กจะได้รับผลกระทบจากกฎใหม่ที่เขียนมาเพื่อความสะอาดของสภาพอากาศ
...
อันที่จริงนโยบายการควบคุมก๊าซคาร์บอนจะต้องถูกบังคับใช้ในปี 2020 แต่ในช่วงเวลานั้นเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้การบังคับใช้ถูกเลื่อนออกไป
ที่มา: NYPost