ระหว่างหาวหวอดรอรัฐบาลใหม่... “คุณชาย 3” ขอหนีปลาย “คิมหันต์ (ฤดูร้อน)” ผันไปพึ่งเย็นช่วงต้น “วัสสานะ (ฤดูฝน)” เพื่อฝึกสรีระรับ “เอลนีโญ” ที่จะมาปลายปีนี้ยันปี 2571 หรือลากยาวไปถึง 5 ปีข้างหน้าก่อนคนไทยจะวิกฤติขาดแคลนน้ำ แต่ไม่ขาดอากาศร้อน ระดับ 45–50 องศาเซลเซียส

ได้แต่สวดมนต์ภาวนาขอบ้านเมืองอย่าเป็นเช่นนั้นเลย...โหมดนี้เลยตั้งใจพาตัวไปผ่อนคลายหาลมฝนแถวชลบุรี...รู้มั้ยตรงไหนเอ่ย? แอ่น แอ๊น ชุมชนเก่าในอดีตไร่มันสำปะหลังอายุกว่า 60 ปี ที่เดิมเรียก “หน้าเมาท์เทนวิว” ใกล้เชิงเขาลูกย่อมๆ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ นั่นเอง

ปัจจุบัน...คนที่นั่นเรียก “บ้านหน้าสวน” คือหน้า “สวนนงนุชพัทยา” แบรนด์สวนสวย 1 ใน 10 ของโลกตรงนี้เป็นที่มาของ ร้านอาหารแบบบ้านๆขนานแท้...ชื่อ “วันเพ็ญ” อยู่ห่างประตูทางเข้าสวน 300 เมตร

คนละแวกนั้นถามใครก็รู้จักคนมาจากละแวกอื่นอย่างคนขับรถตู้รถทัวร์เจ้าหน้าที่ประจำรถก็เช่นกันต่างชวนกันมารองท้องระหว่างรอรับนักท่องเที่ยวกลับ

...

ทุกวันนี้ไม่เป็นอย่างนั้นเสียแล้ว...เพราะตีตั๋วขึ้นชั้นร้านไวรัลติดชาร์ตท้องถิ่น และติดปากนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มครอบครัวแวะมาอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยทางร้านไม่เคยรีวิวโลเกชันให้ปักหมุดหรือโชว์อาหารปั๊วะปังบนแพลตฟอร์มใดๆเป็นกลยุทธ์การขายไร้ค่าโฆษณาในโซเชียลมีเดียยุคนี้

เจ้าของร้านชื่อ วันเพ็ญ ขุนทองแก้ว หรือ “ป้าเพ็ญ” วัย 58 ปี คนหน้าเขามาแต่ไหนแต่ไร ยึดอาชีพทำครัวตามรอยเท้าแม่มาเนิ่นนานกับพี่น้องอีก 2 คน ส่วนหน้าร้านให้ “เมย์” ธารทิพย์ กุตโต ลูกสาววัย 38 คอยรับออเดอร์เสร็จวิ่ง 100 เมตรเสิร์ฟอาหารคนเดียว 12 โต๊ะ

พร้อมๆไปกับสลับร่างเป็นแคชเชียร์สุดท้ายเป็น “นังแจ๋ว” เคลียร์โต๊ะรับลูกค้ารายใหม่

เห็นยุ่งเหมือนยุงตีกันอย่างนี้...แต่ไม่ยักมีลูกค้ารายไหนบ่นเป็นหมีกินผึ้งให้ได้ยิน แถมขา ประจำก็ยังลงมือลงไม้เสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำช่วยตัวเอง กินเสร็จคิดเงินเองก่อนสแกนบาร์โค้ดโอนบัญชีให้ทันทีไม่มี “ชักดาบ”... บรรยากาศตรงหน้าดูราว กับเล่นเกมโชว์ไม่มีผิด

0 0 0 0

เมนูร้านวันเพ็ญ... ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมๆสมัยครัว “คุณยาย” ของหลานเมย์

ตัวอย่าง “แกงเลียง” ตามปกภาคตะวันออก นิยมใช้เครื่องผสมกุ้งแห้งตำ ใส่หอมแดง กะปิ พริกไทยแห้งปั่น เพื่อเวลาลูกค้าซดน้ำแกงแล้วจะได้พยักหน้าหงึกๆบอก ...“อือ...อร่อย–เอาได้”...ส่วนวัตถุดิบจำพวกผักที่ใส่ลงไปในแกงเลียงชามนี้ ชัวร์ ...ต้องมีหัวปลี บวบ และฟักทองหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ

ขาดไม่ได้ก็กุ้งสดกับปลาหมึกสดตามตำรับชุมชนใกล้ทะเลบางเสร่

เกือบลืม...อาหารติดดาวที่คนมาแล้วชอบสั่งจะมี “ปลาทับทิมทอดกรอบ” ที่กรอบสมชื่อกับทอดกระเทียม แล้วก็ “หมึกผัดไข่เค็ม” ใช้ไข่เป็ดแดงให้ความมันเข้มข้นด้วยน้ำพริกเผา พริกแดงจินดา ต้นหอม และเคล็ดไม่ลับปลาหมึกสดลวกก่อนผัดรวมกับไข่แดง...นี่มันอร่อยตรงนี้

ดาวที่ลูกค้าติดให้อีกอย่างก็คือ “กุ้งผัดเกลือ” ชนิดเค็มแต่พองามไม่รบกวนไตและความดันแล้วก็สมัยนี้...เมนูเด็ดนี่เลย “กะเพราไก่บ้าน” เนื้อแน่นนุ่ม หรือจะซดน้ำให้คล่องคอด้วย “ต้มยำไก่บ้าน” ก็ดี๊ดี

ส่วนเมนูเวอร์ชันพิเศษ ครัววันเพ็ญชวนชิม...“ฉลามทราย” หรือ “ฉลามพยาบาล” บ้างก็เรียก “ฉลามขี้เซา” ปลาคู่จิ้นนักกีฬาดำน้ำและได้ชื่อว่าเป็นปลาเศรษฐกิจชนิดประมงน้ำลึก ชอบอาศัยอยู่ตรงซอกหินที่ความลึก 70 เมตร ที่คุณชายรู้มา...ปลาชนิดนี้ยังไม่ได้รับการคุ้มครองจึงมีคนนำมาขายเป็นอาหาร

...

“มีพ่อค้าจากตลาดนาเกลือมาส่งสดๆ ประจำทุกเช้า” ป้าเพ็ญบอกหลังมีเวลาหายใจหายคอจากครัว “ก่อนนี้ได้มาก็ลองผิดลองถูกจนรู้ว่าลูกค้าชอบให้ผัดฉ่า ใช้เครื่องแกงมีข่า ตะไคร้ พริกแกง หอม กระเทียม กระชาย ใบมะกรูดดับคาว...ต้องเค็มแล้วเผ็ดมันๆ ไม่นิยมหวาน”

จริงอย่างป้าเพ็ญว่า...ฉลามผัดฉ่าจานนี้เผ็ดถึงเครื่อง ยิ่งได้กินกับข้าวสวยร้อนๆด้วยแล้ว...ไอ้หยา! รสเค็มหายกลายเป็นความสมดุลกลมกล่อมขึ้นมาทันที ส่วนความมันสุดอยู่ที่ชิ้นเนื้อฉลามกับกระดูกที่ซ่อนอยู่ เวลาเคี้ยว...ดังกรุบๆตรงกระพุ้งแก้มเหมือนเคี้ยวกระดูกอ่อนสัตว์บกปานนั้น คุณชายฯว่าโอเลยแหละ

0 0 0 0

สำหรับคนไม่ถนัดลิ้นเรื่องรสเผ็ดๆรสจัดๆก็สามารถเปลี่ยนเป็น “ฉลามผัดขิง” เมนูเดียวกับ “ไก่ผัดขิง” ใช้ต้นหอมผัดรวมกับขิงใส่พริกชี้ฟ้าแดงแต่งหน้าให้น่ากิน หรือไม่อย่างนั้นก็ขอแนะนำ “ต้มยำฉลามน้ำใส”

...

อีกอย่างที่ว่าแปลก...นั่นคือเมนู “ปลากระเบน” ซึ่งหลายชนิดคุ้มครองใกล้สูญพันธุ์เต็มทน...แต่ที่นี่มีพ่อค้าจากตลาดนาเกลือมาส่งครัววันเพ็ญนั้นเป็น “ปลากระเบนนกน้ำลึก” ที่อลักเอลื่อว่าขึ้นทะเบียนห้ามล่าหรือยัง...ก็เลยขายกันเกร่อแถวชายฝั่งทะเล

เมนูที่ว่าป้าเพ็ญแนะนำให้ชิม “กระเบนผัดเผ็ด” อร่อยใกล้เคียง “ฉลามผัดเผ็ด” ที่ใช้เครื่องแกงครกเดียวกัน แต่กระเบนใช้พริกแห้งให้สี “แกงแดง”...ฉลามใช้พริกขี้หนูสดสี “แกงเขียว” หรือจะกินแบบเผ็ดอ่อนๆ ก็เลือก “กระเบนผัดขิง” ตามด้วย “ต้มยำกระเบนน้ำใส”...ได้เช่นเดิม

ยกเว้นอย่าเอาไปลวกจิ้ม ย่าง ปิ้ง หรือทอด เพราะไม่มีกลิ่นใบมะกรูดช่วยดับคาวนะจ๊ะ

อร่อยมาสุดทางแล้ว สนนราคาอาหารชาวบ้านร้านนี้...บอกไปแล้วจะร้อง “อูย” เหมือนมีใครยืนแอบหยิกให้เงี่ยหูฟังความจริงอยู่ข้างหลัง เฉลี่ยจานละ 120 บาทเท่านั้นนะครับ ส่วนอาหารจานเดียวเป็นกับราดข้าวรีบกินรีบไปอยู่ที่ 50 บาท...เอาว่าร้านเปิดขาย 8 โมงเช้าถึง 3 โมงเย็นทุกวัน...เว้นวันมีธุระจริงๆ

...

อยากอร่อยไม่ให้พลาด ก็โทร.ไปจองกันล่วงหน้า หรือ...สอบถามได้ที่เบอร์ 08–7002– 4264 “ร้านวันเพ็ญ” ใกล้ทะเลบางเสร่ พร้อมเสิร์ฟเมนูอร่อยเด็ดสบายกระเป๋าจ้า.

คุณชาย 3