หมูหมัก อาหารง่ายๆที่มีรสชาติถูกปากคนไทยทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานและผู้สูงอายุ หาซื้อได้ง่ายทั้งในตลาดและซุปเปอร์มาร์เกต ทั้งแบบหมูหมักสำเร็จรูป (ดิบ) ที่ต้องนำมาปรุงให้สุกเองที่บ้านก่อนทาน หรือหมูหมักปิ้ง ทอด ย่างที่ปรุงสุกแล้ว ซื้อมาก็ทานกันได้เลย

ทว่าอาหารสำเร็จรูปในปัจจุบัน ผู้ผลิตและผู้ขายบางรายต้องการให้เก็บไว้ขายได้นานๆ หรือมีอายุการเก็บได้ยาวนานขึ้น อาจมีการเติมสารกันบูดหรือสารกันเสียลงไปในอาหาร เช่น หมูหมัก เพื่อป้องกันไม่ให้หมูเน่าเสีย และเก็บไว้ขายได้นาน สารกันบูดที่ว่าคือกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก ตามกฎหมายอนุญาตให้เติมได้ในอาหารตามปริมาณและชนิดอาหารที่กำหนด ทว่า หากผู้ผลิตเติมลงในอาหารปริมาณที่มากเกินไป หรือเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ สารกันบูด 2 ชนิดนี้มีพิษปานกลางถึงต่ำ ถ้าได้รับปริมาณน้อยจะไม่เกิดการสะสมในร่างกาย สามารถกำจัดความเป็นพิษที่ตับ และขับออกทางปัสสาวะได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณสูงมากๆอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เลือดตกในหรือเป็นอัมพาตได้

สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างหมูหมักจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าที่วางขายในตลาดและซุปเปอร์มาร์เกตในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก ผลปรากฏว่ามีอยู่ 3 ตัวอย่างที่พบกรดเบนโซอิก และในจำนวนนี้มี 1 ตัวอย่างพบในปริมาณสูงมาก และเกินมาตรฐานหากเทียบกับค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 418 พ.ศ.2563 ที่กำหนดให้ใช้กรดเบนโซอิกในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทั้งชิ้นหรือตัดแต่งที่ผ่านกระบวนการหมักและทำแห้งโดยไม่ใช้ความร้อนได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เห็นผลวิเคราะห์อย่างนี้แล้ว ท่านที่ชื่นชอบหมูหมักขอแนะว่าทานได้ แต่ไม่ควรทานให้บ่อยมากนัก ควรเลือกซื้อจากร้านที่มั่นใจได้ว่าไม่ใส่สารกันบูด เพื่อความปลอดภัยของร่างกายในระยะยาว.

...

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย