พลพรรคนักโซ้ยขนมกุยช่ายที่ชอบความท้าทาย และนิยมความไม่ธรรมดา เจ๊แซบขอแนะนำ “ขนมกุยช่ายเฮียชวลิต” แห่งตลาดนัดจุฬา กุยช่ายขนาดพอดีคำหม่ำเพลิ๊น... เพลิน แป้งบาง นุ่ม ชุ่มลิ้น ไส้ไม่มากจนเกินไป แต่ไม่น้อยจนหงอย เหงา หม่ำไปเม้าท์ไป ต๊าย... หมดกล่องไม่รู้ตัว!
“ผมขายมานานมากจนลืมแล้วครับว่าเริ่มขายตั้งแต่เมื่อไหร่” (ฮา)
ขา ชิม ขาช็อป ที่ เคยเดินทะลุทะลวงเข้าไปในตลาดนัดตรงข้ามคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหลายคนคงจะคุ้นตากับภาพแฟนคลับเฮียชวลิตยืนล้อมหม้อ (กุยช่าย) อย่างหนา แน่น ทั้งลูกค้าหน้าเก่า หน้าใหม่ ขาจร ขาประจำ ต่อ คิวรอสอยกุยช่ายไปหม่ำให้หนำใจ สำหรับคนที่ไม่เคยไปต้องอดใจรอสักเล็กน้อย ของอร่อยมีให้ลิ้มแค่สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทุกวันศุกร์เฮียชวลิตจะยกหม้อมาปักหลักในตลาดนัดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า สายๆของเริ่มเหลือน้อย ตะวันเคลื่อนเลื่อนมาเกือบเที่ยงหมดเกลี้ยงในพริบตา
“สูตรนี้ผมได้มาจากพ่อตานะครับ
ฝึก นานมาก ทำทิ้งไปเยอะ มันไม่ใช่ง่ายๆ ทุกขั้นตอนห้ามผิดพลาดแม้ แต่นิดเดียว เราทำอยู่ในบ้าน ในครอบครัว แล้วก็ช่วยกันชิม ถ้าเราทำผิดพลาด เราต้องทำใหม่ ต้องทำให้เหมือนเดิม เพราะเรามีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของเรา ของทุกอย่างที่ใช้ก็ต้องเป็นของดี ตอนนี้ของแพงมากๆ ยิ่งหลังน้ำท่วมทุกอย่างมันแพงขึ้นมาจริงๆ บางอย่างแพงจนผมไม่เคยเจอ เมื่อก่อนยังสลับกันแพง แต่ครั้งนี้ทุกอย่างแพงขึ้นพร้อมๆกัน แพงทุกอย่างเลย” แต่ไม่ว่าของจะแพงสักแค่ไหน เฮียชวลิตไม่เคยท้อขอใช้แต่ของดีเท่านั้น เพื่อความอร่อยมันส์ถึงขีดสุด!!
เอกลักษณ์ ของกุยช่ายร้านนี้อยู่ที่ความบาง เหนียว นุ่มของแป้ง เฮียใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งมันนวดให้เข้ากัน แล้วนำมาปั้นเป็นก้อน ก่อนจะแผ่ออกเป็นแผ่นบางๆเตรียมพร้อมรอห่อ เฮียมี 4 ไส้ให้เลือกโซ้ย คือ ไส้กุยช่าย, ไส้มันแกว, ไส้เผือก และไส้หน่อไม้
ทั้ง 4 ไส้ต้องทำทิ้งไว้ค้างคืน ตื่นมาค่อยทำแป้งแล้วเริ่มห่ออย่างพิถีพิถัน จากนั้นนำไปนึ่งจนสุกได้ที่ ทยอยนำมาเรียงใส่หม้อรอขาย ในแต่ละวันเฮียจะทำจำนวนไม่มาก หมดแล้วหมดกันไม่ทำเพิ่ม!!
“ไส้ กุยช่ายสุดคลาสสิก” ใครหม่ำแล้วต้องติดใจ เฮียใช้ใบกุยช่ายสดล้างจนสะอาด หมักกับน้ำตาล เกลือ จนเข้าเนื้อ แล้วนำมากรองเอาน้ำออกให้เหลือแต่ใบล้วนๆ พักไว้จนแห้งได้ที่ค่อยนำมาห่อแล้วนึ่ง ขั้นตอนการห่อต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะตัว ถ้าห่อไม่ดี นึ่งแล้วไส้แตกแหลกไหลไม่น่าโซ้ย
อีกหนึ่งไส้ที่เจ๊แซบติดใจเป็นพิเศษคือ “ไส้เผือก” เฮียเลือกเผือกหัวใหญ่ เนื้อร่วน นำมาปอกแล้วล้างให้เกลี้ยง ก่อนจะนำมาไสเป็นเส้นๆ ปรุงรสเล็กน้อย แต่ไม่มากจนกลบรสเผือก โซ้ยกับน้ำจิ้มรสจัด จี๊ดจ๊าด รสชาติเข้มข้นกำลังดี เริ่มหม่ำแล้วไม่อยากหยุด!!
นอกจากแป้งนุ่ม ไส้เข้มข้นแล้ว น้ำจิ้มและกระเทียมเจียวร้านนี้ยังทำอย่างดี ไม่มีชุ่ย “กระเทียมเราเจียวเองครับ ใช้กระเทียมสด แพงเท่าไหร่เราก็ซื้อ น้ำจิ้มนี่ภรรยาผมเป็นคนปรุง ไม่ง่ายนะครับ ต้องลองอยู่นานกว่าจะจับทางถูก ต้องทำให้มันพอดี ไม่เปรี้ยวไป หวานไปก็ไม่ได้ เผ็ดเกินก็ไม่ดี” เฮียมีน้ำจิ้มให้เลือก 2 แบบคือ แบบใส่พริก และไม่ใส่พริก เลือกจิ้มได้ตามใจ
เฮียชวลิตจะหอบกุยช่ายมาขายอยู่ที่ตลาดนัดจุฬาทุก วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนกว่าของจะหมด ถ้าใครอยากลองต้องตื่นแต่เช้าเดินเข้ามาในตลาดฝั่งตรงข้ามคณะวิทยาศาสตร์ แผงเฮียจะอยู่ด้านในติดกับร้านผลไม้ ถ้าหาไม่เจอลองถามคนแถวนั้นส่วนมากจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ต้องขอโทษที่เฮียไม่มีเบอร์ติดต่อ นอกจากที่จุฬา เฮียยังมีคิวขายที่สถาบันโรค ผิวหนังเดือนละหนึ่งวัน “ส่วนมากจะเป็นวันอังคาร แต่อังคารไหนไม่ทราบ เขาจะโทร.มาบอกเราเองครับ” เฉลี่ยแล้วเฮียเปิดขายแค่เดือนละ 5 วัน ใครอยากลองโซ้ยต้องลองเสี่ยงไปเฝ้าที่หน้าหม้อ (กุย-ช่าย) ถ้าได้ลองสักครั้งแล้วจะติดใจในความนุ่ม
ทุกวันนี้เฮียชวลิตและภรรยา พร้อมกับลูกๆช่วยกันทำด้วยใจไม่ได้จ้างคนนอก ถึงแม้สุขภาพจะไม่อำนวย แต่ด้วยใจรักเฮียขอสู้ไม่ถอย “ผมป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวครับ ผมป่วยมาได้ 9 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังทำงาน เมื่อก่อนลุกเดินไม่ได้เลยครับต้องคลานเอา แต่ผมสู้ไม่ถอย ตอนนั้นทำให้ลูกมาขาย แต่ตอนนี้เริ่มเดินเองได้ ผมก็มาขายเอง เพราะป่วยผมเลยสอนลูกว่า “อย่าเครียด” ความ เครียดนี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วย เพราะ ฉะนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่ที่สำคัญคือ อย่าเครียด” ใครกำลังเครียดอ่านแล้วต้องยิ้มไว้นะคะ อดใจรออีกไม่กี่วัน ศุกร์เมื่อไหร่ได้หม่ำกุย– ช่ายคลายเครียดแน่นอนค่า!!!!
...
เจ๊แซบ หัวเขียว