การมีสุขภาพดีคือการสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว พักผ่อนเพียงพอ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เพียงแค่นี้ก็มีร่างกายที่แข็งแรงและมีอายุอยู่ได้ยืนยาว
อาหารการกินนับเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพ การทานอาหารแบบ 2:1:1 ซึ่งเป็นสูตรที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก และร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ กับความต้องการในแต่ละวัน
โดยแบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วนเท่ากัน สองส่วนแรกเป็นผักสด หรือผักสุกมากกว่า 2 ชนิด ส่วนที่สามเป็นข้าว-แป้ง ยิ่งเลือกทานข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีต ส่วนสุดท้ายเป็นโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ หรือไม่ติดมันไม่ติดหนัง เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วเมล็ดแห้ง ไข่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ อาหารทะเล
ทว่าสิ่งที่มีประโยชน์ หากน้อยเกินไปก็ไม่ดี มากเกินไปก็ไม่ดีอย่าง ผักใบเขียวเข้มที่เรารู้ว่ามีทั้งแร่ธาตุ ใยอาหาร วิตามินที่มีประโยชน์ ซึ่งน้อยคนจะรู้
ผักใบเขียวเข้ม มีโปแตสเซียมปริมาณสูง คนปกติทานเข้าไปมากคงไม่เป็นไร แต่ผู้ป่วยโรคไต จะเป็นอันตรายได้
เพราะถ้าไตเสื่อมจะกรองเอาโปแตสเซียมออกจากร่างกายได้น้อยลง ทำให้มีปริมาณโปแตสเซียมสูงเกินไป ผลที่ตามมาคือเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้ เป็นตะคริว ชีพจรเต้นช้าลง หรือหัวใจอาจหยุดเต้นได้
แต่ผู้ที่เป็นโรคไตก็ยังต้องการโปแตสเซียมในปริมาณเหมาะสม เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำ ปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
วันนี้ สถาบันอาหาร มีข้อมูลตัวอย่างผักใบเขียวเข้มสดๆ 5 ชนิด จำนวน 5 ตัวอย่าง ตลาดในเขตกรุงเทพฯ นำมาวิเคราะห์ปริมาณโปแตสเซียม นำมาฝากผู้ป่วยโรคไต หรือผู้ที่ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้ป่วยโรคไต นอกจากต้องลดเค็มควรลดผักใบเขียวเข้ม แล้วหันมาเลือกทานผักสีเขียวอ่อน สีขาวแทน เช่น บวบ ฟัก ผักกาดขาว แตงกวา ถั่วงอก มะเขือยาว
...
ส่วนผู้ที่ร่างกายปกติ สารอาหารที่ว่ามีประโยชน์ถ้าได้รับพอดีๆ ก็จะให้คุณ แต่ถ้ามากเกินไปก็จะให้โทษได้เช่นกัน.
ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย