เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาประกาศห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย อาหารและเครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์
หากมีคำถามว่า ไขมันทรานส์คืออะไร? ก็ตอบได้ว่า...กรดไขมันทรานส์ หรือ ไขมันพืชเติมไฮโดรเจนบางส่วน (partially hydrogenated oil) เป็นไขมันที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร ช่วยให้อาหารอร่อย เก็บได้นานขึ้นโดยไม่มีกลิ่นหืนของน้ำมัน จึงเป็นเหตุผลให้ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทย และเป็นที่ชื่นชอบของสาวออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็น โดนัท ปาท่องโก๋ ชานมไข่มุก โรตี และอีกมากมายที่อร่อยและดีต่อใจพวกเราสุดๆ
แล้วทำไม ไขมันทรานส์ถึงกลายเป็นของต้องห้าม? นั้นเพราะว่ามันคือต้นเหตุของโรคร้ายหลายชนิด ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จึงจะมาชี้เป้าถึงโรคร้ายที่เกิดขึ้นจากเจ้าไขมันอันตรายนี้ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน...
1. โรคเบาหวาน
แน่นอนว่าไขมันทรานส์เพิ่มความเสี่ยงในโรคเบาหวาน เพราะไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ดังนั้นคนที่รับประทานไขมันทรานส์จะมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนที่รับประทานไขมันดีอื่นๆ
...
2. โรคความดันโลหิตสูง
เป็นภาวะความดันเลือดภายในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติตลอดเวลา มันจะมาควบคู่กับโรคไขมันในเลือดสูง สืบเนื่องมาจากการรับประทานอาหารที่มีคอเรสเตอรอลและไขมันสูง
3. โรคหัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคนี้มันจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย ด้วยร่างกายมีการสะสมของไขมันทรานส์ที่ผนังด้านในของหลอดเลือดแดง เพราะเมื่อสะสมมากหนาขึ้น จะทำให้สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้น้อยลง อีกทั้งกล้ามเนื้อหัวใจที่ปกติจะถูกหล่อเลี้ยงโดยเส้นเลือดที่อุดตันนี้ เมื่อเลือดไปเลี้ยงไม่พออาจทำให้ ขาดเลือด ขาดออกซิเจน ทำให้มีอาการ เจ็บ แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย แถมยังสามารถลุกลามไปถึงการเกิดภาวะโรคร้ายอื่นๆ อีกด้วย
4. โรคจอประสาทตาเสื่อม
เป็นโรคที่เกิดจากจอประสาทตาเสื่อมในบริเวณที่เราโฟกัสสายตา ผู้ป่วยที่เป้นโรคนี้จะมองภาพได้อย่างเลือนรางหรือไม่ก็มองไม่เห็น โดยเฉพาะตรงกลางภาพ ซึ่งสาเหตุของโรคนี้เกิดมาจากคราบตะกรันไขมันเข้าไปอุดอยู่ที่หลอดเลือดที่เอาไว้เลี้ยงจอประสาทตา
5. อัลไซเมอร์
อาการสมองเสื่อมที่พบได้มากในผู้สูงอายุ ถือเป็นโรคที่ใช้ระยะเวลาก่อตัวนาน 15-20 ปีกว่าจะมีอาการสมองเสื่อมให้เห็นอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรบ่งชี้ได้ชัดว่าโรคนี้มีสาเหตุมาจากไขมันทรานส์ แต่โรคนี้เกี่ยวพันกับโรคอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะความดัน เบาหวาน หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ
ดังนั้น ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ อยากแนะนำให้คุณผู้อ่านทุกท่าน ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี เริ่มจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณพอเหมาะ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะจ๊ะ
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ: