โกลบอลแบรนด์แคมเปญ "Show You're Jockey" ชวนแฟนพันธุ์แท้จ๊อกกี้ทั่วโลกโชว์ความมั่นใจเมื่อสวมใส่ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสุดโปรด สะท้อนความเป็นตัวของตัวเองผ่านสโลแกนใหม่ที่ว่า "Show You're Jockey" เปิดตัวอย่างมีสีสันที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในเอเชียผ่านแฟชั่นโชว์สุดชิค โดยมีอั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม และบรรดาเหล่านายแบบนางแบบระดับอินเตอร์อีกคับคั่งมาร่วมเผยความมั่นใจ
แรงบันดาลใจของแคมเปญ “Show You’re Jockey” นั้น ได้เริ่มต้นมาจากแคมเปญ “Let ‘Em Know You’re Jockey” ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกในยุค 90’s ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแคมเปญอันเป็นตำนานนี้ได้ถ่ายทอดความภาคภูมิใจของกลุ่มคนจากหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ นักดับเพลิง นักกีฬา ฯลฯ ที่แสดงให้ผู้คนภายนอกรับรู้ว่าตนสวมใส่ชุดชั้นในจ๊อกกี้ เพราะจ๊อกกี้ไม่เพียงแต่จะสามารถสะท้อนตัวตน และสไตล์ของผู้ที่สวมใส่เท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์อีกด้วย
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์จ๊อกกี้ขึ้นมาในปี 1876 จ๊อกกี้ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 1934 ที่จ๊อกกี้ได้ผลิตกางเกงในขาเว้า หรือที่เรียกว่า ‘Brief’ ขึ้นเป็นรายแรก รวมถึงการเป็นรายแรกที่นำตรายี่ห้อมาประทับที่ขอบเอวกางเกงเพื่อสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้กับแบรนด์
...
และในปี 1935 ซึ่งเป็นอีกปีแห่งการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ด้วยการที่จ๊อกกี้นำเสนอกางเกงในขาเว้าที่เรียกว่า “Y-Front® Briefs” ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก จนทำให้จ๊อกกี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะแบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย และนั่นเป็นอีกหนึ่งระดับของการสร้างบรรทัดฐานด้านคุณภาพของแบรนด์ Jockey® อย่างแท้จริง อีกทั้งยังสร้างคุณค่า และความภาคภูมิใจให้บรรดาแฟนพันธุ์แท้ของจ๊อกกี้ทั่วโลก
ในงานแฟชั่นโชว์เปิดตัวแคมเปญ “Show You’re Jockey” นี้ ได้เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์จ๊อกกี้ที่มีตำนานมาอย่างยาวนาน ถ่ายทอดผ่านยุคต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่ ยุค 60’s ที่จ๊อกกี้ได้คิดค้นชุดชั้นในชายให้กับองค์การนาซาร์ (N.A.S.A’s Apollo program) เพื่อให้ นีล อาร์มสตรองใส่ชั้นในจ๊อกกี้ขึ้นยานอพอลโลไปสำรวจดวงจันทร์ ในยุค 70’s จ๊อกกี้ได้นำนักกีฬามาเป็นนายแบบเป็นครั้งแรกในวงการ และในยุค 80’s จ๊อกกี้ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสำหรับคุณผู้หญิง เรียกว่า “Jockey for Her” ตามด้วย ยุค 90’s จวบจนถึงปัจจุบัน