ปัจจุบันกระแสความนิยมศิลปวัฒนธรรมจากประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทย ไม่ใช่เพียงแค่ภาพยนตร์ ซีรีส์ แต่ยังรวมถึงสไตล์การแต่งหน้า แต่งกาย และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ที่ผ่านมาเราอาจไม่คุ้นหูกับชื่อแบรนด์แฟชั่นจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่มักจะทำตลาดแค่ภายในประเทศของตนเอง แต่บางคนอาจไม่รู้ว่าความจริงมีแบรนด์แฟชั่นจากประเทศจีนซุ่มทำตลาดในไทยมาสักระยะหนึ่งแล้ว นั่นคือแบรนด์ Urban Revivo (เออร์เบิน รีไวโว) ที่อยู่ภายใต้บริษัท Fashion Momentum Group หรือ FMG

ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์และสไตล์การออกแบบที่คล้ายกับแบรนด์ยุโรปอย่าง Zara หรือ H&M ทำให้มีน้อยคนที่จะรู้ว่านี่คือแบรนด์แฟชั่นจากประเทศจีน ซึ่งนั่นเป็นความตั้งใจของ ลีโอ หลี่ ประธานกลุ่มและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FMG ที่อยากให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์สื่อถึงความเป็นสากล จึงตั้งชื่อและออกแบบเสื้อผ้ารวมไปถึงการตกแต่งร้านที่ดูทันสมัย โดยมีเป้าหมายเพื่อออกไปทำตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกาในอนาคต

สไตล์การตกแต่งร้านของ Urban Revivo จะเน้นความสวยงามของงานศิลปะที่นำมาจัดวาง ด้วยการนำธรรมชาติมาผสานกับความเป็นเมือง โดยนำวัสดุจากงานอุตสาหกรรมเช่น เหล็ก มาผสานกับไม้เผื่อให้เกิดการสื่อสารร่วมกัน
สไตล์การตกแต่งร้านของ Urban Revivo จะเน้นความสวยงามของงานศิลปะที่นำมาจัดวาง ด้วยการนำธรรมชาติมาผสานกับความเป็นเมือง โดยนำวัสดุจากงานอุตสาหกรรมเช่น เหล็ก มาผสานกับไม้เผื่อให้เกิดการสื่อสารร่วมกัน

...

“เรามีสโลแกนว่าทำให้โลกเรามีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น UR (Urban Revivo) เปิดตัวในปี 2006 เป็นฟาสต์แฟชั่นแบรนด์แรกของจีน แม้ว่าจะมีความท้าทายแต่เราก็กล้าที่จะเปิดตัว เราต้องสู้กับแบรนด์ยุโรปมาถึง 18 ปี จนเป็นผู้นำแบรนด์แฟชั่นในจีน ในยุคนั้นแบรนด์จีนส่วนใหญ่มักจะแยกเป็นเสื้อผ้าของผู้ชายและผู้หญิงโดยเฉพาะแต่เรามีทั้งชายและหญิงรวมกัน นี่คือเอกลักษณ์ของเรา เราตั้งเป้าขยายไปทั่วโลกตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ ปัจจุบันเรามีกว่า 400 สาขาทั่วโลก โดยออกแบบร้าน โลโก้ ให้มีความเป็นสากล เพราะตั้งเป้าว่าจะไปที่ยุโรปและอเมริกาให้ได้ หลายคนมักจะคิดว่าเราเป็นแบรนด์ยุโรป ซึ่งเป็นความตั้งใจของเรา”

Urban Revivo สาขาแรกในไทยตั้งอยู่ที่ไอคอนสยามมาตั้งแต่ก่อนมีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีจากคนไทยที่ชอบแฟชั่น และปัจจุบันได้ขยายอีกหลายสาขาในห้างต่างๆ ในกรุงเทพฯ

UR วัน แบงค็อก เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ราว 3,000 ตารางเมตร บนชั้น G และชั้น 1 ของโซนพาเรด วันแบงค็อก
UR วัน แบงค็อก เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ราว 3,000 ตารางเมตร บนชั้น G และชั้น 1 ของโซนพาเรด วันแบงค็อก

นอกจากแบรนด์ Urban Revivo แล้ว ล่าสุดบริษัทแม่อย่าง FMG ได้เปิดตัวสาขาแบรนด์ Benlai (เบิ่นไหล) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นในเครือนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก โดยปักหมุดที่โซนพาเหรดในโครงการวันแบงคอก เพื่อเป็นการเปิดประตูทำตลาดนอกประเทศและเปิดโอกาสไปสู่สาขาอื่นๆ ในนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว และฮ่องกง ในปีต่อไป

“เรามองว่าคนไทยมีความสนใจในเรื่องแฟชั่น เราอยากให้ Benlai มีความเป็นสากล การเปิดสาขาในกรุงเทพที่วันแบงคอกเพราะเป็นห้างที่มีศักยภาพสูง แบรนด์เราให้คนทุกเพศทุกวัยสวมใส่ ในราคาที่จับต้องได้ และเราใช้กลยุทธ์เดียวกับการไปทำตลาดในยุโรป แบรนด์จีนส่วนใหญ่มักจะอยู่แต่ในประเทศ แต่เราตั้งเป้าต่างชาติเพื่อให้เข้าใจความต้องการของคนทั่วโลกและนำมาปรับใช้ได้ ซึ่งคนจีนก็แต่งตัวแฟชั่นสากลมากขึ้นต่างจากเมื่อก่อน ถ้ามาทำตลาดในไทยได้ก็ไปประเทศอื่นทั่วโลกได้เช่นกัน  เราต้องทำให้สินค้าเรามีความชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ต่างจากคนอื่น” ลีโอ กล่าว

ร้าน BENLAI ที่โครงการ วัน แบงค็อก เป็นสาขาแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ขนาด 1,286 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น G โซนพาเรด
ร้าน BENLAI ที่โครงการ วัน แบงค็อก เป็นสาขาแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ขนาด 1,286 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น G โซนพาเรด

...

สำหรับแบรนด์ Benlai ก่อตั้งในปี 2022 เป็นแบรนด์แฟชั่นในสไตล์เบสิกที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันในหลายๆ กิจกรรม ซึ่งมีสไตล์และจุดยืนที่ต่างจาก Urban Revivo อย่างชัดเจน โดยเน้นที่การคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตเนื้อผ้าให้มีคุณภาพสูงสวมใส่สบายในทุกโอกาส ในราคาที่เข้าถึงได้

ลีโอ หลี่ ประธานกลุ่มและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FMG
ลีโอ หลี่ ประธานกลุ่มและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FMG

“เราริเริ่มแบรนด์นี้ขึ้นมา เพื่อปฏิรูปด้านการแต่งกายโดยใช้เนื้อผ้าที่ทันสมัย สวมใส่สบาย ปกติเสื้อผ้าออกกำลังกายจะเป็นแบบลำลอง เช่น ลูลูเลม่อน ยูนิโคล่ ใช้วัตถุดิบเช่นผ้าฝ้ายในการผลิต แต่เราต้องการสร้างความแตกต่างในสไตล์ลำลองด้วยการนำความสะดวกสบายมาใช้ในเนื้อผ้า”

สไตล์แฟชั่นของ Benlai คือเสื้อผ้าลำลอง ที่มีทั้งฟังก์ชันระบายความร้อนและเก็บความอบอุ่นไปพร้อมกัน เป็นนวัตกรรมการผลิตเนื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับกิจกรรมในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น

...

FMG ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตเนื้อผ้าที่สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ
FMG ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตเนื้อผ้าที่สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ

นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องความยั่งยืน เนื่องจากอุตสาหกรรมแฟชั่นมีส่วนสำคัญที่ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก Benlai จึงไม่ใช่ Fast Fashion ที่เปลี่ยนคอลเลกชันใหม่อย่างรวดเร็ว แต่เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นการผลิตด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการผลิตเสื้อผ้า พร้อมทั้งมีทีม R&D (วิจัยและพัฒนา) เพื่อคิดค้นเนื้อผ้าใหม่ๆ เพื่อความยั่งยืนโดยเฉพาะ

แฟชั่นของ Benlai เป็นสไตล์ลำลองที่มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตให้สวมใส่สบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แฟชั่นของ Benlai เป็นสไตล์ลำลองที่มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตให้สวมใส่สบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

...

“เราลงทุนในเรื่อง R&D จำนวนมาก เพราะคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนในอุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นี่เป็นกลยุทธ์ของบริษัทเรา โดยมีการพัฒนา ESG และพัฒนาซัพพลายเออร์ เน้นการใช้เนื้อผ้า วัตถุดิบที่ยั่งยืน มีการรีไซเคิลพลาสติกมาทำเป็นเนื้อผ้าของเรา และมีการวิจัยร่วมกับบริษัทผลิตผ้าให้มีความยั่งยืนมากขึ้น และมีการขยายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

สาขาแรกของ Benlai อยู่ในเมืองกวางโจว และขยายสาขาไปยังมณฑลอื่นๆ ของจีน ปัจจุบันมี 21 สาขา โดยประเทศไทยเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการเปิดประตูนำพาไปสู่ระดับสากลในประเทศอื่นๆ ต่อไป