ถามว่าแฟชั่นวีกจะตายไหมในยุคดิสรัปชัน ที่ใครๆ ก็สามารถติดตามโชว์สดๆ จากมุมไหนของโลกก็ได้ ผ่านการ Livestream และการแชร์ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์บนโลกโซเชียล บอกเลยว่าไม่ตายแน่นอน!! พิสูจน์ได้จากความปังของฟรอนต์โรว์ “มิลาน แฟชั่น วีก” ซีซันสปริง/ซัมเมอร์ 2025 ที่คึกคักไปด้วยเหล่าดารา, เซเลบริตี้, อินฟลูเอนเซอร์ระดับแม่เหล็กจากทั่วทุกมุมโลก ไม่นับรวมบรรดาเอดิเตอร์และบายเออร์ใหญ่ๆ ที่มาจับจองที่นั่งแถวหน้า
นอกจากจะได้ทึ่งกับลุคสุดฮิปของเหล่าดาราคนดังที่มาร่วมเป็นแขกสำคัญสร้างสีสันฟรอนต์โรว์ให้แฟชั่นเฮาส์น้อยใหญ่ บนรันเวย์ “มิลาน แฟชั่น วีก” ยังเรียกเสียงปรบมือ ด้วยการสร้างเทรนด์ใหม่ๆไม่รู้เบื่อให้กับวงการแฟชั่นโลก สมกับที่เป็นศูนย์กลางแห่งพายุหมุน
นำทัพโดยเจ้าแห่งนวัตกรรมแฟชั่น “PRADA” โดย “มิวเซีย ปราด้า” จับมือ “ราฟ ไซมอนส์” สร้างสรรค์ลุคใหม่สุดล้ำสไตล์ฟิวเจอริสติกให้ได้ตื่นตาตื่นใจ เป็นส่วนผสมระหว่างกลิ่นอายวินเทจกับความล้ำสมัยในแบบซุปเปอร์ฮีโร่ ขาดไม่ได้คือการนำเสนอคอนเซปต์ “Ugly Chic” ซึ่งถือเป็นดีเอ็นเอสร้างชื่อมาตลอดของปราด้า โดยหยิบสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันมาสไตลิ่งใหม่ให้ดูชิค, แปลกแหวกแนว และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างเทรนด์ใหม่ฉีกกรอบแฟชั่นที่ไม่มีใครตามทัน
...
อีกหนึ่งแฟชั่นเฮาส์ทรงอิทธิพลสัญชาติอิตาเลียนอย่าง “GUCCI” ก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง โดยหัวเรือใหญ่คนใหม่ “ซาบาโต เดอ ซาร์โน” สร้างสรรค์คอลเลกชันสปริง/ซัมเมอร์ 2025 ภายใต้คอนเซปต์ “Casual Grandeur” รวบรวมทุกไอเท็มแฟชั่นที่หลงใหลมาไว้ด้วยกัน ตั้งแต่งานเทเลอริ่ง, เครื่องหนัง, ซิลูเอ็ตยุคซิกซ์ตี้ส์, ความเซ็กซี่ของชุดชั้นใน และลูกไม้ซีทรู ไปจนถึงวิญญาณขบถในแบบฉบับของกุชชี่ เพื่อถ่ายทอดนิยามความโก้หรูแบบใหม่ที่ดูสนุกและรีแลกซ์กว่าเดิม ไอเท็มเด่นยกให้หมวกปีกกว้างขนาดใหญ่, ผ้าโพกศีรษะ, แว่นกันแดด, ถุงมือหนัง และโชกเกอร์ ที่ได้อินสไปเรชันจากหูกระเป๋ารุ่นตำนาน “Gucci Bamboo 1947” ยุคที่วัสดุดั้งเดิมหายาก ทำให้กุชชี่ตัดสินใจใช้ไม้ไผ่ ซึ่งน้ำหนักเบาและทนทาน มาสร้างสรรค์เป็นหูจับกระเป๋า
...
นำเสนอมุมมองใหม่ๆได้น่าสนใจยังรวมถึง “FENDI” ภายใต้การนำของ “คิม โจนส์” ซีซันล่าสุด ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างโดดเด่น โดยพาเหล่าสาวกเฟนดิขึ้นไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในยุคทศวรรษ 1920 อันเป็นห้วงเวลาแห่งการปลดแอกของสุภาพสตรี ตามความเชื่อที่ว่า รากฐานการแต่งกายของผู้หญิงในปัจจุบัน ล้วนมาจากการปฏิวัติแฟชั่นในยุคทศวรรษ 1920 ซึ่งสะท้อนความโมเดิร์นและทัศนคติอันเปิดกว้าง เผยให้เห็นเสน่ห์ของผู้หญิงมาดมั่นยุคใหม่ ที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆในทุกวงการ คอลเลกชันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของเฟนดิ จึงอุทิศรันเวย์ให้เป็นโชว์เคสจัดแสดงทักษะความเชี่ยวชาญในทุกด้านของเฟนดิ ทั้งในแบบฉบับกูตูร์และเรดี้ทูแวร์
...
...
หนึ่งเดียวในรุ่นเดอะที่ยังครองรันเวย์อย่างเหนียวแน่น คงไม่มีใครเกิน “จิออร์จิโอ อาร์มานี” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “EMPORIO ARMANI” ซีซันนี้มาในคอนเซปต์ “Future Perfect” เปิดฉากทัพนางแบบในชุดสูทผูกไทมาดเท่ เพื่อประกาศความเท่าเทียมทางเพศในโลกแฟชั่น ภายใต้งานเทเลอริ่งอันคมกริบที่สามารถลื่นไหลไปได้โดยไม่จำกัดเรื่องเพศ ท่ามกลางยุคสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่วิถีแฟชั่นยุคใหม่กลายเป็นสิ่งคาดเดาได้ยาก ทุกชิ้นงานของอาร์มานีจึงเปรียบได้กับงานศิลปะไร้พรมแดนเรื่องเพศ คือนิยามของความเท่าเทียมที่ไม่ละทิ้งแฟชั่นในแบบฉบับดั้งเดิม สะท้อนความหมายของวลีอมตะ...การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เปลี่ยนไป.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่