ใกล้เข้าไปทุกขณะสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประเทศเจ้าภาพได้เปิดตัวชุดและถาดเชิญเหรียญรางวัลโอลิมปิกและพาราลิมปิก โดยเป็นการออกแบบจากแบรนด์หรูอย่างหลุยส์ วิตตอง
การแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ หรือโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ประกาศเปิดตัวถาดเชิญเหรียญรางวัล พร้อมด้วยชุดแต่งกาย ด้วยการออกแบบของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง
อองตวน อาร์โนลต์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของแอลวีเอ็มเอช กล่าวว่า เราต้องการมีส่วนร่วม ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นพันธมิตรฝ่ายสร้างสรรค์ในช่วงพิธีเปิดเท่านั้น แต่เราต้องการปรากฏตัวตลอดทั้งงาน รวมทั้งในส่วนของกีฬาด้วย
...
ถาดเชิญเหรียญรางวัลโอลิมปิก 2024 ด้านนอกออกแบบโดยใช้ตารางหมากรุกสุดคลาสสิกเหนือกาลเวลาที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Damier (ดามิเยร์) อันเป็นลวดลายที่เผยสายตาให้คนทั้งโลกตั้งแต่ปี 1888 ด้านในบุด้วยหนังสีดำด้าน เพื่อเพิ่มความเรียบหรู
นอกจากถาดเชิญเหรียญรางวัลแล้ว หลุยส์ วิตตอง ได้สรรสร้างเครื่องแต่งกายแบบยูนิเซ็กซ์ (Unisex) ให้กับผู้เชิญเหรียญรางวัลด้วย โดยมาในชุดโปโล กางเกงทรงหลวม และหมวกแก๊ปแบบ Gavroche
อองตวน อาร์โนลต์ กล่าวต่อไปว่า เราออกแบบเครื่องแต่งกายโดยเน้นความหรูหรา ทำให้ผู้สวมใส่ดูสุขุม ดูสบาย และทำให้ผู้สวมใส่ที่ทำหน้าที่อัญเชิญเหรียญสามารถทำงานของพวกเขาได้อย่างดีที่สุด ท่ามกลางสายตาหลายร้อยล้านคู่ที่กำลังจับจ้องไปยังพวกเขา
ในส่วนพันธมิตรของการจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2024 นอกเหนือจากหลุยส์ วิตตองแล้ว ยังมีบริษัทชั้นนำอย่างอินเทล (Intel) ที่จะเข้ามาบูรณาการโลกเทคโนโลยีและกีฬา ผ่านการนำเสนอโซลูชัน 5G เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์สำหรับการรับชมและการแข่งขันโอลิมปิก
...
เช่นเดียวกัน แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างโอเมกา (Omega) จะรับหน้าที่เป็นนาฬิกาจับเวลาในทุกประเภทกีฬา เพื่อบันทึกทุกช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ และการเก็บบันทึกความฝันของนักกีฬาที่ร่วมลงชิงชัยในโอลิมปิกครั้งนี้ รวมถึงซัมซุง (Samsung) ที่ประกาศว่า จะนำ Galaxy S24 Ultra มาเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อบันทึกภาพจากมุมต่างๆ ด้วยฟุตเทจแบบ HDR คุณภาพสูง แล้วสตรีมให้แฟนๆ ทั่วโลกได้รับชมพร้อมกัน
สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก 2024 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ไปจนถึง 11 สิงหาคม โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นนอกสเตเดียม โดยนักกีฬาทุกคนจะได้ล่องเรือตามแม่น้ำแซน (Seine River) และพิธีปิดจะมีขึ้นที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ (Stade de France) ซึ่งเป็นสนามที่เคยจัดนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2016
ที่มา: LVMH