มารีเมกโกะ (marimekko) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สัญชาติฟินแลนด์ ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของลวดลายที่น่ารักสดใส พร้อมกับปรัชญาที่สะท้อนถึงความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
มารีเมกโกะ (marimekko) ก่อตั้งขึ้นในปี 2494 มีชื่อเสียงจากการใช้สีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไปจนถึงของแต่งบ้าน ซึ่งปัจจุบัน ทำตลาดอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก
แม้ว่าจะเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ แต่ มารีเมกโกะ ยึดถือเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ฝังรากลึกอยู่ในปรัชญาของแบรนด์ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ชาวฟินแลนด์ให้ความสำคัญเสมอมา
...
“เรื่องความยังยืนเป็นหนึ่งในปรัชญาของมารีเมกโกะอยู่แล้ว โดยเฉพาะชาวฟินแลนด์ที่เชื่อในเรื่องธรรมชาติและความยั่งยืน มองว่าการที่เราทำลายธรรมชาติก็เหมือนการทำลายตัวเองในอนาคต เพราะมันจะวนกลับมาที่เราที่ต้องอยู่กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นมารีเมกโกะจึงให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนไปตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ เรามีการทำวิจัยและตรวจสอบว่าเราควรจะเปลี่ยนผ้าแบบไหน และในแต่ละปีจะมีจุดชี้วัดและควบคุมได้ว่าเราช่วยเรื่องความยั่งยืนอย่างไรบ้าง” แพรวไพลิน เอมอักษร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัท ธนจิรา โฮม จำกัด กล่าว
ปรัชญาการออกแบบของมารีเมกโกะเป็นอิสระอยู่เหนือกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีรากฐานมาจากการใช้ชีวิตที่มองโลกในแง่ดีและสร้างแรงบันดาลใจผ่านการออกแบบที่ไร้กาลเวลาและสามารถใช้งานได้จริง
มารีเมกโกะให้ความสำคัญและพัฒนาตั้งแต่เรื่องก่อนการผลิต ไปจนถึงการย้อมผ้า ว่าจะทำอย่างไรให้สารเคมีลงไปที่น้ำน้อยที่สุด และมีการใช้น้ำที่น้อยลง พร้อมทั้งมีการตรวจสอบว่ามีการใช้น้ำลดลงทุกปี และมีการพัฒนาผ้า Coated Fabric ที่ใช้น้ำมันธรรมชาติในการเคลือบผ้า
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าที่เป็นความยั่งยืนเกือบ 50% ของสินค้าหลักทั้งหมด โดยนำผ้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานมาผลิตสินค้าใหม่ โดยมีการระบุชัดเจนว่าผ้าที่ใช้มาจากผ้าที่เหลือในสต๊อกและไม่ผ่านมาตรฐาน เพื่อเป็นการแสดงความซื่อสัตย์กับลูกค้า
...
“สินค้าเกือบ 50% ของมารีเมกโกะเป็นวัสดุจากความยั่งยืน เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิก ที่เราซื้อจากเกษตรกรที่ได้รับการยอมรับ และถูกควบคุมโดยองค์กรยุโรปว่าเกษตรกรเหล่านี้ได้รับความยุติธรรมจากคนที่ซื้อผ้าฝ้ายและมีการดูแลหน้าดินที่ดี ทุกอย่างคือผ่านการตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงเรื่องของผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% ก็จะอยู่ในวัสดุกระเป๋าต่างๆ ของเรา ซึ่งเราดูแลเรื่องความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ”
ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่เป็นแฟนๆ ของแบรนด์มารีเมกโกะ ก็มีความเข้าใจและให้การยอมรับในตัวแบรนด์มากขึ้น เพราะมีการสื่อสารชัดเจนตั้งแต่วันแรกว่าสินค้าผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล ทำให้ลูกค้าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลความยั่งยืนด้วย
เป้าหมายด้านความยั่งยืนของมารีเมกโกะคือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งมารีเมกโกะบรรลุเป้าหมายนี้แล้วในปี 2565 ที่พบว่ามีการปล่อยก๊าซจากการดำเนินงานของแบรนด์ลดลง 72% เมื่อเทียบกับปี 2562 พร้อมทั้งตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งลง 50% ในปี 2568
ภาพจาก: marimekko
...