เทรนด์แฟชั่น 2023 คือหนึ่งในสิ่งสำคัญของผู้รักการแต่งตัวและชอบอัปเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ คอยติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้จะมีเทรนด์อะไรน่าสนใจบ้าง
เทรนด์แฟชั่น 2023 ถูกวิเคราะห์จากกระแสความนิยมใน TikTok ที่มีต่องาน Fashion Week ที่จัดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ประกอบการวิเคราะห์ของตัวแม่วงการแฟชั่นอย่าง แอนนา วินทัวร์ รวมถึงการนำเสนอคอลเลกชัน Spring/Summer 2023 จาก New York Fashion Week ได้สร้างตัวเลือกเทรนด์แฟชั่น 2023 ขึ้นมาดังต่อไปนี้
1. ผ้าเชียร์เนื้อบางเบา
ผ้าเชียร์ที่โปร่งใสแบบซีทรูไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทรนด์แฟชั่น 2023 จะถูกนำมาตีความใหม่ให้มีความหรูหราบนชุดราตรีหรือชุดออกงานต่างๆ โดยใช้ผ้าเชียร์ซีทรูทั้งตัวแต่สวมใส่ได้จริงด้วยการเพิ่มเลเยอร์และตกแต่งให้สวยงามหรูหราแต่ก็มีความเซ็กซี่เย้ายวนไปพร้อมกัน ซึ่งจะเห็นได้จากคอลเลกชัน Spring/Summer 2023 ของ Tory Burch, Miu Miu, Valentino, Bottega, Chanel และอีกหลายแบรนด์
...
2. งานพู่ต้องมา
หากจำได้จะเคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เทรนด์แฟชั่นมีการนำขนนกมาประดับที่ชายแขนเสื้อหรือชายกระโปรง ซึ่งเทรนด์แฟชั่น 2023 นี้จะเปลี่ยนจากขนนกมาเป็นพู่แทน ซึ่งช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับชุดที่ดูมินิมอลให้ดูสนุกสนานเหมาะกับการไปปาร์ตี้มากขึ้น แม้ว่าแฟชั่นที่ตกแต่งด้วยพู่จะเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน แต่ถ้าหากอยากใส่ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงฤดูนั้นด้วยการผสมผสานพู่เข้ากับเนื้อผ้ารูปแบบที่แตกต่าง เช่น ใส่คู่กับแจ็กเก็ตหนัง หรือสวมคู่กับเสื้อสเวตเตอร์ ก็ทำให้ได้ลุคที่แปลกใหม่และทันสมัยไม่ตกเทรนด์
3. แฟชั่นเอวต่ำ
หากปีที่ผ่านมาฮิตเทรนด์แฟชั่น Y2K ในปีนี้เทรนด์แฟชั่น 2023 กางเกงเอวต่ำที่เคยฮิตในยุค 90 กลับมาเป็นแฟชั่นอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงกางเกงเท่านั้น แต่ยังรวมตั้งแต่กางเกงยีนส์ กระโปรง กางเกงขาสั้น ไปจนถึงกระโปรงยาว ซึ่งเข้าคู่กันได้ดีกับเสื้อครอป
4. ชุดเลื่อมยังไม่ตกเทรนด์
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาแฟชั่นชุดเลื่อมอยู่ในกระแสเพื่อรับเทศกาลรื่นเริงปลายปีอย่างคริสต์มาสและปีใหม่ แต่เทรนด์แฟชั่น 2023 เทรนด์ชุดประดับเลื่อมก็ยังไม่ตกกระแส แต่จะมีโทนสีที่นุ่มนวลอ่อนหวานขึ้น เช่น สีชมพูอ่อน สีนู้ด และสีพาสเทล
5. ชุดหนัง
แม้ว่าชุดหนังจะเหมาะกับฤดูหนาว แต่เทรนด์แฟชั่น 2023 ชุดหนังจะถูกออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นแจ็กเก็ตหนัง กระโปรงหนังทุกระดับความยาว ด้วยการออกแบบที่มีลูกเล่นและสีสันมากขึ้นและสวมใส่เข้ากันได้ดีกับหลายๆ ลุค
6. สีน้ำเงินโคบอลต์ (Cobalt Blue)
ปีที่ผ่านมาเป็นปีของสีชมพูฟูเซีย (Fuchsia Pink) แต่สำหรับเทรนด์แฟชั่น 2023 เฉดสีน้ำเงินโคบอลต์กำลังมาแทนที่ ซึ่งเป็นเวลานานแล้วที่สีน้ำเงินโคบอลต์อยู่ในแนวหน้าของเทรนด์แฟชั่น และการกลับมาของสีน้ำเงินก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และถูกนำมาใช้ตั้งแต่เดรสไปจนถึงแจ็กเก็ต กระโปรง รวมถึงรองเท้าบูต สายแฟชั่นที่ไม่อยากตกเทรนด์ก็ควรมีแฟชั่นสีน้ำเงินโคบอลต์ติดตู้ไว้
...
7. แฟชั่นผ้ามัดย้อม
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาในช่วงล็อกดาวน์เราเคยฮิตการสวมใส่ผ้ามัดย้อมกัน ซึ่งสะท้อนถึงความเบื่อหน่ายจากการกักตัวที่บ้าน และเทรนด์แฟชั่น 2023 แฟชั่นผ้ามัดย้อมกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่มีความหลากหลายและสง่างามกว่าเดิม ด้วยการใช้หลายโทนสีตั้งแต่สีเข้มและไล่ออมเบรจนมาเป็นสีอ่อนลงเพื่อสร้างความแตกต่างและดูเป็นธรรมชาติ
8. เนื้อผ้าเบาสบายและโทนสีพาสเทล
ในช่วงฤดูร้อน การตัดเย็บเสื้อผ้ามักจะใช้ผ้าที่เบาสบายเหมาะกับสภาพอากาศที่อบอุ่น และเทรนด์แฟชั่น 2023 จะมาในโทนสีพาสเทลที่ดูสบายตา เช่น สีน้ำเงิน สีเขียว และสีเทา ซึ่งมาแทนที่สีชมพูที่เคยฮิตในปีที่ผ่านมา
...
9. สีดำที่เร่าร้อน
แม้ว่าสีดำจะเป็นสีที่คลาสสิกแต่ไม่ใช่กับฤดูร้อนที่มักนิยมสีสันสดใส อย่างไรก็ตามเทรนด์แฟชั่น 2023 สีดำกลับเป็นที่นิยม โดยมาในลุคที่เปิดเผยผิวมากขึ้น เช่น ผ้าลูกไม้ ผ้าถักโครเชต์ จึงทำให้สีดำมีความนุ่มนวลและเซ็กซี่เข้ากับหน้าร้อนได้อย่างลงตัว
10. พลังของดอกไม้
แฟชั่นที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้อาจเคยฮิตเมื่อปี 2006 และเทรนด์แฟชั่น 2023 ก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ซึ่งมีตั้งแต่เสื้อเชิ้ต เดรส ไปจนถึงการออกแบบที่แหวกแนวและโดดเด่น ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับสายแฟชั่นที่จะเลือกมาสวมใส่อย่างแน่นอน
...
เทรนด์แฟชั่น 2023 เป็นการวิเคราะห์จากหลายๆ มุมมองทั้งกระแสโซเชียลไปจนถึงผู้ที่อยู่ในแวดวงแฟชั่นรวมถึงแบรนด์แฟชั่นต่างๆ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทุกเทรนด์จะเหมาะสมกับเราเสียหมด เลือกแบบที่เราสวมใส่แล้วมั่นใจและคิดว่าเป็นสไตล์เรา คือเทรนด์แฟชั่นที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
อ้างอิง: Stylecaster, Glamourmagazine
ภาพ: AFP