ความเชื่อเกี่ยวกับ “เทพารักษ์” ดั้งเดิมเป็นวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในต้นไม้ ศาลเจ้าที่หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อคอยปกป้องธรรมชาติ ผู้ที่เคารพบูชาจะได้รับพรและความคุ้มครอง ส่วนผู้ที่ลบหลู่ หรือทำลายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ อาจได้รับเคราะห์กรรมหรือโชคร้าย
“รุกขเทวดา”...เทพผู้สถิตในต้นไม้ ตามคติพุทธศาสนาและพราหมณ์-ฮินดู เชื่อว่าต้นไม้ใหญ่บางต้นเป็นที่สถิตของรุกขเทวดาหรือเทพารักษ์ โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีอายุยืนยาว หรือมีลักษณะพิเศษ
ผู้ที่ต้องการขอพรจากรุกขเทวดา มักนำดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าแพรมาผูกที่ต้นไม้...หากต้องตัดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ต้องทำพิธีขอขมาด้วยน้ำอบ น้ำหอม หรือพิธีกรรมทางศาสนา

“เจ้าแม่ตะเคียน”...วิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งต้นตะเคียนทองเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาว่ามีดวงวิญญาณของหญิงสาว หรือนางไม้สถิตอยู่ในต้นตะเคียน ผู้คนเชื่อกันว่าเจ้าแม่ตะเคียนสามารถดลบันดาลโชคลาภและความสมหวังให้แก่ผู้ศรัทธา การบูชานิยมถวายชุดไทยสีสวยงาม เครื่องสำอาง พวงมาลัย
...
ก่อนนำไม้ตะเคียนมาใช้งาน เช่น ทำเรือ หรือสร้างบ้าน จะต้องทำพิธี บวงสรวงขออนุญาต...เชื่อกันว่าการลูบต้นตะเคียน อาจปรากฏตัวเลขให้โชค
“นางไม้และเจ้าป่าเจ้าเขา”...เทพารักษ์แห่งผืนป่า ในตำนานพื้นบ้านของไทยและลาว มีความเชื่อเรื่องนางไม้และเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งเป็นวิญญาณที่คอยปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า หากมีผู้บุกรุก ตัดไม้ หรือทำลายป่าโดยไม่ขออนุญาต อาจประสบภัยพิบัติหรืออาถรรพณ์ต่างๆ
นักเดินป่าหรือนักล่าสัตว์มักจุดธูปขอขมาก่อนเข้าป่า เพื่อป้องกันอันตราย เชื่อกันว่าเสียงลึกลับกลางป่า หรือแสงประหลาดเป็น สัญญาณเตือนจากเจ้าป่า

“ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง”...เทพารักษ์คุ้มครองบ้านเมือง ในหลายจังหวัดของไทยมีความเชื่อเรื่องเจ้าพ่อหลักเมือง หรือเทพารักษ์แห่งบ้านเมือง ซึ่งเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องบ้านเมืองจากภัยพิบัติและศัตรู ในบางพื้นที่มีประเพณีเซ่นไหว้หลักเมืองเป็นประจำทุกปี
เชื่อกันว่าหากบ้านเมืองเกิดภัยพิบัติ ต้องทำพิธีขอขมาและบูชาเจ้าพ่อหลักเมือง
“เจ้าพ่อขุนด่าน”...เทพารักษ์ผู้ปกป้องป่าเขาใหญ่ เจ้าพ่อขุนด่านเป็นวีรบุรุษในประวัติ ศาสตร์ของไทย เชื่อกันว่าวิญญาณของท่านยังคงคุ้มครองผืนป่าและแม่น้ำในเขาใหญ่...มีศาลเจ้าพ่อขุนด่านในจังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ศรัทธามักบนบานขอพรให้เดินทางปลอดภัย
“ต้นไม้มงคล”...เป็นส่วนสำคัญของความเชื่อในหลายวัฒนธรรมในประเทศไทยมีความศรัทธาว่าต้นไม้บางชนิดสามารถนำโชคลาภ คุ้มครอง ป้องกันภัย เสริมบารมีให้แก่ผู้ปลูกและบ้านเรือนได้ อาทิ

“ต้นโพธิ์” ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้แห่งปัญญาและการตรัสรู้ ถือเป็นต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาพุทธ เพราะเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับตรัสรู้ใต้ร่มเงาของต้นโพธิ์นั้นเปรียบเสมือนการได้รับพลังแห่งสติปัญญาและการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย คนไทยนิยมปลูกต้นโพธิ์ไว้ในวัด เชื่อว่าหากเก็บใบโพธิ์ที่ร่วงจากต้น โดยธรรมชาติจะช่วยเสริมโชคลาภ แต่ไม่ควรปลูกต้นโพธิ์ไว้ในบ้าน เพราะถือว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ควรอยู่ในเขตวัดมากกว่า
“ต้นไทร”...ต้นไม้แห่งการคุ้มครองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น รุกขเทวดา หรือเจ้าที่เจ้าทาง หากมีต้นไทรขึ้นเองตามธรรมชาติในบริเวณบ้าน คนโบราณมักไม่ตัดโค่น เพราะเชื่อว่าเป็นต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้พลังปกป้อง มักพบการนำผ้าเจ็ดสีมาผูกไว้ที่ต้นไทร เพื่อขอพร หรือแสดงความเคารพ
...
เชื่อว่า...การกราบไหว้ต้นไทรจะช่วยให้ชีวิตร่มเย็น มีคนคอยอุปถัมภ์

ศรัทธา...ความเชื่อเกี่ยวกับ “ต้นวาสนา” หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าบ้านไหนปลูกต้นวาสนาแล้วออกดอก จักเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองและความสมหวัง เชื่อกันว่า...“เมื่อดอกวาสนาบาน จะนำโชคลาภ เงินทอง และความสุขมาให้แก่เจ้าของบ้าน”
“...เชื่อว่าผู้ที่ปลูกต้นวาสนาในบ้าน โดย เฉพาะผู้ที่ปลูกเองและดูแลอย่างดี จะได้รับโชคดี และความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา... หากต้นวาสนาออกดอก ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่าเจ้าของบ้านจะมีโชคลาภ เงินทองไหลมา เทมา หรืออาจได้รับข่าวดี”
ต้นวาสนาเป็นต้นไม้มงคลที่ช่วยปกป้องบ้านจากพลังงานลบและสิ่งอัปมงคล ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย เชื่อว่าต้นวาสนาสามารถช่วยปรับสมดุลพลังงานในบ้านและนำพาความสงบร่มเย็นมาให้

อีกทั้งต้นวาสนาเปรียบเสมือนเครื่องรางแห่ง “เมตตามหานิยม” เชื่อกันว่าผู้ที่มีต้นไม้นี้ในบ้านหรือสถานที่ทำงาน จะได้รับความเมตตาจากผู้คนรอบข้าง...ผู้ที่ต้องการเลื่อนตำแหน่งหรือความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นิยมปลูกต้นวาสนาไว้เพื่อเสริมบารมี
วิธีปลูกต้นวาสนาให้เสริมมงคล...ควรปลูกในวันพฤหัสบดี เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมพลังด้านโชคลาภ...ความก้าวหน้า หากต้องการให้เกิดผลด้านเมตตามหานิยม ควรปลูกทางทิศตะวันออกของบ้าน
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม