พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย องค์สวยสมบูรณ์ ราคาเปิด 10 ล้าน

เปิดสนามพระ ปิดท้ายเดือนที่สาม ในวันดี เพราะหลายคนเพิ่งรับเงินเดือนมาตุงๆ แล้วก็พุ่งมาสนามพระ ก่อนถูกเมียยึดไปเป็นค่าฉีดโบทอกซ์ฟิลเลอร์

เข้าสนามก็ได้ยินใครๆคุยเรื่องอภิปรายรัฐบาลว่า สบายใจที่รัฐบาลจะได้บริหารสานต่องาน ซึ่งกำลังต้องแก้ไขกอบกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องอย่างด่วน

คนใจเป็นกลางก็บอกว่า เห็นอยู่ว่ารัฐบาลพยายามทำ แต่ก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนค้าน แต่น่าเบื่อหลายคนค้านด้วยอคติเต็มร้อย ใครทำอะไรก็ไม่มีดีสักอย่าง--เพราะคิดว่าตัวเองรู้ดีที่สุด ก็พูดปาวๆแบบที่ตำราโบราณว่า “มือไม่พาย เอาตีนราน้ำ”

ไปดูพระที่สร้างด้วยพลังจิตแห่งธรรม ของโบราณาจารย์กันดีกว่า องค์แรก พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ องค์สวย คราบกรุ มีผิวเผิน จึงเห็นความงามทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ ผิวเนื้อมวลสารยังสมบูรณ์ เดิมๆ เส้นศิลป์บางเบา ติดเต็มทั่วองค์ อย่างอลังการ

พิมพ์นี้แยกเป็น ๑.พิมพ์แขนกลม ๒.พิมพ์แขนรี ๓.พิมพ์แขนเหลี่ยม ๔.พิมพ์เกศใหญ่๕.พิมพ์แขนบ่วง ๖.พิมพ์ชะลูด ๗.พิมพ์ใหญ่ฐานชิดองค์นี้บอกได้เลยว่า เป็นฝีมือช่างชั้นครู ส่วนชื่อ “พิมพ์เส้นด้าย” ที่ถูกแปลงความหมายเป็นเคล็ดลับว่า มีแต่ได้ ทำให้ได้รับความนิยมอันดับสาม ในสกุลบางขุนพรหม ที่มีคำคล้องจองของพิมพ์ เป็นเคล็ดในการใช้บูชาว่า “ใหญ่ ได้ ดี” พระสภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ แบบองค์นี้ ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ เซียนใหญ่สายตรงแห่งยุค ประเมินไว้ถึงหลัก ๑๐ ล้าน

ต่อด้วย พระลีลาบ่อสวก เนื้อดิน ต.บ่อสวก อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งเจ้าถิ่น สจ.บอมบ์ เมืองน่าน มีทำการบ้านดี ส่งข้อมูลยาวเหยียดละเอียดยิบมาด้วย ซึ่งถ้าเจ้าของพระขยันเหมือน สจ.น่าน ก็จะดีมาก ที่ท่านผู้ชมจะได้เกร็ดความรู้หลากหลาย ที่แต่ละคนรู้ไม่เหมือนกัน มาเล่าสู่กันฟัง

สำหรับพิมพ์นี้ พบเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๘ ตอนชาวบ้านไปถางป่า โดยจุดไฟเผา (สมัยนี้อย่าทำเลย) แล้วพบว่าไฟไม่ไหม้ที่เนินดิน พอชาวบ้านขุดเนินดินที่ไฟไม่ไหม้ ก็พบ พระพิมพ์ ฝังอยู่ใต้แผ่นหิน เป็นพุทธศิลป์ผสม ๒ แผ่นดิน ที่มีรูปแบบแตกต่าง แยกได้เป็นพิมพ์ ๑.นางพญาบ่อสวก (ปลายตัด) ๒.นางพญาบ่อสวกใบพุทรา ๓.นางพญาบ่อสวก พิมพ์ใหญ่ (ขี้ปุ๋ม) ๔.พิมพ์ลีลาบ่อสวก

ล้วนได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะพิมพ์ลีลา ที่พบน้อยสุด หายากสุดในปัจจุบัน และองค์นี้สภาพงามสมบูรณ์สุด เป็นแชมป์ของพิมพ์

เสริมอีกนิด ต้อนรับพระใหม่กรุเก่า ซึ่งเขียนมา ๓๐ ปี เพิ่งมีมาเยือนสนามพระวิภาวดีของเรา

อันว่า บ่อสวก แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ที่สำคัญของเมืองน่านในสมัยโบราณ เคยมีชาวจีนฮ่ออพยพมาอยู่ และทำเครื่องปั้นดินเผาที่พวกเขามีชื่อเสียง พื้นที่ที่พบเตาเผาส่วนมากเป็นเนินดินใหญ่ ใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นโลเกชันที่เหมาะทำเครื่องปั้นดินเผา ที่ขาดน้ำไม่ได้

คำว่า สวก ในภาษาลัวะ คือ เกลือ หรืออีกความหมายแปลว่า ดุร้าย เพราะมีตำนาน ผีเฝ้าบ่อเกลือ ว่าใครลบหลู่จะเจ็บไข้ได้ป่วย มีอันเป็นไป--ถ้าพูดในทางวิทยาศาสตร์ เรื่องผีดุ ก็อาจทำให้คนไม่กล้าขโมยเกลือ

ขอส่งเสริมการท่องเที่ยวนิด ว่าชุมชนตำบลบ่อสวก ยังเป็น หมู่บ้านท่องเที่ยวยั่งยืน Best Tourism Villages 2021 จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)

ต่อด้วย เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล ข้างเรียบ เนื้อทองแดง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ๑ ในพิมพ์นิยมมาตรฐาน เนื้อนิยมสุด หายากสุด โดยเฉพาะองค์งามสมบูรณ์เดิมๆ แท้ดูง่าย อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยบอมเบย์ สุพรรณ

อีกสำนักเป็น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรัก ปิดทอง หลังยันต์ หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ จ.ฉะเชิงเทรา อมตะพระเกจิฯต้น ตำรับวิชาสร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักแห่งภาคตะวันออก

ท่านมีชื่อเสียงร่วมยุคหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จึงแลกเปลี่ยนวิชากัน โดย หลวงปู่จีน อาวุโสสูงกว่า สร้างพระปิดตามาก่อน ด้วย เนื้อผงพุทธคุณผสมผงว่านเกสรดอกไม้ และผงคัมภีร์ใบลาน ประสานเนื้อด้วย ยางรัก อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเด่นชัด ด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน “ครบเครื่อง”

พิมพ์พระมีมากมาย เช่น ๑.พิมพ์แข้งหมอนใหญ่ ๒.พิมพ์เม็ดกระบกใหญ่ ๓.พิมพ์กลีบบัวเศียรแหลม ๔.พิมพ์กลีบบัว ๕.พิมพ์เส้นด้าย (ไม้ค้ำเกวียน) ๖.พิมพ์เศียรปลาไหล ๗.พิมพ์แข้งหมอนเล็ก ๘.พิมพ์เม็ดกระบกเล็ก--องค์ กลีบบัว หลังยันต์ นี้ ของ เสี่ยเต่า พระเครื่อง เป็นสภาพสมบูรณ์ลงรักปิดทองเดิมๆที่มีพบน้อย นับองค์ได้

ต่อด้วย สิงห์งาแกะ ๕ ขวัญ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก จ.ระยอง ที่มีรูปทรงรายละเอียดฝีมือช่างเหมือน สิงห์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ ๑ ต่างกันที่อายุความเก่าของเนื้องาและเส้นศิลป์ ฝีมือช่างต่างรุ่น แต่เป็นชาวพยุหะคีรีเหมือนกัน

เพราะหลวงพ่อหอม เป็นพระเกจิฯชั้นศิษย์ ที่มีอายุอยู่ทันหลวงพ่อเดิม จึงเชื่อกันว่าได้เป็นศิษย์ และนำสิงห์งาแกะฝีมือช่างพยุหะคีรี กลับมาเผยแพร่สู่ในเมืองระยอง และได้รับความนิยมสูง

ตัวนี้ของ เสี่ยนิธิวัชร์ศิริวรานภาพงศ์ เป็นทรงนิยมอันดับ ๑ เรียกว่า สิงห์ ๕ ขวัญ (ด้านหนึ่งมี ๓ ขวัญอีกด้านมี ๒ ขวัญ) สภาพงามสมบูรณ์ มาตรฐาน ฝีมือช่างถูกต้อง เนื้องาแห้งเก่า อายุถึงยุคแบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักหมื่นปลายขึ้นถึงหลักแสนได้เลย

สุดท้ายเป็น เหรียญฉลองอายุวัฒนะมงคล ๗๒ ปี เนื้อทองคำ พระนันทวิริยาภรณ์ (เจ้าคุณอ่าง) วัดใหญ่สว่าง อารมณ์ จ.นนทบุรี ของ “อ.พอยท์” ศิวกร อนันตศิริขจร

ชื่อนี้ก็ใหม่ในสนามเรา ทราบว่าเป็นศิษย์รับถ่ายทอดวิชาพุทธาคมมา มีความรู้หลายศาสตร์ ทั้งปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงอักขระเลขยันต์ และพิธีพราหมณ์ โองการประกอบพิธีกรรม ดูฤกษ์ยาม ทำนายดวงชะตา ซึ่งเปิดสำนักโหราพยากรณ์ “บ้านน้ำมนต์” อยู่เขตบางพลัด กทม.

ลาเดือนมีนาด้วยเรื่องปิดท้าย ที่เกิดหน้าจอทีวีในบ้านนักการเมือง ซึ่งชอบสะสมพระเครื่อง ที่มีพรรคพวกไปชุมนุมฟังอภิปราย ตอนแรกๆ ทุกคนก็สนใจจริงจัง ฟังไปด่าไป เพราะรำคาญพวกที่เอะอะอะไรก็ค้านตะพึด ทำให้การอภิปรายขาดตอน

ฟังไปสักพักก็เริ่มเบื่อ มีคนเบี่ยงเบนไปคุยเรื่องพระเครื่อง ซึ่งสนุกกว่า จึงมีการถอดสร้อย เอาพระมาอวด มาส่องกันเพลิน โดยไม่มีใครสนใจทีวี จนมีผู้อาวุโสคนหนึ่งเพิ่งมาถึง และรีบพูดออกตัวว่า เสียดายมาไม่ทันฟังอภิปรายแต่ต้น แล้วถามว่า ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ใครพูดเรื่องอะไร ใครชนะ--แต่ไม่มีใครตอบได้ ไม่ว่าจะ IO, PNหรือ Fashion นายกฯ ฯลฯ เพราะมัวแต่ส่องพระ จนสภาอภิปรายเสร็จไปแล้ว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม