เปิดเวทีอาทิตย์แรกของเดือนที่สามด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑกลาง วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ องค์สวยสมบูรณ์ ฟอร์มตรงสเปก พิมพ์พระติดชัดเต็มพิมพ์ เนื้อพระเข้มมวลสาร มีคราบฝ้ารากรุบางๆ

ด้านหลัง ไม่มี รอยปั๊มโลโก้ องค์พระเจดีย์ด้วยหมึกสีม่วง แบบนี้ บอกได้ว่าเป็น “พระกรุเก่า” ที่ตกกรุ ก่อนเปิดกรุเป็นทางการ เมื่อ ๙ ตุลาคม ๒๕๐๐ ลักษณะพระกรุเก่า ผิวจะเกลี้ยง มีคราบกรุเล็กน้อย เนื้อพระแก่มวลสารค่อนข้างหยาบ ไม่มีฟองเต้าหู้ เม็ดกรวดทราย

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ (กลาง) วัดใหม่อมตรส ของ วีระชัย ไชยเจริญ.
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ (กลาง) วัดใหม่อมตรส ของ วีระชัย ไชยเจริญ.

แยกพิมพ์ มาตรฐาน ๘ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ฐานคู่--ไม่นับ พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ไสยาสน์ ที่มีน้อยมาก

...

องค์นี้ ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ เป็น พิมพ์อกครุฑ (กลาง) ซึ่งแยกเป็น ใหญ่, กลาง, เล็ก พระมีน้อย หายาก ยิ่งองค์งามๆ สภาพสมบูรณ์เดิมๆ ดูดีมีเสน่ห์ นักนิยมสายตรง เห็นปุ๊บ จึงต่อสายเจรจา จนจบที่ 3.2 ล้าน

ถึงตรงนี้ ขอตอบ คำถามสนามพระ เกี่ยวกับพิมพ์พระว่าทำไมถึงสร้างพิมพ์นั้นพิมพ์นี้ มีที่มาจากอะไร--อย่าง พิมพ์อกครุฑ ทำไมไม่สร้าง พิมพ์อกช้าง พิมพ์อกเสือ ฯลฯ

ผู้รู้หลายท่านอธิบายประวัติศาสตร์ ที่สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานว่า ยุคแรกๆ ของพุทธศาสนา ซึ่งมีต้นกำเนิดในอินเดีย มีการจัดสร้าง ประติมากรรม ตามคติความเชื่อ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระพิมพ์ พอพุทธศาสนาขยายไปสู่ดินแดนต่างๆ พระพิมพ์ ก็รับอิทธิพล ทางวัฒนธรรมความเชื่อของดินแดนนั้นๆ มาปะปน จนกลายเป็น พระเครื่อง อย่างทุกวันนี้

แต่ รูปแบบ ก็ยังอิงกับความเชื่อในการสร้าง พระพิมพ์ ของอินเดีย อย่างเช่น ในไทย สมัยทวารวดี รูปแบบและเจตนาการสร้างยังเป็นแบบอินเดีย หรือสมัยศรีวิชัย พุทธแบบมหายานมาแรง มุ่งบำเพ็ญบุญ เพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ การสร้างพระพิมพ์ก็เปลี่ยนไปอีก

มาในสมัยสุโขทัย อยุธยา บางช่วงสงบสุข บางช่วงมีสงคราม ก็มีการสร้างพระพิมพ์เพื่อให้มีอานุภาพ มีสิริมงคล ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ แนวคิดทางพุทธศาสนาเปลี่ยนอีก--การสร้างพระพิมพ์ เครื่องราง ของขลัง ที่เรียกรวมว่า “พระเครื่องรางของขลัง” ซึ่งภายหลังเรียกสั้นๆว่า พระเครื่อง เป็นไปตามคตินิยมของแต่ละพระเกจิ

ส่วนที่ถามว่า ทำไมต้อง อกครุฑ ไม่สร้างเป็นพิมพ์อกของสัตว์อื่นๆ สีกาอ่าง ความรู้หางอึ่ง ก็ขอตอบสั้นๆว่า เพราะพุทธในไทยเรารับความเชื่อแบบพุทธฮินดู ที่ถือว่าพญาครุฑเป็นสัตว์ยิ่งใหญ่ เป็นเทพกึ่งสัตว์หิมพานต์ มีอำนาจราชศักดิ์ และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ราชการไทย จึงใช้รูปครุฑเป็นสัญลักษณ์แผ่นดิน และพระมหากษัตริย์ ที่โบราณเชื่อว่าเป็นพระนารายณ์อวตาร เมื่อพระเกจิจัดสร้างพระเครื่อง จึงนำคติความเชื่อมาสร้างเป็นพระเครื่อง พิมพ์ครุฑ เพื่อขออำนาจบารมีของพญาครุฑ ช่วยดลบันดาล--จบ

พระรอด พิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน ของ โจ๊ก ลำพูน.
พระรอด พิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน ของ โจ๊ก ลำพูน.

องค์ที่สองเป็นพระแท้ดูง่ายสายเหนือ พระรอดพิมพ์ใหญ่ กรุวัดมหาวัน ลำพูน ซึ่งเด่นที่ฟอร์มทรง มีปีกเนื้อ พิมพ์พระที่ติดชัดล่ำลึกสุดพิมพ์ เนื้อละเอียดนุ่มหนึกแน่น ไม่มีเม็ดกรวดทราย

ผิวเนื้อหน้า หลัง มีรอยสัมผัสใช้ เปิดเห็นเนื้อใน เข้มข้นแบบ “เนื้อจัด” บอกอายุถึงยุค--เป็นพระสภาพซื้อง่ายขายคล่อง ที่มีใบสั่งรองรับสูง ทำให้ เสี่ยโจ๊ก ลำพูน รับสายไม่ว่าง

พระยอดขุนพลนาน้อย เนื้อชินเงิน พิมพ์กลาง กรุวัดนาหลวง ของอาร์ม เมืองน่าน.
พระยอดขุนพลนาน้อย เนื้อชินเงิน พิมพ์กลาง กรุวัดนาหลวง ของอาร์ม เมืองน่าน.

...

อีกองค์เป็น พระกรุ-พระเก่า ยอดนิยมที่สุดของเมืองน่าน พระยอดขุนพลนาน้อย เนื้อชินเงิน พิมพ์กลาง กรุวัดนาหลวง พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน ฝีมือช่างล้านนา

แยกพิมพ์ตามขนาด เป็น ใหญ่, กลาง, เล็ก พระพักตร์ชัด พระเนตรโปน อกนูน เส้นศิลป์หนา. พระเกศมาลามีประภามณฑล ผนังสองข้างมีเส้นรัศมีกับใบบัว ด้านหลังเรียบ มีทั้งเนื้อชินเงิน ราว ๑,๐๐๐ องค์ เนื้อดิน เนื้อว่าน จำนวนหนึ่ง

ตอนพบใหม่ๆ ไม่ได้รับความนิยม เพราะศิลปะไม่งาม พอมีผู้นำไปใช้ มีประสบการณ์แคล้วคลาดภัยอาวุธสงครามอย่างอัศจรรย์ ทำให้พระเป็นที่นิยม--ราคาองค์งามๆ เดิมๆ สภาพแชมป์ แบบองค์นี้ ของ เสี่ยอาร์ม เมืองน่าน อยู่ที่หลักแสนกลางๆ

เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์จอบเล็ก (แข้งตรง) หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.
เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์จอบเล็ก (แข้งตรง) หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.

...

ถัดไป ดู เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร เหรียญหล่อโบราณ ยอดนิยม

สร้างออกเป็นรุ่นแรก ราว พ.ศ.๒๔๕๐-๖๐ โดยช่างชาวบ้าน ออกแบบแกะแม่พิมพ์ หลอมโลหะเทหล่อที่วัด มี หลวงพ่อเงิน เป็นประธาน โดยอนุญาตให้ชาวบ้านนำโลหะร่วมหลอม หล่อ พระรูปเหมือนพิมพ์ขี้ตา กับ เหรียญจอบเล็ก ที่แยกพิมพ์ย่อยอีก ๔ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์เท้ากระดก ๒.พิมพ์ตาขีด ๓.พิมพ์แข้งติด

และ พิมพ์แข้งตรง แบบองค์นี้ ของ “เสี่ยกบ” ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ซึ่งเป็นองค์สวยแชมป์ ที่ราคาหลักแสนปลายๆถึงหลักล้าน

รูปเหมือนปั๊ม พ.ศ.๒๔๘๒ พิมพ์ C เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ของเอ็ม.บี.นครสวรรค์.
รูปเหมือนปั๊ม พ.ศ.๒๔๘๒ พิมพ์ C เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ของเอ็ม.บี.นครสวรรค์.

ตามมาด้วย รูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๒ พิมพ์ C หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์

...

สร้างในงานฉลองพระอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๒ เป็นรูปเหมือนจำลององค์ท่าน นั่งสมาธิ ปั๊มเครื่องด้วยโลหะผสม เนื้อทองแดง เนื้ออัลปาก้า แยกพิมพ์เล่นเป็น A B C D--องค์นี้ ของ เอ็ม.บี.นครสวรรค์ เป็นพิมพ์ C สภาพสมบูรณ์สวยเด่น ใช้ดีแบบนี้ ราคาหลักแสนกลางๆ มานานแล้ว

เหรียญยันต์ดวง (ทะลุ) เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของทนันท์ ยอดศรีมงคล.
เหรียญยันต์ดวง (ทะลุ) เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของทนันท์ ยอดศรีมงคล.

สุดท้ายเป็น เหรียญยันต์ดวง (ทะลุ) หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา อมตะพระเกจิฯเมืองกรุงเก่า ที่มุ่งสอนธรรมะ และสร้างพระเครื่องของขลัง ให้ศิษย์ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติธรรม ดังคำท่านว่า “ยึดติดวัตถุมงคล ดีกว่าไปยึดถือสิ่งอัปมงคล”

เหรียญนี้ออกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๖ เป็น ๑ ในเหรียญรุ่นนิยม ลักษณะเป็นเหรียญปั๊ม มีเนื้อเงิน ทองแดง

เล่นเป็น บล็อกธรรมดา กับ บล็อกยันต์ทะลุ ซึ่งรูปแบบยันต์ตัวนะปั๊มด้านหลังทะลุถึงด้านหน้าตรงหัวไหล่ แบบเหรียญนี้ของ เสี่ยทนันท์ ยอดศรีมงคล เป็นบล็อกยอดนิยม ราคางามๆ สภาพเดิมๆ แบบนี้ อยู่ที่หลักหมื่นต้น-กลาง

ลาด้วยเรื่องปิดท้าย ของ เสี่ยปุ้ย เจ้าของร้านขายอาหารสัตว์ในตลาดเปิดใหม่ ริมถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ซึ่งเป็นชายหุ่นปุ้มปุ้ย จึงมีปัญหาข้อเข่า ไปปรึกษาหมอที่ไหน ก็บอกให้ลดน้ำหนัก

เสี่ยปุ้ย ก็พยายามเต็มที่ ทั้งกินยา อดอาหาร แต่ผ่านไป 1 เดือน ลดได้แค่ 3 กิโล ก็เริ่มท้อ แต่ยังปวดเข่า

จึงคิดพึ่งทางพระที่ตัวเองชอบ พออ่านเจอว่า มีพระเกจิฯรุ่นใหม่วัยหนุ่ม กำลังฮอต สร้างพระเครื่องของขลังได้รับความนิยมสูงว่า มีดีครบเครื่อง ทั้งแก้ไข ป้องกัน บันดาล ขอได้ตามใจนึก

วันรุ่งขึ้น เสี่ยปุ้ย จึงไปยืนเด่นอยู่หน้าตู้พระเครื่อง บนกุฏิพระเกจิฯเป็นคนแรก เจ้าหน้าที่ก็สอบถามว่า มาเช่าพระอะไร เสี่ยปุ้ย บอกว่า พระอะไรก็ได้ ที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ซัก 30 กิโล

เจ้าหน้าที่มองทรง เสี่ยปุ้ย ซึ่งหนักร่วมๆ 200 กิโล แล้วส่ายหน้า บอกว่า เรื่องนี้น่าจะยากส์ ตั้ง 30 โลไม่ใช่น้อยๆ--เพราะพระอาจารย์เองก็พยายามลดอยู่หวังให้ลงสัก 20 กิโลเอง แต่เกือบปี ยังไม่สำเร็จเลย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม