พระพิมพ์สมเด็จ ผงอัฐิ (หลวงพ่อกลั่น) พ.ศ.๒๔๙๗ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของปิติ ภิรมย์ภักดี.
วันนี้มีรายการโม้มาก สัมปทานเหลือน้อยก็ขอเริ่มเลย องค์แรกวันนี้ คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ พิมพ์อกครุฑใหญ่ ซึ่งเป็นพระพิมพ์หายาก เมื่อมีความงามสมบูรณ์ระดับพรีเมียมด้วยแล้ว พอ เสี่ยติ๊ก สายใต้ บอกว่า ได้มา 12 ล้าน คนฟังก็เลยไม่ค่อยสะดุ้ง
เพราะเป็น “องค์ครู” ที่ใช้เรียนรู้การดูพระแท้ เป็นได้ง่ายสุดๆ ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ผิวพรรณ วรรณะ สภาพคราบกรุเดิมๆ จะดูหน้า-หลัง-ข้างขอบซ้ายขวา ก็ชัดเจนแบบขึ้นจากกรุมายังไง ก็ยังคงอยู่อย่างนั้น ไม่มีแต่งเติมเสริมให้เสียคุณค่า
...
จัดเป็นพระอนุรักษ์ที่หาพบยาก และเป็นพระราคาแพงมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้รู้บอกยังมีราคาอนาคตที่ไปต่อได้อีก-- ใครมีเงินเหลือใช้ ฝากแบงก์ไปก็ได้ดอกน้อยนิด ก็น่านิมนต์ไว้ก่อน เพราะเชื่อได้ว่าอีกไม่กี่ปีจะไม่ใช่ราคานี้แล้วอ่ะ
องค์ที่สองเป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง
ขอตอบ คำถามสนามพระ ซะเลย เรื่อง พิมพ์พระสมเด็จ ในเครือวัดของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งจัดลำดับดังนี้
พระสมเด็จวัดระฆังฯ สร้างออกที่วัดระฆังฯ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๙ มี ๔ พิมพ์มาตรฐาน คือ ๑.พิมพ์ใหญ่ ๒.พิมพ์เจดีย์ ๓.พิมพ์เกศบัวตูม ๔.พิมพ์ฐานแซม
พระสมเด็จบางขุนพรหม สร้างบรรจุองค์พระเจดีย์วัดใหม่อมตรส ราวปี พ.ศ.๒๔๑๓ มี ๘ พิมพ์มาตรฐาน คือ ๑.พิมพ์ใหญ่ ๒.พิมพ์เจดีย์ ๓.พิมพ์เกศบัวตูม ๔.พิมพ์เส้นด้าย ๕.พิมพ์สังฆาฏิ ๖.พิมพ์อกครุฑ ๗.พิมพ์ฐานแซม ๘.พิมพ์ฐานคู่
พระสมเด็จเกศไชโย สร้างจากวัดระฆังฯ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๗-๐๙ นำมาบรรจุในองค์พระหลวงพ่อโต กลางลานวัดไชโย แตกกรุครั้งแรกราวปี พ.ศ.๒๔๓๐ มีพิมพ์พระมาตรฐาน คือ ๑.พิมพ์ใหญ่นิยม ๗ ชั้น A ๒.พิมพ์นิยม ๖ ชั้นอกตัน ๓.พิมพ์นิยม ๖ ชั้นอกตลอด
องค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ เป็น พิมพ์นิยม ๖ ชั้นอกตัน สภาพสมบูรณ์ สวยเดิม แท้ดูง่าย ทั้งพิมพ์พระ เนื้อมวลสาร--เป็นพระพิมพ์รองที่หากันมาก เพราะราคาที่เบาสุดในสกุลพระสมเด็จ ที่หลักล้านต้นๆ หมดทั้งบางแล้ว
ต่อด้วย พระพิมพ์สมเด็จ ๓ ชั้นผสมผงอัฐิ (หลวงพ่อกลั่น) พ.ศ.๒๔๙๗ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็น พระพิมพ์ยุคแรก ที่หลวงปู่สร้างมอบผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม โดยใช้พิมพ์พระยอดนิยม อาทิ พระสมเด็จ พระขุนแผน เป็น ต้นแบบ
สร้างด้วย ผงพุทธคุณ ผสมผงอัฐิหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌายาจารย์ของท่าน
ในอดีตน้อยคนจะรู้ลึกถึงคุณค่า เพราะเป็น พระสร้างแจก ฝีมือก็แบบชาวบ้าน พิมพ์องค์พระจึงขาดความงดงาม มีผู้รู้เลือกหาสะสมอยู่บ้าง ก็เฉพาะองค์ที่มีความคมชัดสวยๆ และรู้ลึกถึงคุณค่าในผงอัฐิธาตุของหลวงพ่อกลั่น
และที่วิเศษสุดคือ รอบองค์พระมีรอยลายมือจารดินสอ ที่ หลวงปู่ดู่ ตั้งจิตอธิษฐานกำหนดเดินเส้นครบองค์อาการ ๓๒ อย่างองค์นี้ของ สิงห์ต๊อด–ปิติ ภิรมย์ภักดี ที่มีความงามสมบูรณ์เป็นที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ที่รู้คุณค่าแสวงหากันมาก ทำให้เกิดกระแสนิยมมาแรงใกล้ๆรุ่นดัง พระเหนือพรหม ของหลวงปู่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทีเดียว
...
ตามมาด้วย พระกริ่งทักษิณ ชินวโร เนื้อโลหะผสมเปียกทอง พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง พระเกจิฯผู้ได้รับการยกย่องเป็นพระผู้มีวิชาอาคมสายเขาอ้อ ที่เข้มขลังสุดๆ
ท่านสร้างพระกริ่งนี้โดยจำลองแบบองค์พระพุทธรูปพุทธศิลป์สมัยศรีวิชัยของ เสด็จพระองค์ชายใหญ่ (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล) ประธานจัดสร้างฝ่ายฆราวาส มอบหน้าที่ให้คนสนิทที่วงการพระเรียกว่า พี่ประกอบ (ประกอบ กำเนิดพลอย พ่อของ พี่หนุ่มกรรชัย แห่ง โหนกระแส) ดำเนินการสร้าง
ลักษณะเป็น พระกริ่ง เทหล่อลอยองค์ จัดสร้างด้วย เนื้อโลหะผสม เนื้อพระพุทธรูปบูชาเก่า โลหะบ้านเชียง ทองคำ ๑ กก. เงิน ๒ กก. ได้องค์พระราว ๑๐๐ องค์ ในบรรดานั้นมี เนื้อพิเศษ เปียกทอง
...
แล้วประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดดอนศาลา เมื่อวันอังคาร ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ โดย พระอาจารย์นำ เป็นประธาน พร้อมอาราธนา พระเกจิฯ สายเขาอ้อ ผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคของเมืองใต้ขณะนั้นเข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตก พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พระอาจารย์ชู วัดมุมป้อม
ปัจจุบันจัดเป็นพระกริ่งที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูงสุดของเมืองใต้ โดยเฉพาะ เนื้อพิเศษเปียกทอง แบบองค์นี้ ของ เสี่ยสมพล หิรัญวัฒน์สิริ ที่มีบันทึกการสร้างว่ามี เพียง ๒ องค์ในโลก
ตามมาด้วยภาพถ่ายอมตะ พระเกจิฯที่มีราคาสูงสุด หายากสุดๆ คือ รูปถ่ายพระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท นั่งเก้าอี้หวาย
...
โดยเฉพาะภาพที่งามสมบูรณ์ คมจัดชัดแจ่ม กระจกไร้ริ้วรอยแตกร้าว เลี่ยมเงินเก่าถึงอายุ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี ที่มีภาพปรากฏเป็นองค์ดารา ในตำราพระหลวงปู่ศุขมาแต่อดีตราคาสูงถึงหลักล้านมานานมากแล้ว ขอบอก
อีกรายการขอเสนอ พระพิมพ์นาคปรก สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดท้ายตลาด กรุงเทพฯ
องค์นี้ค้นภาพจากแฟ้มของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง ตามคำขอแฟนคลับ ที่เชื่อเรื่องโหราพยากรณ์ว่าเดือนมีนา พระราหู มฤตยู จะเคลื่อนย้ายใหญ่ และจะมีผลกระทบใหญ่กับดวงกำเนิดทั้ง ๑๒ ราศี จึงแนะนำให้หา พระปางนาคปรก ใช้บูชา
จะใช้พระสร้างใหม่หลายคนก็ไม่มั่นใจ จึงขอคำแนะนำถึง พระนาคปรก ที่เป็น พระกรุ พระเก่า ที่มั่นใจได้ในอานุภาพุทธคุณที่สำคัญราคาต้องจ่ายไหว
จึงจัด พระนาคปรก กรุวัดท้ายตลาด ที่มีอายุการสร้างกว่าศตวรรษ ทรงค่าด้วยพุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ (ช่างหลวง) ที่จัดสร้าง โดยพระราชาคณะชั้นสมเด็จ ได้รับความนิยม และราคายังอยู่ที่หลักหมื่นต้นๆ เพราะพระมีจำนวนมากพอหาได้ แต่ก็เริ่มจะหายากขึ้นทุกวัน
อีกรายการ เป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๕๓ เนื้อนวโลหะ เต็มสูตรแก่เงิน พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเหรียญพระเกจิฯยุคปัจจุบัน ที่กล่าวกันว่าสายตรงเหรียญ ต้องมี
เพราะมั่นใจได้ว่าเป็นเหรียญดีมีอนาคต ที่นักนิยมพระยุคนี้ถามหามากที่สุด ด้วยชื่อเสียงเกียรติคุณของ พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ได้ชื่อเป็น พระแท้แห่งลุ่มน้ำอัมพวา ที่มีดีทั้งบู๊ คือวิชาอาคมที่ได้รับถ่ายทอดเป็นศิษย์สายตรงของ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เจ้าตำรับ ยันต์ตะกร้อ ที่เลื่องลือด้านคุ้มครองป้องกันภัย--และยังได้วิชาพุทธาคมสายเมืองสมุทรสงคราม ตำรับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จาก หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ
ด้านบุ๋นก็ขึ้นชื่อในความมุ่งมั่น เห็นได้จากด้านปริยัติ ธรรม เรียนสำเร็จเป็นพระมหาตั้งแต่อายุยังน้อย รับตำแหน่งเจ้าอาวาสปกครองวัดจนเจริญมั่นคง
พระเครื่องของขลังที่ท่านสร้างออกตามตำรับวิชาที่รับสืบทอดมา ปรากฏอานุภาพเลื่องลือ ทั้งด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย เมตตามหานิยม มหาโชค มหา ลาภ
โดยเฉพาะ เหรียญรุ่นแรก ที่มีคนหากันมากสุด ออกแบบและสร้างบล็อกแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ มือ ๑ สร้างเหรียญ โดยมอบหน้าที่ให้ เสี่ยประเสริฐ กาญจนพิมลกุล ประสานงานจัดสร้าง
เป็น เหรียญปั๊มทรงกลม รูปไข่ หูในตัว ด้านหน้าเป็นรูปจำลององค์ท่านห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นรูปยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าตำรับวัดสะแกเต็มรูปล้อมด้วยอักขระพระคาถาเต็มสูตร
เนื้อเหรียญมี ทองคำ เงิน พิงค์ โกลด์ และเนื้อนวโลหะเต็มสูตรแก่เงิน แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยต่าย เชียงแสน ศิษย์สายตรง เป็นเนื้อเหรียญ สร้างพิเศษ เพียง ๙๙๙ เหรียญ สำหรับมอบศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ ผู้อุปถัมภ์ วัด
ตอนนี้หากันมาก และยังมีให้พบเห็นในราคาที่แพงขึ้นเรื่อยๆที่หลักหมื่น และถึงหลักแสน ตามสภาพเหรียญที่งามสมบูรณ์มีลายมือจารอักขระรอบองค์ท่านเต็มๆ
ต่อไป ขอแนะนำรายการดีๆของ ค่ายอนุรักษ์ ซึ่ง สีกาอ่าง ก่อตั้งมาเป็นปีที่ ๙ เริ่มจาก แมกกาซีนอนุรักษ์ ที่นอกจากมีเรื่องราวการอนุรักษ์ทั้งสิ่งแวดล้อม ศิลปะ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ภูมิปัญญา ฯลฯ ยังมีเรื่อง พระเครื่องของขลัง ซึ่งเป็น ของมีคุณค่าควรอนุรักษ์ ด้วย--จนมาถึง ยุคดิจิทัล จึงปรับจากหนังสือมาเป็น สารคดีออนไลน์ เมื่อ ๒ ปีก่อน
ซึ่งมีแฟนคลับติดตามสม่ำเสมอ ทำให้ อนุรักษ์ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน สื่อสร้างสรรค์ ของ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้จัดทำ ซีรีส์สารคดีสั้น ๑๐ ตอน ชื่อ “พุทธธรรม พุทธศิลป์ พุทธคุณ ค้ำจุนโลก” เพื่อชี้ให้เห็นว่า วัตถุมงคล เป็นเครื่องมือ เป็นกุศโลบาย ที่สามารถใช้ชี้นำชาวโลกไปสู่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้คิดดี ทำดี--ซึ่งถ้าทุกคนตระหนักเช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ค้ำจุนโลก
พอปล่อยสารคดีชุดนี้ออกมา ข้าพเจ้าก็ปลื้มปีติมาก เพราะทุกตอนที่อาราธนา พระเครื่อง เป็นสื่อ นำไปสู่เรื่องราวดีๆ มีทั้งเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ กำเนิดพระเครื่อง ได้รับความสนใจมากขึ้นๆ จนยอดวิวหลายหมื่น--ใครไม่ดูก็คงเชยนิดๆ
เพราะแขกรับเชิญมีคุณวุฒิแบบหาตัวจับยากทุกท่าน ทุกรูป ต่างเต็มที่กับแนวคิด พุทธธรรม พุทธศิลป์ พุทธคุณ ค้ำจุนโลก
อย่าง ท่านอนิลมาน หลวงพ่อพระพยอม อ.ธงทอง จันทรางศุ อ.ภูธร ภูมะธน อ.ราม วัชรประดิษฐ์ ดร.ณัฐธัญ มณีรัตน์ และเซียนพระหลายๆรุ่น เช่น เสี่ยป๋อง สุพรรณ เสี่ยบอย ท่าพระจันทร์ เสี่ยโทน บางแค เสี่ยเอ็ม หัตถ์เทพ--สายศิลปิน นักคิด มีระดับ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ซึ่งมีปลัดขิกเยอะมาก วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล อุ๋ย บุดดา เบลส
และที่ยอมออกสื่อครั้งแรกคือ สีกาอ่าง ซึ่งกว่าผู้กำกับจะบอกว่าพอไหว พอเถอะ ก็เงอะงะถ่ายหลายเทกทีเดียว--เพราะความที่ถนัดเขียนมากกว่าโม้
จึงขอแนะนำให้ท่านผู้ชมลองดูตอนที่ 3 เบญจภาคี ในวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. เวลา 2 ทุ่ม
หรือดูย้อนหลังตั้งแต่ตอน 1 ได้ที่ยูทูบ หรือเฟซบุ๊ก โดยพิมพ์คำว่า นิตยสารอนุรักษ์ หรือเข้าเว็บ www.anurakmag.com ก็ได้
มาถึงเรื่องปิดท้าย ในงานพิธีเปิดกิจการร้านคอฟฟีเบเกอรี แห่งใหม่ย่านพุทธมณฑล ที่มีผู้ไปยินดีกันมาก หลังจากเจิมป้าย ตัดริบบิ้นเรียบร้อย เจ้าภาพก็จัดแข่งขันกินเค้ก เป็นกิจกรรมสนุกๆ
ก็มีผู้ร่วมแข่งขัน ๓ คน ที่ผ่านถึงรอบสุดท้าย คนแรก เป็นหนุ่มใหญ่ตัวกลมลงพุง มีดีกรีเป็นแชมป์กินจุหลายงาน คนที่สอง เป็นหญิงรุ่นใหญ่ร่างท้วม ที่บอกว่าอดอาหารมาหลายมื้อ จึงพร้อมสำหรับแข่งกินจุครั้งนี้
รายสุดท้าย เป็นเด็กชายวัยประถม ตัวผอมๆ ที่ดูไม่มีแววจะกินจุ แต่พูดให้คู่แข่งสะท้านว่า ผมไม่เคยแข่งกินจุที่ไหน และไม่ได้เตรียมตัวอดอาหารมาแข่ง แต่มั่นใจว่าชนะแน่ เพราะได้ของขลังจากพ่อ ที่เป็นเซียนพระ--ว่าแล้วก็จับองค์พระในคอขึ้นโชว์คู่แข่ง คือ พระสังกัจจายน์ องค์อ้วนตุ้ย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง