พระปิดตา เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ของ เอกชัย วิสาหะพานิช.
บอกลาเดือนตุลากันด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ พระสภาพสมบูรณ์พองามเดิมๆ ฟอร์มดี พิมพ์พระถูกต้องชัดเจน
เด่นสุดที่ เส้นสังฆาฏิ ที่เห็นเป็นเส้นคู่ขนาน วิ่งพาดพระอังสาซ้ายยาวลงมาถึงพระนาภี ลอดใต้พระกร ยาวววว ทะลุถึงพระหนุ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพิมพ์
แม้มีเส้นศิลป์ปลายเส้นฐานแซมบางส่วนลบเลือน แต่ก็พิจารณาได้ว่าเป็นแต่เดิมจากในพิมพ์ ไม่ใช่รอยชำรุดจากการใช้บูชา และก็มีเพียงเล็กน้อย
เนื้อพระแก่ปูนตามสูตร “พระกรุใหม่” ที่แม้ไม่มีรอยประทับ ตรายางด้านหลัง ก็บอกได้ด้วย ลักษณะเนื้อ ที่มีคราบกรุ เป็นหินปูนสนิมเหล็ก ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาของเนื้อพระ ที่แช่น้ำที่ท่วมถึงกรุ พระจึงทำสปาแช่น้ำอยู่นาน และบอกได้ด้วยว่า เป็นพระที่ถูกขโมยกรุระยะหลัง จนทางวัดต้องทำพิธีเปิดกรุเป็นทางการ
...
ปัจจุบัน จะหาองค์สภาพสมบูรณ์งามพร้อมเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอึ๊ง ก็อก เส็ง นักนิยมพระชาวมาเลเซีย ที่มีชื่อติดทำเนียบ นักนิยมพระหลักยอดนิยม ชั้นดีมีคุณภาพแถวหน้าๆ
องค์ที่สองเป็น พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผา พิมพ์ยืน ปางลีลา พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย ฝีมือช่างเมืองกำแพงเพชร ที่ค้นพบได้จากกรุพระในวัด ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตลานทุ่งเศรษฐี
มีชื่อเสียงเป็นพระกรุ พระเก่าสร้างชื่อ “พระลีลาทุ่งเศรษฐี” ให้แพร่หลาย มาก่อน พระกำแพงซุ้มกอ ด้วยพิมพ์พระและรูปทรง ที่แตกต่าง โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ด้านบันดาลโชคลาภ ความเจริญก้าวหน้า
เป็นพระอินเทรนด์แห่งยุค ครั้งประเทศไทยยังใช้ชื่อ ประเทศสยาม เพราะชายชาตรี นิยมนำพระกำแพงลีลา มาเลี่ยมติดสร้อยคล้องเดี่ยวในคอ เปิดอกเสื้อโชว์เด่นเป็น กลางอก สร้างเสน่ห์เสริมราศีบารมีให้ผู้พบเห็นเคารพศรัทธา
จนมีการจัดพระเครื่องเข้าเป็น ชุดเบญจภาคี ความนิยมในการ คล้องพระองค์เดียว เริ่มเปลี่ยนเป็น คล้องพระ ๕ องค์ ซึ่งทำให้ พระกำแพงซุ้มกอ ได้รับคัดเลือกให้เป็น ๑ ใน ๕ ด้วยรูปทรงที่กลมกลืนกับพระอื่น ทำให้ความนิยม พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน ซบเซาลง แต่คุณค่าราคายังคงเดิม -- องค์สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ ยังอยู่ที่หลักล้าน มากน้อยตามสภาพ
องค์ที่สาม เป็น พระปิดตา เนื้อชินตะกั่ว หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งย้อนเวลาไปราว ๑๐-๒๐ ปี เป็น ของดีราคาถูก ๑ เดียวในสกุล พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว มีจำนวนพระให้หาได้ไม่ยาก จึงมีภาพมาลงในสนามเราเสมอ
ขณะ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ทุกพิมพ์ ในสกุลราคาขึ้นสูงถึงหลักล้าน แต่ พระปิดตาเนื้อตะกั่ว นี้ ยังมีราคาย่ำอยู่ ที่ หลักแสนต้น เพราะยังไม่มั่นใจว่า พระเนื้อตะกั่ว จะมีอานุภาพเทียบ เนื้อผงคลุกรัก
ต่อเมื่อเวลาผ่านพ้น มีผู้นำพระไปใช้ มีประสบการณ์ด้านโชคลาภเด่นชัดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะชาวเลหลายรายพลิกชีวิตจากชาวเลเรือเล็กมาเป็นอาเสี่ยเจ้าของเรือตังเกลำใหญ่ ของเมืองชล ซึ่งต่างเชื่อว่าที่ได้ดีมีฐานะ ก็เพราะได้ใช้บูชา พระปิดตาเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
แบบองค์นี้ ของ เสี่ยเอกชัย วิสาหะพานิช ที่เป็น พระแท้ดูง่าย พิมพ์พระลึกชัด เนื้อตะกั่วสีเข้ม มีคราบไข บอกอายุความเก่าถึงยุคอย่างเป็นธรรมชาติ--ดีแน่แท้ชัวร์ แบบนี้ปัจจุบันหายากแล้ว ราคาก็วิ่ง ทะลุหลักล้าน ไปฉิว
...
มีอีกสำนักพระปิดตาดัง คือ พระปิดตา พิมพ์นะหัวเข่า (สองหน้า) เนื้อชินตะกั่ว พระภาวนาโกศลเถระ (หลวงปู่เอี่ยม) วัดหนังฯ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พิมพ์นิยมมาตรฐาน สร้างชื่อ “พระปิดตาวัดหนัง” ให้เป็น พระปิดตายอดนิยม ด้วยประสบการณ์โชกโชนด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ขนาดใบพัดเรือหางยาว ฟันแขนเด็กจนตกน้ำจังๆ ยังไม่ได้แผลไม่มีเลือดสักหยด ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ซึ่งหาพระเก่งมาก จึงมีพระดีทีเด็ดมาให้ดูกันเสมอ
เป็น พระพิมพ์สองหน้า ที่ไม่ธรรมดา หาพบเห็นยากกว่าพิมพ์หน้าเดียว สภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบนี้ ราคาก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่จะโหดหรือใจดี ไปว่ากันเอง
อีกรายการเป็น พระพิมพ์ ทรงปลาจีน หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา อยุธยา พระแชมป์องค์จริงของพิมพ์ ที่มีภาพเป็นองค์ซุปตาร์ในตำราพระเล่มมาตรฐานทุกเล่มมานาน
...
เพราะจากอดีตถึงปัจจุบันยังหาองค์เทียบชั้นไม่เจอ เจ้าของพระ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี จึงส่งภาพมาโชว์ด้วยความภาคภูมิ เพราะเพิ่งซื้อมา ๒ ล้าน และส่งภาพให้ชมเฉยๆ ยังไม่อยากย้ายกุฏิ
เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างรัศมีฐานบัว เนื้อชินตะกั่ว หลังจาร หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พิมพ์นิยมมาตรฐาน แถวหน้าในสกุล ด้วยเป็นพิมพ์เดียวกับชนิดเนื้อทองแดง ที่มีราคาสูงถึงหลักล้าน แต่แม้จะเป็นเนื้อตะกั่วที่ในอดีตเล่นหากันเป็นพระดีราคาถูก--แต่นาทีนี้ สภาพสมบูรณ์เยี่ยมรอยจาร เจ๋งๆ แบบองค์นี้ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี อยากได้ก็ต้องจ่ายกว่าครึ่งล้านแล้วล่ะ ขอบอก
...
ตามมาด้วย เหรียญเสมารุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๗ เนื้อทองแดง รมดำ หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง พระเกจิฯผู้มีชื่อเสียงสูงสุด ด้านวิชาพุทธาคมที่เข้มขลังของเมืองเหนือ ยุคหลังปีกึ่งพุทธกาล ก่อนถึงยุคหลวงพ่อเกษม เขมโก
ท่านสร้างพระเครื่องของขลังไว้ ทุกรุ่นล้วนมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมเบอร์ต้นๆมาตลอดจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ เหรียญปั๊มทรงเสมารุ่นแรก อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยสุรพล คำป่าแลว ที่เป็นเหรียญพระเกจิฯ ๑ ในดวงใจชาวเมืองรถม้า ไม่เปลี่ยนแปลง
สุดท้ายเป็น ตะกรุด ลูกอมโลกธาตุ เนื้อทองคำ พระราชมงคลวุฒาจารย์ (หลวงปู่ใจ อินทสุวัณ โณ) วัดเสด็จ ต.เมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทร สงคราม ของ เสี่ยสุธีร์ นาคทอง พระอมตะ เกจิฯ แห่งลุ่มน้ำอัมพวา ผู้สืบทอดวิชาตะกรุด ลูกอมหัวใจโลกธาตุ ของหลวงพ่อยิ้ม (พ่อเฒ่ายิ้ม) วัดหนองบัว กาญจนบุรี ต้นตำรับวิชา สร้าง ตะกรุดหัวใจโลกธาตุ
ที่มีเคล็ดวิชากำหนดว่า ต้องสร้างด้วยโลหะทรงค่าทรงคุณ อย่างทองคำ นาค เงิน หรือทองแดง ที่ผ่านพิธี นน.๑ สลึง ตีแผ่เป็นแผ่นกว้าง เท่าความสูง ๑ ใบมะขาม ความยาวเท่า ๗ ใบมะขามเรียง (สัตตะโพชฌงค์ ๗)
ลงอักขระ หัวใจพระคาถา โลกธาตุ ว่า “อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเทวนัง นาทยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ” กลึงหัวท้ายด้วยรูปยันต์ใบพัด ม้วนแน่น อย่างลานนาฬิกา อย่างพิถีพิถัน ขอบเสมอกันทุกรอบ สอดร้อยด้วยไหม ๕ สี ถักลายประณีตทางเดียวกัน--โดยภาวนาพระคาถาเสกกำกับตลอดจนถึงสำเร็จ
จึงเป็นที่เลื่องลือว่ามีอานุภาพคุ้มครอง ป้องกัน ให้แคล้ว คลาดภัยได้ฉมัง เวลาเข้าที่คับขันจวนตัว อธิษฐานกลืนลงท้อง เป็นกำบังกายล่องหนหายตัวได้อย่างอัศจรรย์ แล้วตะกรุดจะปรากฏคืนกลับมาอยู่หัวนอนในวันรุ่งขึ้น ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ แต่มีคนยืนยันเป็นเรื่องจริงกันมาก เราก็ไม่ควรแย้งหรือลบหลู่
ท่านกำเนิดเมื่อ ปี ๒๔๐๕ ที่บ้าน ต.บางกุ้ง อ.บางคนที สมุทรสงคราม จากนั้นพ่อแม่พาไปอยู่อัมพวา ภูมิลำเนาเดิมของบิดา และบวชเมื่ออายุ ๒๑ ณ วัดเกาะเทพศักดิ์ มีพระอาจารย์จุ้ย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายา “อินทสุวัณโณ”
อยู่เรียนพระธรรมวินัย วิปัสสนากรรมฐาน กับพระอุปัชฌาย์ สำเร็จก็มีความสนใจวิชาอาคม จึงไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี ที่มีชื่อเสียงด้านวิชาอาคมเข้มขลังสูงสุดแห่งยุค
เล่าว่า ก่อนรับเป็นศิษย์ “พ่อเฒ่ายิ้ม” ได้ทดสอบพลังสมาธิจิต โดยให้ท่านนั่งเพ่งเทียน ให้ไส้ขาดใน ๗ วัน ท่านนั่งเพ่งสมาธิภาวนาส่งกระแสจิต ตัดไส้เทียนอยู่ ๗ วัน ยังไม่สำเร็จ วันที่ ๘ เป็นวันสุดท้าย ท่านตัดสินใจว่า ถ้ายังทำไม่ได้จะไปกราบลาพระอาจารย์ กลับวัดเลิกเรียนวิชาอาคมตลอดชีวิต
ปรากฏว่า ทำสำเร็จ พอนำต้นเทียนให้ หลวงปู่ยิ้ม พิจารณา ท่านดูแล้ว กล่าวชมว่า ท่านทำได้ดีกว่าอาตมา ฉันเองต้องใช้เวลานั่งเพ่งเทียนอยู่ถึง ๑๕ วัน จึงสำเร็จ
แล้วก็รับเป็นศิษย์ สอนวิชาทั้งไสยเวท พุทธเวทสร้างพระเครื่องรางของขลัง ลงคาถาทำตะกรุดมหาปราบ (ปราบทาสามหาระงับ) และสุดยอดวิชา “ตะกรุดโลกธาตุ”
ท่านตั้งใจเรียนสำเร็จทุกวิชา อย่างแตกฉาน จน พ.ศ.๒๔๓๔ พระอุปัชฌาย์เห็นถึงความรู้ความสามารถ จึงมอบหมายให้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาส ดูแลพัฒนา วัดใหม่ยายอิ่ม วัดสร้างใหม่ ท่านก็ทุ่มเทพัฒนาสร้างวัด จนเจริญรุ่งเรืองมั่นคง เป็นวัดใหญ่ มีชื่อเสียงเป็นวัดสำคัญหนึ่งของเมืองสมุทรสงคราม
ครั้ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช เสด็จตรวจการคณะสงฆ์ ตามหัวเมืองใหญ่ มาถึงวัดนี้ ทรงชื่นชมในความสามารถ เจ้าอาวาส จึงเปลี่ยนนามวัดให้ เป็น “วัดเสด็จ” และมีพระเมตตาต่อ หลวงปู่ใจ อย่างสูง เห็นได้จากที่ประทานทุนจ้างช่างหลวงมาออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถหลัง ใหม่ โดยมีพระบรมวงศา นุวงศ์บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างด้วย
หลวงปู่ใจ ท่านมีความมุมานะ มั่นคงในพระพุทธศาสนามุ่งมั่นพัฒนาวัด มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง เป็นที่เลื่องลือ สร้างศรัทธาชื่อเสียงให้ท่านเป็นพระเกจิฯ แถวหน้าของเมืองแม่กลอง มาถึงปัจจุบัน และ พ.ศ.๒๕๐๔ ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชมงคลวุฒาจารย์ และมรณภาพเมื่อ มิ.ย. พ.ศ.๒๕๐๕ สิริอายุ ๑๐๐ ปีพรรษา ๗๘
ตลอดอายุท่านครองสมณเพศอยู่อย่างเคร่งครัดพระธรรมวินัย ปกครองวัดด้วยเมตตาธรรม สร้างพระเครื่องวัตถุมงคล ไว้ล้วนมีชื่อเสียง อาทิ เหรียญรูปเหมือน เหรียญพระประจำวัน พระนาคปรกเนื้อเมฆพัตร ตะกรุดปราบทาสามหาระงับ
และ ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ ที่มีสร้างไว้ทั้ง ทองคำ นาค เงิน เป็นเครื่องรางของขลัง ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะ เนื้อทองคำ สภาพงามสมบูรณ์เยี่ยม มีไหม ๕ สี สอดร้อยสภาพเดิมๆ แบบลูกนี้ ของ เสี่ยสุธีร์ นาคทอง ซึ่งราคาอยู่ที่ หลักแสนปลายใกล้หลักล้าน แล้ว
ลาเดือนตุลากันแบบฮาเฮด้วย เรื่องปิดท้าย ของ ด.ช.สุเทพ ลูกชายเซียนพระ อายุ ๑๐ ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถม โรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง คุยอวดเพื่อนว่า พ่อเป็นเซียนพระใหญ่ มีพระดีๆเยอะไปหมด พระดังๆมีทุกชนิด เพราะพ่อเปิดแผงในตลาดย่าน ต.ศาลายา จ.นครปฐม
วันหนึ่งได้ครูประจำชั้นคนใหม่มาแนะนำตัว และให้ลูกศิษย์เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ทุกคนก็เล่าอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนจนมาถึง ด.ช.สุเทพ ลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ เล่าเรื่องครอบครัวว่า พ่อผมเป็นเซียนพระใหญ่ มีพระเยอะ พระดี พระดัง แค่ไหน พ่อมีหมด
ครูฟังถึงตรงนี้ ก็ถามว่า แล้วพ่อหนู มี พระสมเด็จวัดระฆัง ป่าว ด.ช.สุเทพ ทำท่าคิดแล้ว ตอบอย่างมั่นใจว่า ไม่น่ามีครับ เพราะถ้าพ่อผมมี ผมคงไม่ต้องมาเรียนโรงเรียนวัดแบบนี้หรอกคับ--นั่นสิครูก็ถามไม่คิดเล้ย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง