พระรอด พิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน ของเสี่ยเบิ้ม นครพิงค์อาร์ต.
หลังตื่นมาลุ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อเหมือนทุกวันว่าเพิ่มหรือลด ถ้าเพิ่มก็นินทารัฐบาลกระหน่ำ ถ้าลดก็โล่งใจ แล้วชาวเราก็เข้าสนามพระ
องค์แรกเป็น พระรอด พิมพ์ใหญ่ กรุวัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน พระพิมพ์เนื้อดินเผา ๑ ใน ๕ พระเครื่องชุดเบญจภาคี ด้วย ๓ เหตุผล คือ ๑.เป็นตัวแทนพระพิมพ์พุทธศิลป์ สมัยหริภุญไชย ที่มีอายุสมัยสูงสุดกว่า ๑,๐๐๐ ปี ๒.เป็นพระที่มีประวัติการสร้างชัดเจน ๓.มีพุทธานุภาพ คุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัยสูง
ค้นพบครั้งแรกจากองค์พระเจดีย์ที่พังทลาย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๕ นับหมื่นองค์ พระจึงปะปนไปกับการขนย้ายซากเจดีย์ กระจัดกระจายไปทั่ววัด เพราะขนไปถมที่ ต่อมาจึงพบพระรอดอีกหลายครั้ง แต่ไม่มาก
และในปี พ.ศ.๒๔๕๑ สมัย เจ้าหลวงอินทยงยศ เป็นเจ้าเมืองลำพูน ฐานพระเจดีย์องค์เดิมชำรุดตอนบูรณะ จึงนำพระรอดจำนวนมากออกมาแจกจ่าย และเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ พบใต้ถุนกุฏิหน้าวัด ประมาณ ๓๐๐ องค์ และครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๐๖ พบตอนบูรณะรื้อพื้นพระอุโบสถอีก ๓๐๐ องค์
องค์นี้ ของ เสี่ยเบิ้ม นครพิงค์อาร์ต เป็นพระรอด พิมพ์ใหญ่ ที่นิยมสูงสุด ราคาองค์พระสวยสมบูรณ์สภาพเดิมๆ แบบนี้ หลักล้านกลางๆมานานแล้ว
และขอตอบ “คำถามสนามพระ” เรื่องเจดีย์ว่า ทำไมเวลาสร้างพระต้องบรรจุพระไว้ในเจดีย์
ก็ต้องบอกว่า เพราะเจดีย์เป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา การสร้างวัตถุมงคล รูปเคารพ จึงต้องบรรจุไว้ในที่สำคัญ ที่สูงที่ศักดิ์สิทธิ์
มาตรงนี้ก็เลยต้องอธิบายกันยาวนิดว่า แล้วทำไมเจดีย์ถึงสำคัญ เจดีย์คืออะไร
ช่วง Stay Home มีเวลาว่างมากขึ้น ก็ได้ศึกษาค้นคว้าตำรา หาคำอธิบายโดยย้อนกลับไปถึงอดีตกาลนานโพ้น ซึ่งตามหลักฐาน โบราณคดี และประวัติ ทางพุทธศาสนา เชื่อว่าเจดีย์เกิดขึ้นหลังปรินิพพาน เพื่อเป็นปูชนียสถานระลึกถึงพระพุทธเจ้า--ซึ่งก็ตรง เพราะคำว่าเจดีย์ ก็มาจากคำว่า Cetiya ในภาษาบาลี หรือ Caitya ในภาษาสันสกฤต หมายถึง “สิ่งที่เป็นเครื่องระลึกถึง” อยู่แล้ว
...
เจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลย คือ สาญจีเจดีย์ ส่วนเจดีย์ยุคแรกที่ปรากฏในไทย คือ พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยที่ พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งธรรมทูตเข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ เมื่อราว พ.ศ.๓๐๐ และสร้างพระปฐมเจดีย์ไว้เพื่อยืนยันการเป็นเมืองแห่งพุทธ
และบ้างก็เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาสุวรรณภูมิ (ไทย พม่า ลาว) เพราะมีหลักฐานในประเทศพม่า ก็คือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่เชื่อว่าเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล
ส่วนรูปลักษณ์ว่าทำไมเจดีย์ต้องเป็นทรงนี้หรือคล้ายๆกันไม่ว่าชาติไหน ผู้รู้ก็กล่าวว่า เป็นจินตนาการจากการนำรูปพรรณของ ดอกบัวหลวง ดอกไม้บูชาที่ในพุทธประวัติ กล่าวว่า เกิดขึ้นรองรับพระบาทตอนประสูติ และเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ในการตรัสรู้ และทรงนำไปสักการะพระจุฬามณีบนดาวดึงส์ มากำหนดรูปลักษณ์ของสิ่งก่อสร้าง ที่เรียกว่า พระเจดีย์ ใหญ่ๆก็เรียกพระมหาเจดีย์
และเมื่อศึกษาเรื่องของเจดีย์ลึกละเอียดลงไป โดยพิจารณาศึกษาจากเจดีย์ยุคแรกๆ อย่าง พระปฐมเจดีย์ ที่เป็นทรงบาตรคว่ำหรือทรงโอคว่ำ บรรดาปราชญ์ ด้านเจดีย์ที่มีชื่อเสียง ต่างบอกว่า เกิดจากพุทธปรัชญาที่ลึกซึ้งของ พระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ทำนุ บำรุงเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก สร้างพระเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ จนได้พระนามว่า Ashoka The Stupa Builder หรืออโศกมหาราช ผู้สร้างสถูปเจดีย์ จึงบอกได้ว่า คนที่ทำอะไรยิ่งใหญ่ระดับนี้ย่อมต้องมีแรงบันดาลใจ จินตนาการที่เหนือมนุษย์แน่นอน--ก็ขอจบเรื่องเจดีย์ไว้เท่านี้ก่อน ก่อนสัมปทานจะหมด
องค์ที่สองเป็น พระกริ่งวันรัต สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ กทม. สร้างครั้งได้รับฐานาที่ สมเด็จพระวันรัต ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๗๓-๗๖
เนื้อพระเป็นนวโลหะ ภายในสีนากกลับขาวแล้วกลับดำ เทหล่อแบบกริ่งในตัว องค์นี้ ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง พิจารณาได้ว่าตกแต่งสวยงามเป็นพิเศษ ด้วยฝีมือ อาจารย์หนู-นิรันดร์ แดงวิจิตร อดีตพระลูกศิษย์ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่งภายหลังสึกออกมาและรักษาชื่อในการแต่งกริ่งฝีมือระดับครู ถ้าบอกว่า แต่งโดยอาจารย์หนู ราคาจะอัปได้ทันที เพราะเป็นตำนานการแต่งกริ่งไปแล้ว
ตามมาด้วย พระปิดตาลอยองค์ เนื้อผงคลุกรัก ก้นอุดชันโรง หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ เขตภาษีเจริญ กทม. พิมพ์พระสร้างพิเศษ พบน้อย หาชมได้ยากมาก
...
ลักษณะเป็นพระเนื้อผงคลุกรัก ปั้นลอยองค์ แกะเป็นองค์พระปิดตา ก้นเจาะอุดผงชันโรงเป็นสัญลักษณ์ เคลือบรักปิดทอง เชื่อกันว่าเป็นพระที่สร้างยุคแรกๆสมัยรับอาราธนา ร.๕ กลับจากวัดโคนอน มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนังฯ เมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๔๑
จัดสร้างพร้อมพระพิมพ์ เนื้อผงคลุกรักต่างๆ ที่มีแพร่หลาย เช่น พิมพ์ข้าวตอกแตก พิมพ์นะหัวเข่า ก่อนสร้างพระปิดตาเนื้อโลหะผสมอื่นๆ เพราะเป็นพระที่สร้างทีละองค์ จำนวนพระจึงมีให้เห็นน้อยมาก จึงเชื่อได้ว่าเป็นพระที่สร้างให้เฉพาะบุคคลสำคัญ
องค์นี้ ของ เสี่ยวิทยา ชัยคูณผล เป็นองค์ที่มีภาพในตำราพระปิดตามากมาย ต้องบอกว่า ใครได้มาครอบครองถือได้ว่ามีบารมีสูง
...
อีกองค์เป็น พระปิดตายันต์ยุ่ง พิมพ์เล็ก เนื้อเมฆพัตร หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ เขตภาษีเจริญ กทม. พระพิมพ์เล็ก ขนาดสูง ๑.๕ ซม. กว้าง ๑ ซม. เนื้อเมฆพัตร ในสกุลพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม ที่หายากมากๆ
องค์นี้ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี สภาพงามซึ้ง เพราะยังมีคราบน้ำหมากจับแน่นในซอกส่วนลึก ซึ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในอานุภาพของเจ้าของเดิม ที่ใช้บูชาด้วยการใส่ปากอม น้ำหมากที่คนโบราณนิยมเคี้ยวจึงติดตามเนื้อพระ และปัจจุบันก็กลายเป็นหลักฐานหนึ่งในการบอกอายุความเก่าถึงยุคสมัย เพราะคนสมัยนี้ไม่มีใครเคี้ยวหมากให้ปากแดงฟันดำกันแล้ว--คราบน้ำหมาก จึงทำให้พระดูมีพลังเข้มขลัง
...
มาถึงพระยอดนิยม ที่ยังพบเห็นหาเล่นหาได้ไม่ยาก พระพิมพ์ไก่หาง ๓ เส้น หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
องค์นี้เป็นองค์ที่พิมพ์พระติดชัดลึกที่สุดเท่าที่เคยเห็น จนมีความงามสมบูรณ์ หาองค์สู้ได้ยาก โดย เฉพาะ ผงอุดด้านบน ที่มีให้เห็นแบบล้นทะลักในสภาพเดิมๆ ที่น้อยองค์จะมีให้เห็น
พระจึงถูกนิมนต์ ไปอยู่กับนักธุรกิจสิงคโปร์ Mr. Ivan kek ที่สะสมพระ เครื่องไทยองค์งามๆ อย่าง องค์นี้ ทุ่มทุนนิมนต์ไปกว่าครึ่งล้าน
ตามมาด้วย พระพิมพ์หนุมาน ๒ หน้า เนื้อสัมฤทธิ์ อุดผงลงรักปิดทอง หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. พระเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงด้านวิชาพุทธาคมกึกก้อง ยุคสงครามอินโดจีน
ท่านเป็น ๑ ในพระเกจิอาจารย์ ที่ เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาอาคม ตามคำชี้นำของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ยุคสงครามอินโดจีน ท่านสร้างพระเครื่องของขลังเท่าไหร่ ก็ไม่พอให้ผู้เคารพศรัทธาที่ไปรอแน่นวัดทุกวัน เพราะศรัทธาแรงกล้า ที่เห็นได้จากญี่ปุ่นทิ้งบอมบ์เมืองกรุง แต่ก็อัศจรรย์ที่ไม่มีตกในเขตวัดแม้ลูกเดียว
สร้างวัตถุมงคล ไม่ทันแจก หลวงพ่อพริ้ง ต้องเอาเม็ดพริกไทยมาปลุกเสก แจกแทนลูกอม ที่มีคนอยากได้กันมาก เช่นเดียวกับพระเครื่องทุกชนิด ทุกเนื้อ ทุกพิมพ์ ที่สร้างเท่าไหร่ไม่เคยพอ องค์นี้ของ เสี่ยแมน รัตนา เป็นพระพิมพ์พิเศษ หายากสุดๆในสกุลพระหลวงพ่อพริ้ง ที่น้อยคนจะได้ ยิ่งเป็นองค์พิเศษ ลงรักปิดทอง มาแต่เดิมแบบนี้ มีคนสู้ราคาถึงหลักแสนกลางๆแล้ว
องค์ต่อไปเป็น เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล ข้างรัศมี พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พระพิมพ์เนื้อโลหะ เทหล่อแบบโบราณ ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิเหนือฐานสูง ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ด้านหลังเรียบ บางองค์มีลายมือจารอักขระยันต์ครู
รายละเอียดในเส้นศิลป์แตกต่าง แยกได้หลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ประภามณฑล พิมพ์ข้างอุ พิมพ์ตัดชิด พิมพ์ข้างรัศมี จัดสร้างด้วยเนื้อตะกั่ว เนื้อโลหะผสม และเนื้อทองแดง แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยวิสูตร เจริญยนต์ นักนิยมพระชั้นดี แสวงหาเฉพาะพระยอดนิยมแถวหน้า องค์งามๆอย่างองค์นี้ ที่เป็นพิมพ์นิยมสุด เนื้อนิยมสุด และเป็นองค์แชมป์ ที่มีภาพในตำราพระเครื่องมานานแล้ว
สุดท้ายเป็น ล็อกเกต ทรงไข่เล็ก พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. หลังอุดผงใบลาน ตอกโค้ด ต. และโค้ดนะ อีกหนึ่งวัตถุมงคลยอดนิยมที่ผู้มีใช้บูชาบอกว่า มีความเชื่อมั่นที่อาราธนาทุกครั้งรู้สึกสัมผัสได้ เหมือนมีหลวงปู่โต๊ะอยู่คู่ตัว
จัดสร้างไว้หลายรุ่น หลายแบบ ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะล็อกเกต รูปไข่ใหญ่-เล็ก รุ่นปี พ.ศ.๒๕๑๙ หลังอุดผงใบลาน ตอกโค้ดนะ และโค้ด ต.แบบองค์นี้ ของ ร้าน DM หลวงปู่โต๊ะ ที่เป็นรูปไข่เล็ก ตอกโค้ดครบ--สภาพสมบูรณ์เดิมๆ แบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักแสน
มาถึงเรื่องปิดท้าย ในวงสนทนาของนักธุรกิจ ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน แต่ละคนก็นิยมสะสมของมีค่า อย่าง เสี่ยโกเมน ชอบสะสมเพนติ้ง เพราะเชื่อว่าภาพวาดเป็นของมีคุณค่า ที่ศิลปินวาดด้วยอารมณ์จิตใจ ถ่ายทอดความรู้สึก สัมผัสได้ถึงความสุข และมีราคาสูงขึ้นตามวันเวลา
เสี่ยสุชล ฟังแล้วพยักหน้าเห็นด้วย แต่บอกว่า ผมชอบสะสมต้นไม้ พวกแค็กตัสบอนไซ เพราะเป็นสิ่งมีชีวิต มีความเจริญเติบโต ให้ได้ตัดแต่ง ให้ความสุขที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ราคาก็สูงขึ้นๆเหมือนกัน อย่างตอนนี้ไม้ใบด่างกำลังนิยม ซื้อต้นกล้ามาปลูก เลี้ยงดูไม่ถึงปีมีราคาเป็นแสนๆ ขนาดมีการขโมยกันเลย
ฟังเพื่อนๆคุยแล้ว เสี่ยราเชน พูดบ้างว่า ผมชอบสะสมพระเครื่อง เพราะเชื่อว่าดีกว่าของอื่นๆ เวลานั่งส่องนั่งชมก็มีความสุข ราคาก็สูงขึ้นเร็วกว่าภาพวาดและต้นไม้
และที่เพื่อนฟังแล้วต้องยอม คือ เสี่ยราเชน บอกว่า พระมีดีที่ภาพวาดกับต้นไม้ให้ไม่ได้คือ ช่วยให้ซ่อนเงินเมียได้สบายๆ และพกไปไหนได้โดยเมียไม่รู้ เพราะภาพวาด ต้นไม้ ถึงจะมีราคาสูงขึ้น ก็ต้องหาที่เก็บ เพราะซ่อนเมียยาก แต่พระสมเด็จฯองค์เดียว แค่คล้องคอ ก็ซ่อนเงินเมียเป็นสิบล้านได้แล้ว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง