พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ ของคุณตากุ๊ก.

วันนี้ แฟนคลับสนามพระสายเลขเด็ดพอจะได้มีสีสันกันมั่ง เพราะเป็น วันหวยออก ซึ่งเป็นความหวังอันสูงสุดในชีวิตของผู้คนมากมาย ที่จะถูกหวย รวยรางวัล (รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย แต่ยากจะสมหวังเพราะไม่เคยซื้อ)--ทั้งหวยบนดิน และโดยเฉพาะใต้ดิน จึงกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีรากลึกกก จนไม่มีอะไรสามารถถอนรากถอนโคนได้ ขนาดช่วงเข้าพรรษา ที่สอนให้ลดละเลิกอบายมุข แต่หวยยังขายดีเหมือนเดิมแฮะ

เริ่มกันที่ พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ซึ่งครั้งก่อนได้ดู สมเด็จวัดระฆังฯพิมพ์ใหญ่ องค์งาม แต่มีชำรุดอุดซ่อม วันนี้ ก็มีพระสมเด็จวัดระฆังฯพิมพ์ใหญ่ องค์งามเยี่ยม เคลียร์ แอนด์ คลีน ไม่มีชำรุดจุดตำหนิเติมแต่งอุดซ่อมแตกหักเลย

ถือเป็นบุญตาของแฟนคลับพระสมเด็จ ที่ได้ชมพระสมเด็จองค์งามพร้อม ระดับแชมป์ ทั้งฟอร์มองค์ พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ซึ่งเป็นพระสมเด็จระดับพรีเมียมที่เคยมีภาพปรากฏเมื่อเกือบ ๒๐ ปีก่อนนู้น--และถูกมือดีซื้อเก็บเงียบหาย แบบที่บู๊ลิ้มบอกว่า “เหยียบหิมะไร้รอย”

ถึงวันนี้มีภาพส่งมา ทำให้เพิ่งรู้ว่ามือดี ที่นิมนต์พระองค์นี้ไปจำวัดนานนับสิบปี คือ คุณตากุ๊ก

ก็ต้องถามกันแซ่ดว่า แล้ว คุณตากุ๊ก เป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน ซึ่งก็รอให้คุณตามาเล่าเองละกัน จะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ ซึ่งคิดว่าต้องมีพระยอดนิยมมากกว่าองค์นี้แน่ และเชื่อว่าท่านยินดีจะเผยแพร่ให้ทุกคนได้ดูกัน

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหม่อมตรส ของอ้วนลอยฟ้า พระคุ้มครอง.
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหม่อมตรส ของอ้วนลอยฟ้า พระคุ้มครอง.

...

ตามมาด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ที่ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโต รับเป็นประธานการจัดสร้าง เพื่อบรรจุฉลององค์พระเจดีย์ วัดใหม่อมตรส เป็นพุทธบูชาสืบอายุพระพุทธศาสนา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๕

ซึ่งเวลาต่อมามีการลักลอบนำพระออกจากกรุเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๐๐ จึงมีพิธีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ ได้พบพระสมเด็จหลักพันองค์ ที่โจรตกกรุ ยังขโมยไปไม่หมด

แยกได้เป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เจดีย์ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ฐานแซม พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ฐานคู่ รวม ๗ พิมพ์ กับพิมพ์ไสยาสน์ ซึ่งถือเป็นพิมพ์พิเศษเพราะมีลักษณะพิมพ์พระ ที่แตกต่างจากพิมพ์อื่นๆ ที่ล้วนเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิเหนือฐาน ๓ ชั้น และจำนวนพระที่พบมีน้อย แค่หลักหน่วย (บางบันทึกมีบอกว่าพบเพียง ๕ องค์)

วัดนำออกให้ทำบุญบูชา โดยปั๊มตราองค์พระเจดีย์ หมึกสีม่วง ที่ด้านหลังองค์พระ เป็นสัญลักษณ์ทุกองค์ ให้เช่าในราคาองค์ละ ๑,๐๐๐-๓,๐๐๐ ตามพิมพ์ ที่ได้รับความนิยมมากน้อย

อย่างพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์เจดีย์ ที่มีชื่อพิมพ์ฟังดูดี มีมงคลเป็นเคล็ดว่า ใหญ่ ได้ ดี ซึ่งเป็น ๓ พิมพ์ ที่ได้รับความนิยมสูง ก็จะมีราคาแพง และมีผู้ทำบุญเช่าบูชาหมดก่อนพิมพ์อื่นๆ

ถึงปัจจุบันความนิยมพระ ๓ พิมพ์นี้ ก็ยังมีสูงกว่าพระพิมพ์อื่นๆ ทั้งราคาและคุณค่า โดยเฉพาะองค์งามๆ ดูง่ายๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอ้วนลอยฟ้า พระคุ้มครอง ที่ประมาณราคาได้ว่าอยู่ที่หลักล้านกลางๆ

เหรียญหล่อเหวัชระ ศิลปะลพบุรี เนื้อสัมฤทธิ์ กรุวัดพระ-ศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ของอิทธิ ชวลิตธำรง.
เหรียญหล่อเหวัชระ ศิลปะลพบุรี เนื้อสัมฤทธิ์ กรุวัดพระ-ศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ของอิทธิ ชวลิตธำรง.

ต่อไป ขอเสนอ เหรียญหล่อเหวัชระ เนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยลพบุรี กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.ลพบุรี

เหวัชระ เป็นภาษาทิเบต หมายถึง เทพผู้พิทักษ์ในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน แบบตันตระ ซึ่งพัฒนาเป็นนิกายวัชรยาน ของทิเบต ภูฏาน จีน

และเข้ามายังเขมรราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ โดยมีอีกชื่อว่า “ยิ-ดัม” คอยปกปักรักษา คอยกำราบภูตผีปีศาจ และดูแลมิให้สิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้น ปรากฏเป็นชื่อนาม เทพเหวัชระ กาลจักร หรือชัมภละ

เหวัชระ ที่พบในประเทศไทยสมัยลพบุรี ส่วนใหญ่มีรูปลักษณ์เป็นศิลปะเขมรยุคปลาย มีรูปลักษณ์เป็นเทพ กายสีน้ำเงิน แปดเศียร สี่ขา สิบหกกร ถือถ้วยรูปหัวกะโหลก

วัตถุมงคลเหวัชระ สร้างแพร่หลายในจีน ทิเบต เขมร และสยาม ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นเหวัชระ ในท่วงท่าลีลาเริงระบำ เทหล่อเป็นรูปเหรียญทรงกลม ด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยลพบุรี พบจากกรุพระปรางค์เจดีย์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี

เป็นวัตถุมงคลสายเทพ ที่นักนิยมพระเครื่องไทย นิยมแสวงหาสะสม เพราะเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกันภูต ผี ปีศาจได้ และงดงามอลังการ ด้วยศิลปะที่มีอายุความเก่าถึงยุคสมัย--ราคาว่ากันถึงหลักแสนปลายๆ สำหรับองค์ที่มีความงามสมบูรณ์ประมาณนี้

พระนางกำแพง พิมพ์ตื้น กรุลานทุ่งเศรษฐี ของปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์.
พระนางกำแพง พิมพ์ตื้น กรุลานทุ่งเศรษฐี ของปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์.

...

องค์ถัดไป เป็น พระนางกำแพง พิมพ์ตื้น กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อีกหนึ่งพระพิมพ์เนื้อดินเผา ที่ค้นพบได้ในเกือบทุกกรุพระในลานทุ่งเศรษฐี พร้อมพระพิมพ์หลักยอดนิยม ที่มีชื่อเสียงเป็นขุนพลพระกรุทุ่งเศรษฐี อย่าง พระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน

ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาละเอียดหนึกนุ่มแน่น ทรงสามเหลี่ยม เนื้อบาง ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสะดุ้งมาร พุทธศิลป์สุโขทัย เมืองกำแพงเพชร

แยกพิมพ์ตามความแตกต่าง เป็นหมวดใหญ่ เป็น พิมพ์ลึกกับพิมพ์ตื้น อย่างองค์นี้ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์ ซึ่งเป็นพระพิมพ์ตื้น ที่มีพิมพ์องค์พระและรายละเอียด คิ้ว หู ตาปาก จมูก ชัดแจ่ม หูตากะพริบ บอกถึงความประณีต ในการกดเนื้อแบบลึกสุดพิมพ์--บอกได้ว่า องค์นี้เป็น พระพิมพ์ตื้น ที่งามสุดเท่าที่เคยเห็นมา

พระลือหน้ายักษ์ กรุเทศบาลลำพูน ของ ส.จ.บอม เมืองน่าน.
พระลือหน้ายักษ์ กรุเทศบาลลำพูน ของ ส.จ.บอม เมืองน่าน.

...

ตามมาด้วย พระลือหน้ายักษ์ กรุเทศบาล อ.เมือง จ.ลำพูน ของ ส.จ.บอม เมืองน่าน ที่บอกว่า เป็นพระพิมพ์สกุลลำพูน พุทธศิลป์สมัยหริภุญไชยยุคปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งสายตรงวิเคราะห์ว่า มีศิลปะและเทคนิคการสร้างสูงกว่าพระเปิม

ค้นพบได้เมื่อเดือน ก.ค. ปี พ.ศ.๒๕๔๐ เวลาบ่ายโมงเศษ ในพื้นที่บริเวณเล้าไก่ในบ้านของ นายจรัล คนเฝ้าสวนเรือนเพาะชำของเทศบาลเมืองลำพูน อยู่ห่างลำน้ำกวง ราว ๓๐ เมตร

เริ่มแรกได้พบพระลือหน้ามงคล แบบเดียวกับของกรุวัดประตูลี้ ๑๐ กว่าองค์ ทุกองค์ผิวเนื้อเปื่อยยุ่ย เพราะอยู่ในกรุที่น้ำเข้าถึง

พอขุดต่อบริเวณด้านข้าง พบเศษอิฐเก่าขนาดใหญ่ ที่ใช้สร้างกำแพงโบราณ ขุดลึกลงไปได้พบหม้อแม่นาค...เอ๊ย หม้อดินเผา คล้ายหม้อบรรจุกระดูกสมัยโบราณ แตกปนอยู่กับพระพิมพ์นับพันองค์

เมื่อนำมาคัดแยกพบว่ามีพระ ๕ พิมพ์ คือ ๑.พระคง ๒๐๐ องค์ ๒.พระบาง ๕๐๐ องค์ ๓.พระเลี่ยง ๓๐๐ องค์ ๔.พระลือพิมพ์เล็ก ๕๐ องค์ ๕.พระลือหน้ายักษ์ ๕๐ องค์ รวมองค์ของ ส.จ.บอม ที่เขียนกำกับมาว่า เป็นองค์ดารา งามสมบูรณ์สุดของกรุ และก็หาชมได้ยากมาก

ราคากลางๆ อยู่ที่หลักมากแสนแต่ก็นานหลายปีกว่าจะมีพระให้ซื้อ-ขายกันสักองค์

เหรียญหล่อพระพุทธเศียรแหลม เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๕๙ หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ของอิทธิ ชวลิตธำรง.
เหรียญหล่อพระพุทธเศียรแหลม เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๕๙ หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ของอิทธิ ชวลิตธำรง.

...

องค์ที่หก เป็น เหรียญหล่อพระพุทธเศียรแหลม เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๕๙ หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

หลวงพ่อแก้ว เป็นพระอมตะเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ผู้ทรงญาณวิเศษ หยั่งรู้เหตุการณ์ มีวิทยาคมเข้มขลัง

เป็นเจ้าตำรับวิชาสร้างตะกรุดใบลานบังปืน ที่ผู้ได้รับต้องไปตัดใบลานจากต้นลานใน ต.คลองบางปืน มามอบให้หลวงพ่อด้วยตนเอง ท่านถึงจะทำให้ เป็นตะกรุดที่มีชื่อเสียงแพร่หลาย

องค์นี้เป็นเหรียญหล่อพระพุทธเศียรแหลม รุ่นแรก ที่สร้างพร้อมเหรียญรูปเหมือน บล็อกวัดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๙ เป็นเหรียญที่สร้างชื่อนิยมสูงสุด ราคาหลักแสนปลายถึงหลักล้าน สำหรับเหรียญแท้ ดูง่าย สภาพสวยแชมป์อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง

พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ หน้าตัก ๑๑
พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ หน้าตัก ๑๑" ของพรรค คู-วิบูลย์ศิลป์.

ตามมาด้วย พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ พุทธศตวรรษที่ ๒๑ หน้าตัก ๑๑" องค์นี้ พุทธศิลป์งดงาม ด้วยฝีมือช่างชั้นครู อายุถึงยุคพุทธศิลป์ถึงสมัย ขนาดองค์กำลังเหมาะ อาราธนาเป็นพระประธานบูชาประจำห้าง– ร้านบ้านเรือน

นอกจากจะได้อานุภาพ พุทธคุณปกป้องคุ้มครอง บันดาลความร่มเย็นเป็นสุข แล้วยังถึงรสนิยม ที่รู้คุณค่าอายุพุทธศิลป์ แห่งยุคสมัยที่งามพร้อม อย่างองค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ ที่ยากจะหาพบเห็นได้ในปัจจุบัน

เหรียญรุ่น ๒ พ.ศ. ๒๔๙๘ เนื้อเงิน หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ของเบนซ์ อัศวิน.
เหรียญรุ่น ๒ พ.ศ. ๒๔๙๘ เนื้อเงิน หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ของเบนซ์ อัศวิน.

อีกเหรียญเป็น เหรียญรุ่น ๒ ฉลองกุฏิ พ.ศ.๒๔๙๘ เนื้อเงิน หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต วัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ๑ ในเหรียญพระเกจิฯ ยุคเก่ายอดนิยมแถวหน้าของเพชรบุรี

เป็นเหรียญรุ่น ๒ ที่มีชื่อเสียง นิยมสูงกว่าเหรียญรุ่นแรก ที่หลวงพ่อมีคำตำหนิว่า รูปจำลองในเหรียญไม่เหมือนตัวท่าน ทำให้ผู้รับดำเนินการสร้างเหรียญรุ่น ๒ ฉลองกุฏิ ต้องพิถีพิถันในการจัดทำบล็อกแม่พิมพ์เหรียญ และนำให้ท่านตรวจ– สอบทุกขั้นตอนจนพอใจ

ทำให้เหรียญรุ่น ๒ เนื้อทองแดง และเนื้อเงิน อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยเบนซ์ อัศวิน เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ เล่นกันหลักล้านมานานแล้ว

บรรทัดถัดไป ขอแจ้งข่าวถึงประชาชนในจังหวัดอุบลฯ ซึ่งกำลังหวาดระแวงกลัวโควิดว่า ตอนนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิพุทธมณฑล จ.อุบลราชธานี มีเมตตาให้ใช้อาคารพุทธมณฑล ที่ อ.เขื่องใน อุบลราชธานี เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-๑๙ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป

และเรื่องปิดท้ายวันนี้ เกิดขึ้นในชั้นประถม โรงเรียนชื่อดังในเมืองนครปฐม ซึ่งคุณครูอธิบายถึงอันตรายของภัยโควิด-๑๙ และสอนวิธีป้องกันการติดเชื้อเบื้องต้น

พอบรรยายจบ ก็สอบถามนักเรียนรายตัว เพื่อดูว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน

โดยเริ่มที่ ด.ช.อานนท์ ที่ตอบเสียงดังฟังชัดว่า วิธีป้องกันเบื้องต้นต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ และอยู่เว้นระยะห่างจากคนอื่น ๑-๒ เมตรครับ--คุณครูและเพื่อนๆก็ปรบมือให้

คนต่อไปเรียกชื่อ ด.ช.สนธิ ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องไปฉีดวัคซีนให้ครบ ๒ โดส โดยเร็วครับ คุณครูยิ้มปรบมือให้อีก แล้วชี้เรียก ด.ช.นรินทร์ให้ตอบคำถาม

ด.ช.นรินทร์ตอบเสียงดังฟังชัดอย่างภูมิใจว่า ที่ทั้งสองคนตอบเป็นความรู้ทั่วไป ใครก็รู้ สำหรับผมมีคำตอบที่น้อยคนจะรู้ คือ ให้หา พระผงยาวาสนา หรือพระผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว มาบูชาติดตัว หรือกิน เพราะมีคำสโลแกนว่า “คนป่วยใช้บูชา หรือกินแล้วแม้ตายยังฟื้น” ครับ

คุณครูฟังแล้วตะลึง ส่วนเพื่อนร่วมห้องส่งเสียงฮือฮาเจี๊ยวจ๊าว ก่อนเงียบกริบ เพราะยอมแพ้ความรู้ลึกของ ด.ช.นรินทร์ ซึ่งมีพ่อเป็นเซียนพระใหญ่ เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง