เปิดสนามพระของเราด้วยคำสอน หลวงพ่อสุดใจ วัดป่าบ้านตาด อุดรฯ ที่นำมาใช้เตือนสติในยุคโควิดระบาดได้ดีว่า มนุษย์ทุกคน ไม่ได้อายุยืนยาวอะไรนัก และบอกไม่ได้ว่า คนแก่จะต้องตายก่อนเด็กเสมอไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุ เกิดโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียน ทำให้ตายก่อนวัยอันควร ท่านจึงสอนว่า อย่าประมาทในคุณงามความดี
แล้วก็ไปดูกันว่า วันนี้เรามีหลวงพ่อสำนักไหนมาโปรด องค์แรกคือ พระสมเด็จ ข้างช่อดอกไม้ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กทม. หนึ่งในพระพิมพ์มาตรฐานของกรุที่ได้นามเรียกเป็น “พระสมเด็จ” เพราะรูปทรง พิมพ์พระ เนื้อพระ สภาพคราบกรุ เหมือนพระสมเด็จ กรุเจดีย์ใหญ่ ตอนนั้นก็เข้าใจกันว่า เป็นพระที่สมเด็จฯโตสร้างไว้เหมือนกัน
...
แม้ในเวลาต่อมา พบหลักฐานตรวจสอบเนื้อพระแล้วว่าแตกต่าง จึงมีความเห็นแตกแยก เรื่องผู้สร้างที่หาข้อยุติไม่ได้-แต่ความนิยมพระกรุนี้ ก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูง ด้านคุ้มครองป้องกัน ให้ผู้ใช้บูชาแคล้วคลาดภัยได้อย่างอัศจรรย์
จึงเป็นพระพิมพ์สมเด็จที่ได้รับความนิยมสูง น้องๆพระสมเด็จบางขุนพรหม ถึงปัจจุบัน ก็ยังนิยมแสวงหา มาใช้บูชากันมากในราคาหลักแสน โดยเฉพาะพระพิมพ์สมเด็จ ข้างช่อดอกไม้ ซึ่งเชื่อกันว่า นอกจากจะมีอานุภาพด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย ยังมีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างฉมัง
องค์นี้ของ เสี่ยเกล้า วังวิเศษ เป็นพระสภาพสมบูรณ์เดิมๆเต็มร้อย สวยแซงหน้าพระหลักยอดนิยมแถวหน้าที่งามน้อยกว่า จึงขอเชิญมาให้ชมเป็นองค์แรกของอาทิตย์นี้
ตามมาคือ พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม วัด พระศรีรัตนมหาธาตุ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พิมพ์สุดท้องในสกุลพระผงสุพรรณที่กำลังมาแรง ตามกระแสความนิยมเวลาบ้านเมืองมีปัญหา
เพราะพอโควิด-19 แผลงฤทธิ์อีกรอบ จนเศรษฐกิจซึมเซาก็ส่งผลกระทบวงการพระเครื่อง เพราะศูนย์พระเครื่อง ถูกสั่งปิดชั่วคราวอีกแล้ว นักซื้อ-นักขาย ต้องปรับตัวรับสภาพ พระหลักยอดนิยมชั้นดีมีชื่อเสียงแถวหน้า ต้องชะลอการซื้อขายไประนาว
ที่ยังมีการซื้อขายอยู่ ก็เป็นพระยอดนิยม พิมพ์รองๆ ราคาย่อมเยา อย่างองค์นี้ของ เสี่ยวีระชัย ไชยเจริญ ที่มีความงามสมบูรณ์ โชว์ได้ใช้ดี สำคัญสุด เป็นพระแท้ ดูง่าย ที่มีจุดพิจารณาสำคัญให้ส่องเห็นได้ง่ายๆ ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร คราบฝ้า รากรุ ลายนิ้วมือ มีครบ แบบองค์ครู
...
รายการถัดไปเป็น พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระหลักยอดนิยม พิมพ์รอง ที่กำลังซื้อง่ายขายคล่อง เห็นออกสนามไม่นานก็มีการซื้อขายเปลี่ยนมือทุกองค์เลย
ยิ่งเป็นองค์กำลังงามสภาพสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ของ เสี่ยณัฐปคัลป์ อินทร์วงศ์ ต้องมีคนมานิมนต์ไปแน่นอน
ตามมาด้วยพระพิมพ์สมาธิกลีบบัวเศียรแหลม ฐานสูง วัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม เขตสัมพันธวงศ์กรุงเทพฯ
วัดนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดนางปลื้ม ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการบูรณะ โดยเจ้านาย ๓ พระองค์จึงเปลี่ยนนามเป็น วัดสามปลื้ม ต่อมาเกิดไฟไหม้ บรรพบุรุษตระกูลสิงหเสนี ก็มาบูรณปฏิสังขรณ์ ในสมัยปลาย ร.๑-ร.๒
...
ส่วนพระเครื่องวัดสามปลื้ม เชื่อเรื่องผู้สร้าง เป็น ๒ กลุ่ม คือ ๑. เชื่อว่าเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สร้างบรรจุไว้ ๒. พระอาจารย์พรหมกับพระอาจารย์ช้าง สองพระอาจารย์ผู้แก่กล้าวิชาอาคม อยู่คณะกุฏิสร้างไว้ ช่วงที่พระธรรมานุกูล (ด้วง) เป็นเจ้าอาวาส ศิลปะในองค์พระเป็นสมัยอยุธยาตอนปลายผสมรัตนโกสินทร์ตอนต้น
มีบันทึกการค้นพบพระวัดสามปลื้ม ๓ ครั้ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๐๐-๒๔๑๔ และ ๒๔๘๓ ลักษณะเป็นพระเนื้อผงน้ำมัน สีขาวเหลือง แตกหักง่าย กับชนิดเนื้อผงดำ ใบลานเผา กับเนื้อตะกั่ว และเนื้อชิน จากองค์พระเจดีย์ที่มีอายุอยู่คู่มากับวัด
พระเนื้อผงจะมีเนื้อละเอียดเกือบทั้งหมด ลงรักปิดทอง มาแต่ในกรุ ส่วนใหญ่แตกหักชำรุด จำนวนราว ๕๐,๐๐๐ องค์ แยกเป็นพิมพ์นิยม ๗ พิมพ์คือ ๑.พิมพ์กลีบบัวเศียรโล้น ๒.พิมพ์กลีบบัวเศียรแหลม ๓.พิมพ์ห้าเหลี่ยม ๔.พิมพ์บัวฟันปลา ๕.พิมพ์สามเหลี่ยมใหญ่ ๖.พิมพ์สามเหลี่ยมเล็ก ๗.พิมพ์พิเศษ
ต่อมายุคสงครามอินโดจีน ท่านเจ้าคุณพระคุณาจารวัตร ได้นำพระ ราวหมื่นกว่าองค์ แจกกระทรวง ทบวง กรม ทหาร ตำรวจ พระภิกษุและประชาชน ปรากฏอานุภาพทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือ จึงได้รับความนิยมถึงปัจจุบันก็ยังแสวงหากันมาก ในราคาหลักหมื่น กลางถึงหลักแสน แต่ก็ยากจะเจอองค์สมบูรณ์ งามเดิมๆ แบบองค์นี้ของ เสี่ยเพชรอิทธิ ชวลิตธำรง
...
พูดถึงวัดสามปลื้มก็มีเรื่องเล่านิดนึงถึง จระเข้ วัดสามปลื้ม ตัวดัง ชื่อ ไอ้บอด ซึ่งถูกจับมาขังไว้ เพราะสมัยก่อนเมืองไทยมีจระเข้มาก ตามริมแม่น้ำต่างจังหวัดมีทุกแห่ง ก็นอนผึ่งแดดไป แต่ จระเข้ ไอ้บอด เนี่ย เป็นตัวซ่า ทั้งที่ตาบอดข้างนึง แต่เข้ามาอาละวาดในพระนคร กินคนตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา จนคนไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ พอไม่มีเหยื่อไปให้จับกินสบายๆ ไอ้บอด ก็บุกรุกขึ้นฝั่งมาอาละวาดหนักอยู่แถวปากคลองตลาด ตั้งแต่สะพานพุทธไปถึงถนนทรงวาดราวๆ พ.ศ.๒๔๘๕ ซึ่งน้ำท่วมใหญ่มันเลยสัญจรสะดวก
ในที่สุดจึงต้องระดมกันไล่จับ ไอ้บอด ซึ่งตัวใหญ่มาก มันเลยหนีเข้าไปในวัดสามปลื้ม จนถูกจับได้ แต่ก่อนจะถูกฆ่าเอาหนังไปทำกระเป๋า พระวัดสามปลื้มก็ขอบิณฑบาตชีวิตไว้ และทำบ่อจระเข้ให้ไอ้บอดอาศัย แบบ โซเชียล ดิสแทนซิ่ง ไม่ปะปนใคร มีรั้วกั้นไว้แข็งแรงให้คนไปยืนดูจระเข้ได้ จากนั้นก็ไม่มีข่าว ไอ้บอด ทายาทชาละวัน ออกอาละวาดกินคนอีก
อีกสำนักมาจากวัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี คือ รูปเหมือนหล่อโบราณ หลวงพ่อทองศุข ที่สร้างปี พ.ศ.๒๔๙๙ ตามคำร้องขอของคณะศิษย์ หลังเสร็จงานพิธีฉลองกุฏิ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๘ โดยมอบหน้าที่ดำเนินการจัดสร้างให้ ท่านพระครูวชิรรังสี หรือ หลวงพ่อจันทร์ อดีตเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน ประกอบพิธี
สร้างแบบ ขึ้นหุ่น เทหล่อแบบโบราณ ด้วยเนื้อโลหะผสม เป็น รูปหล่อจำลอง ลอยองค์ หลวงพ่อทองศุข นั่งสมาธิเต็มองค์ ครองผ้าสังฆาฏิคาดรัดประคดอยู่บนอาสนะเหนือฐานเขียง
ด้านหลังฐานเป็นอักขระหัวใจ พระคาถา มะ อะ อุ และที่ชายผ้าสังฆาฏิ มี ยันต์อุณาโลม โดยใช้ชนวนเนื้อโลหะทองผสมเก่า กระแสเนื้อสีเหลือง ที่เก็บสะสมจากตอนได้รับกิจนิมนต์ ๑ ใน ๑๐๘ พระเกจิฯร่วมพิธีปลุกเสก พระกริ่งยอดฉัตร หรือ พระกริ่งยอดหมุด ของ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑
โดยท่านได้ปลุกเสก กำกับชนวนโลหะ เพ่งกสิณ ก่อนนำไปหลอมรวม พอเทหล่อเป็นองค์ท่านสำเร็จได้มอบให้ หลวงพ่อจันทร์ นำไปเก็บไว้ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์มหาอุด และปลุกเสกกำกับอีก ๑ เดือน จึงนำออกแจกจ่ายศิษยานุศิษย์
ด้วยจำนวนสร้างที่มีน้อย ผู้ได้รับจึงหวงมาก--องค์นี้ของ เสี่ยบอย พดด้วง เป็นองค์เดียวที่มีกระเนื้อพิเศษ เป็นสีแดง (เนื้อก้นเบ้า)
ต่อไปขอเสนอ พระสมเด็จหลังจาร เนื้อดินเคลือบยางไม้ หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระแก่กล้าร่วมยุค หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และเป็น พระอาจารย์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
อีกคนคือ เสือผาด ทับสายทอง อดีตจอมโจรชื่อดังแห่งยุคนั้น ที่ชาวบ้านให้ความเคารพยกย่องเรียก “คุณพระ” ก็เป็นศิษย์ท่าน ใช้พระเครื่องของขลังบูชาติดตัวอยู่รอดพ้นคมหอกคมดาบ ลูกปืนตำรวจนับครั้งไม่ถ้วนเป็นที่เลื่องลือ ตลอดอายุท่านสร้างพระเครื่อง ของขลังมอบศิษย์ไว้พอสมควร--ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมแพร่หลาย แต่หายากมาก น้อยคนจะได้ครอบครองเป็น พระพิมพ์สมเด็จ แบบองค์นี้ของ เสี่ยเบิ้ล ท่าพระจันทร์
อีกรายการเป็น ตะกรุดโทน เนื้อตะกั่ว ถักลายจระเข้ขบฟัน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ติดทำเนียบ ตะกรุด พระเกจิฯยอดนิยม top five คือ ๑. ตะกรุดโสฬส หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ๒.ตะกรุดโทนหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี ๓.ตะกรุดโทนหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กทม. ๔.ตะกรุดโทน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ๕.ตะกรุดโทน หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จ.พิจิตร
ในภาพเป็น ตะกรุดโทนเนื้อตะกั่ว หลวงปู่ศุข ของ คุณพี่เบญจวรรณ ไกรสวัสดิ์ เป็นของแท้ดูง่าย ด้วยเนื้อ ตะกั่วทุบที่มีไขขึ้น บอกอายุความเก่าธรรมชาติ เชือกถัก ลายจระเข้ขบฟัน เอกลักษณ์ลายถักเชือกฝีมือช่างเฉพาะตัว ทองคำเปลวที่ปิดทับรักเก่า ก็แทรกซึมเข้าเชือกอย่างประณีต ล้วนเป็นจุดฟันธงที่สายตรงบอก ดูเป็นครูได้เลย
อีกชิ้นเป็น หนุมาน งาแกะ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๐ หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี ศิลปะหน้าครุฑทรงเครื่อง ตาแดง ที่บอกลักษณะเอกลักษณ์ ในการดู หนุมานงาแกะ หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ผู้เป็นศิษย์สืบทอดวิชา หนุมานงาแกะ สายตรงของ หลวง-พ่อสุ่น วัดศาลากุน
ท่านเริ่มสร้างหลัง หลวงพ่อสุ่น มรณภาพแล้ว ระยะแรกๆ สร้างราวปี พ.ศ.๒๔๗๕-๘๐ ลักษณะเป็นอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเต่า พระเครื่อง ซึ่งเป็น รุ่นแรก ราคาอยู่ที่ หมื่นกลางแสน
ที่สร้างระยะต่อมา ถึงราวปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ราคา หมื่นต้นกลาง จุดพิจารณา อยู่ที่ เส้นศิลป์ ที่แกะด้วยมือ แฮนด์เมดร้อยเปอร์เซ็นต์ อายุความเก่าของเนื้องา และลายมือจารอักขระต้องเป็นมาตรฐาน บอกลาด้วยเรื่องฮาๆแก้เครียดยุคโควิด ซึ่งเกิดในวงสนทนานักนิยมพระเครื่อง ที่นิยมนินทาว่าร้ายเมียกันทั้งนั้น
ก่อน ศบค.จะสั่งปิดศูนย์ หัวหน้าก๊วนที่กำลังดูนาฬิกา เห็นมีสมาชิกขาประจำ ๓-๔ คน เข้ามาชุมนุมกันสลอน ก็เลยชวนคุย เริ่มจากเรื่องตกแต่งศัลยกรรมพระเครื่อง ว่าสมัยนี้ล้ำหน้า เพราะเทคโนโลยี อย่างพระที่ใช้จนสึก จนพิมพ์พระล่องหน ยังสามารถเนรมิตให้พิมพ์ทรงกลับมางามเช้งได้สบาย
แล้วยกตัวอย่าง พระนางพญา ว่ากำหนดได้เลยจะเอาหน้าทรงไหน รูปไข่ หรือผลมะตูม ทำได้เป๊ะ ถึงตรงนี้ เสี่ยไก่ ยกมือค้าน บอกว่า ทำได้จริง แต่ทำยังไงฝีมือแค่ไหนก็ดูออก ไม่ผ่านตาเซียนเก่งๆแน่ หัวหน้าก๊วน บอก ก็ใช่ แต่ที่พูดนี่หมายถึงกรณีคนที่มีพระสึก อยากทำให้พระสวย เหมือนสาวๆที่สมัยนี้อยากสวยแค่ไหนก็ทำศัลยกรรมได้ จะทำหน้ารูปไข่ เล็กใหญ่ แบบไข่จิ้งจก ไข่นกกระทา ไข่เป็ด ไข่ไก่ ได้หมด
ถึงตรงนี้ เสี่ยสันติ ที่นั่งเงียบมาตลอด ได้จังหวะแทรกว่าลูกใครเมียใคร จะทำหน้ารูปไข่อะไรก็แล้วแต่ ต้องเลือกหมอหน่อย อย่าเอาอย่างเมียผม ที่ตั้งใจไปทำศัลยกรรมหน้าเป็นรูปไข่ แต่คงไม่ได้บอกหมอว่า จะให้เหมือนไข่อะไร--ทุกวันนี้ เสี่ยสันติจึงต้องทนดูหน้าเมีย ที่มองคล้ายรูปไข่ แต่ดูบิดๆเบี้ยวๆ เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง