ต้อนรับเดือน ๔ กันด้วยโอวาทธรรม ของ หลวงพ่อพุทธทาส เรื่องเคล็ดลับความสุข ที่ท่านสอนว่า “รู้จักปลง รู้จักปลด รู้จักปล่อยวาง รู้จักไม่ยึดมั่นถือมั่น”
เข้าไปดูในสนามพระกันต่อ เริ่มด้วย พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กทม. ของนักสะสมเจ้าเก่า เหมาพระไปทั่ว จนชื่อ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง เป็นที่รู้จักซูฮกกันว่า เป็นรังพระเครื่องของขลังยอดนิยม
และยังขยันเสาะหาสะสม จนมีองค์มันๆ พระหน้าใหม่ๆมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงวันนี้ ได้พระเครื่องของขลังองค์งามๆชิ้นเยี่ยมเข้าตลอด เพราะโควิดทำให้ตลาดพระเครื่องเนือยๆ และนักนิยมพระเครื่องส่วนใหญ่ ต้องหยุดดูสถานการณ์ แต่เจ้านี้ไม่เคยหยุด เพราะตังค์เยอะ จึงช็อปกระจาย ได้พระเครื่องที่ชอบ เครื่องรางที่ใช่ เพียบ ทำให้แฟนคลับสนามพระ ได้ดูพระดี ฟรีๆแทบทุกอาทิตย์ ตามกติกาใครมีพระดี แท้ ส่งมา รับรองได้ลง
บางคนมีชื่อใน สนามพระวิภาวดี บ่อย จนบางคนนึกว่า เส้นใหญ่ แต่คนที่ทราบกติกาสนามนี้ จะเข้าใจดีว่า ที่นี่ให้ความสำคัญกับพระ มากกว่าเจ้าของ ถ้าพระดี แท้ สวย จะของใครก็ตาม จะได้รับการเผยแพร่แน่นอน เพื่อให้ท่านผู้ชมได้ศึกษาเรียนรู้
และในขณะเดียวกันก็ให้เครดิตเจ้าของพระ ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาในการแสวงหา ใช้เงินมากมายในการเช่าหา ไม่ว่าจะเพื่อการอนุรักษ์ หรือการลงทุน แต่ก็ถือเป็นโอกาสของแฟนๆคอลัมน์ ที่ได้ดูพระเครื่องของขลัง ชั้นยอดๆองค์เยี่ยมๆ
...
องค์ที่สองเป็น พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กทม. องค์นี้ เป็นหนึ่งในองค์งามสมบูรณ์ที่สุดของพิมพ์นี้ กรุนี้ เพราะฟอร์มทรงที่ตัดกรอบได้เหลี่ยมได้มุม พิมพ์พระติดเต็มเสมอกันทั่วองค์ เนื้อแก่ปูน อุดมด้วยมวลสารส่วนผสมครบสูตร มีคราบฝ้า รากรุ บอกอายุตามธรรมชาติ บางเบาพองาม
สีเนื้อขาวสะอาดไม่มีคราบน้ำ แสดงว่าเป็นพระที่บรรจุสูงเหนือน้ำในกรุ ซึ่งมักจะมีความงามสมบูรณ์ เนื้อแห้งแกร่งเป็นพิเศษ แต่พบน้อย หายากมาก เพราะพระที่ถูกบรรจุอยู่ในที่สูง จะถูกลักลอบตกกรุ หรือตกเบ็ด ไปซะเกือบหมด ก่อนวัดเปิดกรุอย่างเป็นทางการ
โดยการตกกรุ ก็แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน สมัยก่อนที่ยังไม่มีกาว โดยปั้นดินเหนียว จุ่มน้ำพอหมาดๆติดไว้ที่ปลายเชือกแล้วหย่อนผ่านช่องลมขององค์พระเจดีย์ลงไป ดินเหนียวก็จะเกาะติดองค์พระขึ้นมา
แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้องค์พระที่หักชำรุด ส่วนน้อยที่เป็นองค์สมบูรณ์ก็มักมีร่องรอยจุดติดก้อนดินเหนียว ให้เห็น ต่างจากองค์นี้ ของ เสี่ยต่อ สตางค์ ที่สวยเพอร์เฟกต์ ไร้ร่องรอยเนื้อดินเหนียว บอกได้ถึงความเป็นองค์พระที่ถูกนำออกจากกรุ อย่างถูกต้องและรู้คุณค่า--ราคาค่าความนิยม อยู่ที่หลักล้านปลาย
ยังอยู่ในตลาดสมเด็จ เพราะอีกองค์เป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตลอด วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของ เสี่ยดำริห์ โรจนพาณิชย์วงศ์ (คุ้ม สโนลอย) เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ เด่นทั้งพิมพ์พระที่ติดชัดลึกเสมอกันทั่วองค์ ดูดีมีมิติ
เนื้อพระสีขาวนวล หนึกนุ่ม แน่นนวลตา แบบที่เรียกว่า “เนื้อกระดูก” ซึ่งเป็นเนื้อนิยม มาตรฐานสูงสุด บอกได้ถึงความเป็นนักนิยมพระที่มีรสนิยม มีความรู้ และแนวทางในการสะสมเสาะหา
ต่อด้วย เหรียญพระเกจิอาจารย์ หลักยอดนิยมแถวหน้า ๑ ใน ๕ เหรียญเบญจภาคีพระเกจิฯ ยอดนิยม เหรียญ ยันต์สี่ ๓ จุด พ.ศ.๒๔๖๗ เนื้อเงิน หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ เขตภาษีเจริญ กทม. ของ กำนันมานะ คงวุฒิปัญญา เป็นเหรียญสวยเดิมสภาพสมบูรณ์ เดิมๆ ขนานแท้ ไร้ริ้วรอยใช้สัมผัส
...
อีกองค์เป็น พระชัยวัฒน์ ล้มลุก เนื้อนวโลหะ พระพุฒาจารย์ (ท่านเจ้ามา) วัดสามปลื้ม เขตสัมพันธวงศ์ กทม. เป็น พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ราคาตอนนี้อยู่ที่หลักล้าน
ลักษณะเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิเหนือฐานบัว แบบลอยองค์ ทรงกลม ขึ้นหุ่น เทหล่อแบบโบราณ ด้วยเนื้อโลหะผสม วรรณะเนื้อสีดำสนิทดำแกมเขียว และเนื้อแดง
องค์นี้ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ เนื้อดำสนิท แบบที่นักนิยมพระยุคก่อน นำไปเปรียบเทียบได้กับสีดำของผ้ากางเกง “ปั๋งลิ้ม” ของชาวจีน ซึ่งเป็นสีเนื้อที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ได้ชื่อเรียกเป็นพิมพ์ “ล้มลุก” จากรูปลักษณ์ที่เป็นทรงกลม เหมือนตั้งได้รอบด้าน แบบตุ๊กตาล้มลุก และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่มีปรากฏเป็นประสบการณ์ ช่วยให้ศิษย์ที่ค้าขายขาดทุน ได้พระนี้ไปใช้บูชาติดตัว ทำน้ำมนต์ประพรมสินค้า ขายได้ ขายดี กลับมีฐานะเป็นเศรษฐี มากหน้าหลายตา สืบทอดถึงลูกหลาน เป็นตระกูลใหญ่ มีชื่อเสียงอยู่ในยุคปัจจุบัน
...
อีกสำนักเป็น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ปั้น หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี องค์ขนาดเล็กจิ๋ว เนื้อผงคลุกรัก จุ่มรักปิดทองเก่า ถึงอายุอย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้ เชื่อกันว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นในยุคแรกที่ท่านมาสร้างวัด โดยเข้าป่าหาไม้เอง
ชาวบ้านเห็นความตั้งใจ ก็มีศรัทธาไปช่วยท่านหาไม้ ซึ่งต้องเสี่ยงอันตรายจากธรรมชาติและสัตว์ร้าย ท่านจึงได้สร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ปั้น ลอยองค์ หลายแบบ หลายขนาด มอบคนที่ช่วย
ซึ่งนอกจากจะแสดงอานุภาพ ด้านคุ้มครองป้องกันภัยได้ชะงัด ยังแสดงอานุภาพด้านโชคลาภ วาสนา มหาเสน่ห์ เป็นที่เลื่องลือ--ตรงนี้ ไปค้นตำราเรื่องการทำเสน่ห์ มาตอบ “คำถามสนามพระ” นิดนึง ว่าถ้าไม่มีเงินทองพอจะเช่าพระเครื่องของขลัง อย่าง พระหลวงพ่อแก้ว ที่แพงลิบมาใช้ จะทำยังไง
...
ก็ขอเล่า แต่ไม่ขอแนะนำ เพราะถือเป็นไสยศาสตร์แนวให้โทษ เพราะการจะทำให้ใครรักหลง ควรใช้คุณสมบัติความดีของตัวเอง (หรือใช้เงิน) ไม่ใช่ด้วยเสน่ห์เล่ห์กล ซึ่งเป็นบาป แต่ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคน คนที่อยากใช้ทางลัด จึงใช้วิชาโบราณที่เรียกว่า เสน่ห์ยาแฝด
สำหรับ ยาแฝด เป็นความเชื่อโบราณ ที่ค่อยๆสาบสูญไป แต่มีบันทึกไว้ในสมุดข่อย ว่า มีวิธีการทำหลายตำรา ด้วยการนำ ลูกสวาด มาล้วงไส้ออก แล้วหมอเสน่ห์จะเอาตะไคร่จากสีมาหน้าพระอุโบสถ ตะไคร่จากเสาผูกช้าง และขี้เหงื่อขี้ไคลจากตัวเราที่ขัดตอนอาบน้ำ ผสมกันแล้วใส่ในลูกสวาด อุดด้วยขี้ผึ้งแล้วกินพอถ่ายออกมา ก็ล้างลูกสวาดให้สะอาด แล้วเผาให้เป็นถ่าน บดเป็นผง เสกด้วยคาถา ให้ครบ ๓ วันเสาร์ แล้วเอาใส่อาหารให้คนที่เราอยากได้เป็นเมียเป็นผัว โบราณว่า คนคนนั้นจะรักหลงหัวทิ่ม
บางสำนักก็ใช้การปั้นหุ่น โดยเอาหุ่นคนที่อยากให้รักหลง มาผูกกับหุ่นตัวเอง ทำพิธีหลังตะวันตกดิน ยิ่งดึกๆเงียบสงัดยิ่งขลัง และมักทำตามป่าช้า
การทำเสน่ห์ยาแฝดนี้ มีตัวอย่างว่าทำให้รักหลงได้จริง แต่มีผลกับผู้ถูกกระทำ และคนรู้วิชานี้ จะสังเกตได้ เพราะผู้ถูกยาแฝด จะหน้าตาหมองไม่มีราศี ขอบตาดำ นานไปก็เพ้อคลุ้มคลั่ง ถ้าแรงก็ถึงกับเป็นบ้า โบราณจึงห้ามว่าไม่ควรทำ และมีวิธีแก้หลายตำรา เช่น รดน้ำมนต์ธรณีสาร หรือทำน้ำมนต์ด้วยคาถาถอนโบสถ์ ถอนสีมาให้อาบและดื่ม จนกว่าจะหาย
ปัจจุบัน พระปิดตา พิมพ์ปั้น ที่แม้ไม่มีแบบพิมพ์เป็นมาตรฐาน เพราะเป็นพระแฮนด์เมด ขึ้นหุ่น ปั้นพิมพ์ทีละองค์ ขนาดองค์ก็มีหลากหลาย แต่พิสูจน์ได้ด้วยประวัติ ที่มา และการพิจารณาเนื้อมวลสาร อายุความเก่าของรักเป็นหลัก ว่าพระของท่าน
อย่างองค์นี้ของ เสี่ยทศพล ไหลสงวนนาม เป็นองค์ที่มีรูปลักษณ์ เนื้อมวลสาร อายุความเก่าของเนื้อรักถึงยุค เป็นที่ยอมรับ--ที่สำคัญสุด คือเป็นองค์ขนาดเล็กจิ๋ว ที่มีพบเห็นน้อยสุดๆ ใครเห็นก็ชอบ แต่องค์จิ๋วก็จริง ส่วนราคาไม่จิ๋ว เพราะสูงถึงหลักล้าน ขอบอก
ต่อด้วย เหรียญ รุ่น ๒ แจกพ่อครัว พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ อ.เมือง จ.เพชรบุรี สร้างมอบเป็นที่ระลึกผู้ร่วมกุศลกับวัด เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ โดยนำ แม่พิมพ์บล็อกเหรียญ พ.ศ.๒๕๐๓ รุ่นแรก มาใช้ซ้ำ สร้างเป็น เนื้อทอง– แดง ๒๐๐ เหรียญ เนื้ออัลปาก้า ๗๕๐ เหรียญ
จุดสังเกตความแตกต่างกับเหรียญรุ่น ๑ อยู่ที่พื้นเหรียญ ที่หน้าหลัง ดูไม่เรียบร้อย มีเนื้อขี้กลากหรือเส้นสายฝนปรากฏ ซึ่งเกิดจากการตกแต่งบล็อกแม่พิมพ์ ที่เก็บไว้และเกิดเป็นสนิม
เหรียญนี้ของ ร้านกาแฟ โชกุน อ.เขาย้อย เพชรบุรี เป็นเหรียญเนื้อทองแดง ที่ได้รับความนิยม ใช้แทนเหรียญรุ่นแรก สภาพเหรียญสมบูรณ์ รมดำเดิมๆ เต็มร้อยแบบนี้ เจ้าของบอกว่าจ่ายไป ๒ แสน
อีกรายการเป็นเครื่องราง หนุมาน งาแกะ หน้าโขน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อ.เมือง จ.นนทบุรี
มีบันทึกว่า หลวงพ่อสุ่น ท่านเรียนวิชาทำหนุมานมาจาก ท่านพระนาคทัศน์ รูปแบบการแกะ มีหลายแบบ หลายขนาด ใหญ่-เล็ก รูปทรงหนุมานทรงเครื่อง (หน้าโขน) หน้ากระบี่ (ลิงหัวค่ำ)
เวลาจะใช้ มีคาถาเสกกำกับ ให้ว่า นะโม ๓ จบ ตั้งจิต นึกถึงหลวงพ่อ ว่าคาถา นะ บังเพลิง โมบังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธัง อะโธ โธอุด ธังอัด อะสังวิสุโร ปุสะพุพะ มะอะอุ โอมยะ พุทธา ทะโย สตรี สตรี นิสิงโห
ตัวนี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี เป็น หนุมานทรงเครื่อง เนื้องาแกะ “หน้านกแก้ว” ตามลักษณะ หน้าจมูกกลมโต ดูด้านข้าง ปากลิ้นคล้ายปากนกแก้ว มีกำไลแขน ๒ ข้อ กำไลข้อเท้าข้อเดียว ฐานกลม
เป็นอีกฝีมือช่าง ที่ได้รับความนิยมเป็นมาตรฐาน หากได้ใช้บูชาปลุกเสกด้วยคาถาดังกล่าว เขาว่าอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ด้านมหาอุด หยุดลูกปืน เชื่อมั่นได้ ขนาดปากกระบอกแตกเลยทีเดียว ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ก็เชื่อขนมกินได้ ประมาณทำสาวหอบผ้าหอบผ่อน ตามมาอยู่ด้วย แบบไม่ต้องเสียค่าสินสอด
เรื่องปิดท้าย คลายร้อน วันนี้ คุยกันถึง เสี่ยอู๋ เจ้าของร้านตัวแทนจำหน่ายแอร์ ซึ่งรับเหมางานติดตั้งแอร์ ให้หน่วยราชการต่างๆมานานกว่า ๒๐ ปี จึงมีฐานะดี มีทุนเช่าพระเครื่องที่ชอบเก็บสะสมไว้มากพอสมควร
เป็นธรรมดาของคนเล่นพระ ที่มักมีเป้าหมายสูงสุด จะต้องมีพระเบญจภาคี ให้ได้ครบชุด ซึ่ง เสี่ยอู๋ ก็เสาะหาแบบไม่ยอมขายพระ แต่ใช้วิธีแลกเปลี่ยนด้วยตัวเอง เสียเปรียบบ้าง เพิ่มเงินบ้าง ก็ยอม
ผ่านไป ๒๐ ปี ก็มีพระเบญจภาคี ครบชุด แม้จะเป็นพระสภาพใช้ช้ำ ทั้ง ๕ องค์ แต่ก็เป็นพระแท้ทั้งหมด เมื่อได้สมปรารถนา ก็หยุดเช่าพระ แต่นั้นมา ใครมีพระมาเสนอก็ปฏิเสธ บอกมีที่สุดของพระเครื่องครบแล้ว ไม่อยากได้พระอะไรอีกแล้ว
หลายปีผ่านไป ก็มีเซียนพระวนเวียนมาเยี่ยมเยียนขอชมพระ ขอเช่า แกก็ไม่ยอมขาย บอกจะเก็บเอาไว้ให้ลูกชาย ที่กำลังจะเรียนจบกลับจากเมืองนอก เซียนพระรู้นิสัยแกเป็นคนพูดจริงทำจริง ก็เลิกตื๊อ
แต่เมื่อตรุษจีนที่ผ่านมา เสี่ยอู๋ แวะไปเยี่ยมเพื่อนเซียนพระในสนามใหญ่ เพื่อนก็ถามถึงพระชุดเบญจภาคี ขอซื้อ แต่ เสี่ยอู๋ ส่ายหน้า บอกว่ายกให้ลูกชายที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศไปแล้ว เพราะไปฟังพระเทศน์มา ท่านบอกว่า ไม่ให้ยึดติดกับวัตถุ อายุมากแล้วให้ดูแลสุขภาพ เข้าวัดเข้าวา ทำสมาธิหาความสงบสุข
เพื่อนเซียนพระ ฟังก็โมทนาสาธุ ที่เพื่อนฝักใฝ่ธรรมะ แต่ก็อดเป็นห่วงพระชุดเบญจฯไม่ได้ เลียบเคียงถามว่า แล้วลูกชายลื้อรู้เรื่องพระเบญจฯดีหรือ คราวนี้ เสี่ยอู๋ เกาหัว ตอบว่า มันก็คงพอรู้ เพราะให้พระไปแค่ ๓ วัน มันก็เอาไปขาย เปลี่ยนพระเป็นรถพอร์ช ป้ายแดง มาขับปร๋ออ เลยย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง