พระพุทธชินราชใบเสมา พิมพ์ใหญ่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เส้นศิลป์คมชัด

เพราะเป็นวันแห่งความรักของชาวคริสต์ ที่เรียกว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine) ซึ่งไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มๆสาวๆอย่างที่หลายคนเข้าใจแต่เป็นวันที่ระลึกถึงความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ ของนักบวชชื่อ เซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ซึ่งได้รับโทษประหาร เพราะขัดพระบัญชาจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 แห่งกรุงโรม ที่สั่งห้ามประชาชนแต่งงาน เพราะเกรงว่าถ้าผู้ชายมีความรักมีครอบครัว จะไม่อยากไปรบ

เซนต์วาเลนไทน์ เห็นใจคนมีความรัก จึงแอบจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์ จึงถูกจักรพรรดิสั่งตัดหัว เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1,728 ปีก่อน

ต่อมานิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้วันนี้ เป็นวันที่ระลึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ จนยอมสละชีวิต เพื่อให้เพื่อนมนุษย์มีความสุข

ซึ่งก็เหมือนๆกับคำสอนทางพุทธศาสนาของเรา เรื่อง ทาน ที่ว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก และมีชาดกเรื่องการให้ทานที่ยิ่งใหญ่หลายเรื่อง เช่น พระเวสสันดร

ไปว่ากันต่อถึงเรื่องความรักในการสะสมพระเครื่องของเรา เริ่มกันที่ พระพุทธชินราชใบเสมา พิมพ์ใหญ่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก องค์นี้แฟนคลับพระกรุพระเก่า รุ่นเก๋า เห็นปั๊บจำได้แน่ เพราะเป็น พระพุทธชินราช องค์แชมป์ ด้วยสภาพความสมบูรณ์ ของรูปทรง ความงดงามของพิมพ์พระ ความคมชัดของเส้นศิลป์

คราบไข ฝ้ารากรุที่ขึ้นจับเหนือผิวปรอทเป็นแสงสีเงินแวววับ ที่ขึ้นปกคลุมด้านหน้าองค์พระแบบเกือบเต็มร้อย ด้านหลังองค์พระเป็นลายผ้าแบบหยาบ ซึ่งเป็นอีกจุดพิจารณาที่เป็นเอกลักษณ์ของพระสกุลนี้

องค์นี้อยู่ในรังของ “โป๊ยเสี่ย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ มาหลายสิบปี ทุกครั้งที่มี พระพุทธชินราช ใบเสมา องค์ งามๆ สภาพเยี่ยมๆ ปรากฏเข้าวงการ ก็มักจะมีการกล่าวถึงเปรียบเทียบกับพระองค์นี้ ซึ่งก็มีที่เทียบเคียงได้แบบสูสีอยู่หลายองค์ แต่ยังหาองค์ชิงแชมป์ไม่เจอ

องค์ที่สองคือ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร สุดยอดพระพิมพ์เนื้อดินเผา เมืองกำแพงเพชร ต้นกำเนิด นาม พระกำแพงเขย่ง พระกำแพงลีลาทุ่งเศรษฐี หรือ พระกำแพง ลีลาเม็ดขนุน ตามรูปทรงองค์พระ ที่เหมือนเม็ดขนุน

ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธรูปปางลีลา พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย ที่จำลองขนาดจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เป็น พระพิมพ์เนื้อดินผสมว่านเผา ขนาดเล็ก ได้อย่างงดงามสมส่วน

ค้นพบได้มากที่วัดบรมธาตุ วัดพิกุล วัดอาวาสน้อย และกรุพระทั่วไป ในบริเวณลานทุ่งเศรษฐี มีชื่อเสียงเป็นขุนพลพระเมืองกำแพง มาก่อน พระกำแพงซุ้มกอ และมีราคาค่าความนิยมสูงกว่าก่อน ท่านตรียัมปวาย เลือก พระกำแพงซุ้มกอ ที่มีรูปลักษณ์เข้าพวกเป็น ๑ ใน ๕ พระของแผ่นดิน ชุดเบญจภาคี

แต่ถึงปัจจุบัน พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน ก็ยังได้รับความนิยมสูง เพราะมีชื่อเลื่องลือในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ด้านคุ้มครองป้องกันภัย มหาโชค มหาลาภ เมตตาค้าขาย เสริมส่งให้มีความเจริญก้าวหน้า ครบเครื่องตามคำนิยม พระเครื่องเมืองกำแพง ที่ว่า “มีกูไม่จน”

ราคาก็ไล่เรียงกับ พระกำแพงซุ้มกอ แต่หายากกว่า เพราะจำนวนพระที่ค้นพบมีน้อย องค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ ดูจากภาพ มีรอยกะเทาะเป็นตำหนิเล็กน้อย ที่ผิวเนื้อเหนือเศียรด้านขวา แต่เข้าไม่ถึงองค์พระ ถือเป็นองค์พระสภาพสมบูรณ์งดงามเดิมๆ ที่เป็นโอกาสของผู้แสวงหา พระหลักยอดนิยม โชว์ได้ ใช้ดีเยี่ยม ในราคาไม่แพงอย่างที่คิด

องค์ต่อไปเป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม กรุวัดพระศรีรัตน-มหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระพิมพ์เนื้อดินเผา ๑ เดียวที่ค้นพบได้ใน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี พุทธศิลป์ในพิมพ์พระเป็น ศิลปะอู่ทอง ที่แยกพิมพ์ได้เป็น ๓ ยุค ต้น กลาง ปลาย คือ หน้าแก่ หน้ากลาง--และ หน้าหนุ่ม แบบองค์นี้ของ เสี่ยพิเชษฐ์ เกียรติเดชาวิทย์ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมสุดท้ายในตระกูล

ในอดีตครั้งมีสนามพระยุคแรกๆ มีการกำหนดพระชุดเบญจภาคีใหม่ๆ พิมพ์นี้จะถูกมองข้าม เพราะความนิยมมุ่งไปที่ พระพิมพ์หน้าแก่ เท่านั้น ทำให้ พระพิมพ์หน้ากลาง หน้าหนุ่ม จะถูกมองข้าม นอกจากพระมีสภาพสวยจริงๆ ก็จะมีการซื้อเก็บกันเหนียวอยู่บ้าง--แต่ราคายังทิ้งห่าง ประมาณหลักหมื่นปลายกับหลักแสนกลาง

ต่อเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน พระพิมพ์ หน้าแก่ หายาก ไม่มีพระหน้าใหม่เข้าสนาม มีแต่ภาพพระองค์เดิมๆมาให้ชมบ้าง ในราคาขึ้นสูงสุดสอย จึงถึง เวลาของ พระพิมพ์รอง ที่ยังมีพระองค์งามๆ สภาพเยี่ยมๆให้เลือกหา ในราคาจ่ายไหว อย่างองค์นี้

ถัดไปเป็น พระปิลันทน์ พิมพ์ครอบแก้วใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์ฯ) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ พระพิมพ์สกุลวัดระฆังฯ ที่ได้รับความนิยมแสวงหามาใช้แทน “พระสมเด็จ” ของ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อย่างสูงสุด

เพราะผู้สร้างเป็นศิษย์สายตรง ผู้รับมอบเป็นผู้สืบทอดทั้งตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดระฆังฯ รับฐานาสมณศักดิ์เสมอที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ และรับถ่ายทอดสรรพวิชาพุทธาคม

กล่าวได้ว่าเป็น ศิษย์ในสายเลือด ที่สำคัญ มีความเชื่อว่า สมเด็จฯโต ท่านมีส่วนในการร่วมสร้างพระ โดยให้คำแนะนำและ มอบผงพุทธคุณ เป็นมวลสารผสม ที่ปรากฏเป็นผงขาวๆในเนื้อพระ เนื้อสีเทาดำแกมเขียว ที่มีพิมพ์พระมาตรฐานได้รับความนิยมมากกว่า ๒๐ พิมพ์

องค์นี้ของ เสี่ยต้น สุวรรณกร เป็น พิมพ์นิยมแถวหน้า ที่ยังพอมีให้พบเห็น แต่น้อยองค์นักที่จะมีความสมบูรณ์งดงาม สภาพเดิมๆ รูปทรงเป๊ะปัง พิมพ์พระคมจัด ชัดลึก เนื้อมวลสารเข้มข้น คราบกรุ (ไขวัว) ขึ้นเกาะผิวเนื้อพองาม แบบไม่บดบังพิมพ์พระให้เสียความรู้สึก

ต่อไปเป็น เหรียญแจกแม่ครัว บล็อกตาไก่ พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงพ่อแดง รตฺโต วัดเขาบันไดอิฐ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

เป็นเหรียญขนาดเล็ก ที่ทางวัดตั้งใจสร้างสำหรับสตรี เด็กเล็ก ที่มาช่วยงานครัว งานดูแลจัดสถานที่ในวัดส่วนหนึ่ง และอีกส่วนออกให้สาธุชนเช่าบูชา

ลักษณะเป็น เหรียญปั๊มรูปไข่ ด้านหน้าเป็นองค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ (ครึ่งองค์) มีอักษรบอกนามฐานา ด้านหลังเป็น ยันต์ครู แบบเดียวกับเหรียญรุ่นแรก

มีสร้างเป็น ๒ รุ่น คือ รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๓ ที่ได้รับความนิยมสูงกับ รุ่น ๒ พ.ศ.๒๕๐๕ แบบเหรียญนี้ของ เสี่ยเต่า พระเครื่อง เป็นบล็อกนิยม (ตาไก่ บ่าราง) เนื้ออัลปาก้า ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง เพราะไม่สนแล้วว่า พระแม่ครัว หรือไม่ใช่แม่ครัว

ตามมาด้วย พระพุทธพิมพ์สมาธิฐานเปลวเพลิง เนื้อผงผสมว่านสบู่เลือด หลวงปู่อินทร์ วัดไทรม้าใต้ จ.นนทบุรี

ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชั้นปรมาจารย์ มีชื่อเสียงแพร่หลายร่วมยุค หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงพ่อเชย วัดโพธิ์ทองล่าง และหลวงปู่อ่อนวัดน้อย (วัดมัชฌันติการาม) ซึ่งล้วนเป็นพระ ผู้ทรงอภิญญาแสดงฤทธิ์ได้ ที่มีมากในยุคนั้น

ท่านได้รับสมญานาม “หลวงปู่อินทร์ เทวดา” โดยมีเรื่องเล่าแนวยกย่องวิชาอาคมว่า ตอนท่านสอนศิษย์เรื่องบาปบุญคุณโทษ เพื่อให้เห็นจริง จึงโยนม้วนสายสิญจน์ขึ้นบนฟ้า แล้วดึงกลับ โดยมีเทวดาติดสายสิญจน์ลงมาให้เห็นกับตา อย่างอัศจรรย์ เป็นที่ร่ำลือกันสืบมา

ตลอดอายุ ท่านสร้างพระเครื่อง ของขลังไว้พอสมควร ท่ีมีชื่อเสียงมาก เป็นพระพุทธพิมพ์สมาธิ ฐานเปลวเพลิง พ.ศ.๒๔๔๐ ตามเลขที่จารอยู่ด้านหลังองค์พระ

ส่วนหนึ่งแจกศิษย์ อีกส่วนบรรจุกรุองค์พระเจดีย์ไว้ที่วัด ปัจจุบันเป็นพระที่ยากจะหาพบเห็น องค์นี้เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมเดิมๆของ เสี่ยเบิ้ล ท่าพระจันทร์ ที่สนใจศึกษา จนมีภูมิรู้เรื่องพระเกจิอาจารย์ยุคก่อนเก่า ที่คนไม่เคยรู้มาก่อน

ต่อไปเป็นเครื่องรางของขลังยอดนิยม คือ หนุมาน ไม้แกะ หน้าโขนทรง-เครื่อง หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิต-ธำรง ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกฉายาตามวงการพระที่นิยมเรียกกันสั้นๆว่า เพชร อิทธิ ได้ยินชื่อเป็นอันรู้กันว่านามนี้ คือนักนิยมพระเครื่องแถวหน้า ฐานะมหาเศรษฐี ที่มีพระเครื่องยอดนิยมองค์งามๆส่งมาให้แฟนคลับชมกันอย่างต่อเนื่อง

แต่เริ่มปีใหม่นี้ ดูเหมือน เสี่ยเพชร จะเปลี่ยนเทรนด์ ไปเน้นเครื่องรางของขลังมากกว่าพระเครื่อง เพราะภาพที่ส่งมา ส่วนใหญ่เป็นเครื่องราง ซึ่งก็ระดับพรีเมียม ชิ้นเยี่ยมๆทั้งนั้น รวมทั้ง หนุมาน ไม้แกะทรงเครื่อง หน้าโขน ที่งามสมบูรณ์สุดๆ แบบล้มแชมป์ได้สบาย

อีกชิ้นเด็ดเหมือนกัน คือ ลูกอมเนื้อผงคลุกรัก จุ่มรักปิดทอง หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี

เครื่องรางชิ้นเยี่ยมชั้นยอดนี้ เป็น ๑ ในวัตถุมงคลของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่นักนิยมพระเครื่อง เครื่องรางของขลังที่รู้ลึก รู้จริง หากันมาก แต่ก็เวรี่ยากยิ่ง ที่จะได้เป็นเจ้าของ เพราะจำนวนของมีน้อย เล่าว่าเป็นวัตถุมงคลที่ หลวงพ่อแก้ว เขียน ลบผง ผสมมวลสารคลุกรัก ภาวนาปลุกเสก ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมสำหรับกดเป็นพิมพ์พระปิดตา ซึ่งมีผู้เข้าคิวจองกันมาก

ศิษย์ที่ช่วยท่านทำผงพระ เห็นพิธีการเขียน ลบผงพระพุทธคุณ พิธีกรรมการปลุกเสกแล้ว เกิดศรัทธา จึงขอท่านไปใช้บูชาติดตัว เพราะไม่อยากรอคิวรับพระ ท่านก็มอบให้

ผู้ได้รับก็จะนำไป ลงรักปิดทอง ใช้บูชาเป็นของ ขลังติดตัว และพบว่ามีพุทธานุภาพ ด้านมหาโชค มหาลาภ มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม สูงเหมือนพระปิดตา

ทำให้ มีผู้ต้องการมาก แต่ยากจะ เจอ เพราะเจ้าของที่มีอยู่ก็หวง และของมีน้อยมาก ที่สำคัญ ยากจะดูรู้ได้ว่าเป็นของแท้ของจริง เพราะไม่มีพิมพ์พระ หรือจุดตำหนิให้พิจารณา

ต้องอาศัยผู้รู้ ที่แม่นเนื้อ ดูอายุรักถึงยุคได้ชัดเจน อย่าง เสี่ยสถิต ราชบุรี เจ้าของ ลูกอม หลวงพ่อแก้ว เม็ดนี้ ที่ได้ชื่อตาถึงแล้วยังใจถึง มั่นใจชนิดกล้าจ่ายไปเกือบครึ่งล้านเชียว

มาถึงบอกลา ก่อนไปฉลองวาเลนไทน์ด้วยเรื่องปิดท้ายในวงสนทนา ของเจ้าสำนักแมวมอง ที่เสาะหาสาวสวยส่งประกวดเวทีระดับชาติ

นอกจากจะดูรูปร่างหน้าตา และดูสติปัญญาที่ไม่โง่เกินไปแล้ว เจ้าสำนักรายนี้ ยังเน้นเรื่องเครื่องรางของขลัง เพราะเชื่อถือศรัทธา ขนาดลงทุนเช่า พระนางพญา จากร้านดังในศูนย์พระเครื่องใหญ่ ไว้ให้นางงามติดตัวเข้าประกวด--ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นางงามในค่ายหลายคน ได้รับรางวัลตลอดมา

แต่มาถึงงานประกวดนางแบบซุปเปอร์โมเดลที่เป็นงานใหญ่เมื่อปีก่อน เจ้าสำนักก็จัดสาวงามในคอกเข้าประกวดอย่างมั่นใจ โดยให้ พระนางพญา ติดตัวไปเหมือนเคย แต่กลับแป้ก ตกเวทีตั้งแต่รอบแรกๆ

ทำให้เจ้าสำนักสงสัยว่า พระนางพญา อาจจะเสื่อม จึงไปปรึกษาเจ้าของร้านพระเครื่องคนเดิม ว่าสงสัยพระจะเสื่อมมนต์ขลังแล้วเพราะชั้นส่งนางงามประกวดซุปเปอร์โมเดล ให้พระไปบูชาติดตัวเหมือนเดิม แต่ตกรอบแรกเฉยเลย ขอเอาพระมาคืนได้ไหม

เจ้าของร้าน บอกคืนได้ ไม่มีปัญหา หักเปอร์เซ็นต์ตามสัญญานะ แต่ผมว่าที่นางงามตกรอบน่ะ ไม่ใช่เพราะพระเสื่อม แต่เป็นเพราะเจ๊ ให้นางงามใช้พระผิดกาลเทศะ

เพราะ พระนางพญา มีอานุภาพเสริมสง่าราศี ให้ผู้ใช้ดูดีกว่าคนอื่น เหมาะสำหรับผู้ใช้ประกวดนางงาม แค่เห็นหน้า เห็นตัวเฉยๆ ก็ชนะแล้ว

แต่นี่ เจ๊ให้นางแบบใช้ ซึ่งต้องเดินกรีดกราย โพสท่าลีลา ให้กรรมการดู จะเอา พระนางพญา ไม่เหมาะ มันต้องใช้ พระลีลาเม็ดขนุน ถึงจะถูกโฉลก--เจ๊เจ้าสำนักฟังแล้ว เออ มีเหตุผล เลยบอกว่า งั้น ไม่คืนพระนางพญาล่ะ และขอซื้อ พระลีลาเม็ดขนุน ด้วยเลย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง