เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา หม่อมดุ๊ก–ม.ล.พูนแสง สูตะบุตร ลดาวัลย์ ชวนน้องสาว หม่อมดิ๊ก–ม.ล.เติมแสง ลดาวัลย์ หม่อมดั๊ก–ม.ล.เพ็ญแสง ลดาวัลย์ ไปร่วมพิธี Farewell ทับสุข ที่ชลบุรี กันอย่างอาลัย และรำลึกความหลังให้ลูกหลานได้ฟังความเป็นมา ของ เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์ ที่ลูกหลานเรียกท่านว่า คุณยายจอม ว่า หลังเปลี่ยนการปกครอง 2475 เจ้านายที่ประทับใน วังสวนสุนันทา ต่างแยกย้ายออกไปประทับข้างนอก บ้างไปประทับต่างประเทศ เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์ พระสนมคนสุดท้ายใน รัชกาลที่ 5 จึงตัดสินใจไปลงปักหลักที่ วัดเขาบางทราย ชลบุรี เพื่อเรียนรู้ปฏิบัติธรรมกับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถระ เจริญ สุขบท) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งไปพำนักชั่วคราวนอกพรรษา เพราะท่านเป็นคนเมืองชล โดย เจ้าจอมสดับ ได้ขออนุญาต สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ เจ้าคุณเขมทัสสีชลธีสมานคุณ เจ้าอาวาส ขอสร้างที่พักอาศัย 4 หลังในบริเวณวัด เพื่ออยู่อาศัยกับเจ้านายหลายพระองค์ สร้างหมู่บ้านชาววัง


...

อาคารของ เจ้าจอมสดับ เรียกว่า ทับสุข ส่วนอาคารสีเหลืองใหญ่ 3 ชั้น เป็นที่อยู่ หม่อมช้อย ลดาวัลย์ ณ อยุธยา (มารดาของเจ้าจอมสดับ) และ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์เฉียด ในรัชกาลที่ 5 เจ้าจอม ม.ร.ว.หญิงสิงหรา คุณนุ่ม สิงหนาวิก ข้าหลวงของ สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา คุณลมุล ลดาวัลย์ ณ อยุธยา, แม่เป้า มุสิกะ พี่เลี้ยง ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล ข้างๆมีตำหนักมนารมย์ ของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามาลิศ เสาวรส ใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี


หลังสร้างบ้านทับสุข เจ้าจอมสดับ ขอหลานสาว คือ ม.ล.พูนแสง ลดาวัลย์ จากน้องชาย ม.ร.ว.แสงสูรย์ ลดาวัลย์ มาเลี้ยง เพราะช่วงนั้น คุณชายแสงสูรย์ รับราชการอยู่แม่ฮ่องสอน ม.ล.พูนแสง จึงเติบโตที่ ทับสุข ตั้งแต่อายุ 11 เดือนถึง 11 ปี จนปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ม.ร.ว.แสงสูรย์ ลาออกจากราชการ ตามมาอยู่ที่ ทับสุข ก่อนเข้าไปรับราชการในสำนักเลขานุการ สำนักพระราชวัง จึงรับลูกสาว หม่อมดุ๊ก–ม.ล.พูนแสง ไปเรียนมัธยมต้น ในกรุงเทพฯ ส่วน เจ้าจอมสดับ ยังประทับที่ ทับสุข จนถึง พ.ศ.2506 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าจอมสดับ เข้าพำนัก ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อความปลอดภัย เพราะมีอาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อย รวมทั้งการลอบปลงพระชนม์พระนางเธอ ลักษมีลาวัณเพื่อทรัพย์สิน--เจ้าจอมสดับ จึงจัดตั้ง ทับสุข เป็น โรงเรียนอนุบาลสุตา ไว้เป็นสมบัติของวัดเขาบางทรายต่อไป ซึ่งได้เปิดสอนมาในระดับประถมมานานถึง 62 ปี

...
จนวันที่ 9 มีนาคม 2568 ได้ทำพิธีมอบประกาศนียบัตรสำหรับนักเรียนที่จบประถมศึกษาปีที่ 6 รุ่นสุดท้ายของโรงเรียนที่จะปิดการเรียนการสอนลง ซึ่ง ม.ล.พูนแสง ชวนลูกหลานสายสกุล ลดาวัลย์ อาทิ ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร อาภาวัลย์ ลดาวัลย์ พุทธิพล–พุทธิ โกศลกุล ฯลฯ และศิษย์เก่ารุ่นแรกๆ อาทิ ผอ.โรงเรียนสุตา อ.ชลรัตน์ ชลมารค ที่เกิดและโตในทับสุข ไปร่วมพิธีอำลา และมอบ ทับสุข ให้วัดเขาบางทราย พระอารามหลวง จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์.
โสมชบา
คลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม