เตรียมพร้อมชมศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2568

...
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...ในห้วงที่ฝ่ายค้าน ภายใต้การนำของ พรรคประชาชน ตีปี๊บโหมโรงการเปิดเวทีซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แบบจับเชือดเดี่ยว โดยพุ่งเป้าถล่มสารพัดเรื่อง “ดีลแลกประเทศ” ในวันที่ 24–25 มี.ค. นี้...ล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาระบุถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นว่า พร้อมเต็มที่ เตรียมข้อมูลกันไป พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการที่ ฝ่ายค้าน จะใช้การอภิปรายเน้นธีม ดีลแลกประเทศ นั้น ไม่มีอยู่แล้ว ใครเขาจะไปแลกประเทศ ใครมาอยู่ตำแหน่งตรงนี้จะไปแลกประเทศ หรือแลกอะไร มันไม่ใช่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ก็สร้างธีมให้มีสีสันจะได้น่าติดตาม...และเมื่อนักข่าวบอกว่า ดีลแลกประเทศ ที่ ฝ่ายค้าน จะอภิปราย คือการเอาผลประโยชน์ของ ตระกูลชินวัตร มาแลกกับ ผลประโยชน์ประเทศ แลกกับการกลับมาของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ทำให้ นายกฯแพทองธาร ตอบสวนกลับทันควัน “ตระกูลชินวัตรได้อะไร ได้คุณพ่อกลับมา เป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป มันไม่ใช่จะเป็นเรื่องเดียวตลอดไป และจะทำอะไรก็ตามไม่ใช่เป็นการดีลแลกไปหมด ต้องใช้เหตุผลด้วย อย่าใช้แต่อารมณ์”

คำถามของนักข่าวเหมือนเป็น ข้อสอบซ้อม ของ นายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่เมื่อถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ 24 มี.ค. นี้ ต้องเจอ ข้อสอบจริง ของ ฝ่ายค้าน ที่เชื่อว่าต้องทั้งหินทั้งโหด นายกฯแพทองธาร จะชี้แจงให้ สอบผ่าน ใน สายตาประชาชน ไปได้หรือไม่ และสามารถใช้ วุฒิภาวะความเป็นผู้นำ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้รึเปล่า ต้องติดตามชมกันด้วยความระทึก

...
อืม...ควันหลงจากการที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นำ คณะสื่อมวลชน เดินทางไปเมืองซินเจียงเพื่อดูชีวิตความเป็นอยู่ของ ชาวอุยกูร์ หลังถูกส่งกลับประเทศจีน ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยได้ไปเยี่ยมเยียนพบปะพูดคุยกับ ชาวอุยกูร์บางคน ที่ทางการไทยส่งกลับไป พบว่าได้ใช้ชีวิตอยู่กับ ครอบครัวอย่างมีความสุข ไม่ได้โดนกักขัง ทรมาน อย่างที่กังวลกัน

...
อย่างไรก็ตาม กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการเดินทางไปเยี่ยมเยือน ชาวอุยกูร์ ของคณะ รองนายกฯภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี โดยระบุว่า ได้เห็นจากภาพข่าวที่ออกมามี ชาวอุยกูร์ 4 คน ที่ รองนายกรัฐมนตรี ไปพบ 2 คน และ รมว. ยุติธรรม ไปพบอีก 2 คน ส่วนอีก หนึ่งคน เป็นการพูดคุยผ่านระบบซูม การไปเยี่ยมแบบนี้ทุกคนทราบว่าเป็นรูปแบบอย่างไร ในความเป็นจริงการเดินทางไปดูต้องแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นใครอยู่ที่ไหน และในภาพเห็นแค่ 4 คน เท่านั้น ไม่สามารถบอกได้ว่าอีก 30 กว่าคน ไปไหน สื่อมวลชน เองก็เหมือนกัน ก็โดนเลือกไปเหมือนกันว่าจะมีใครไปได้ ฉะนั้นมองว่าไม่ตอบโจทย์...เป็นการแก้เกม การโชว์ ไม่ตอบโจทย์ความเป็นจริง เช่น รูปต่างๆที่เห็นก็มีการ เบลอหน้า ทุกคน รวมทั้ง เจ้าหน้าที่จีน มีเพียง เจ้าหน้าที่ไทย ที่ไม่ต้องเบลอหน้า ทำไมเราถึงไม่สามารถมองเห็นได้ ถ้าบอกว่าการเดินทางกลับไปในครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนในเรื่อง ผู้ลี้ภัย ทุกคนตอนนี้จะไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไปต้องกลับไปคืนสู่สังคมได้แล้วเขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป นี่เป็นสิ่งที่ยังค้างคาใจ

...
“ธนูเทพ” นึกอยู่แล้วว่าต้องมีคนจับผิดเรื่อง การเบลอหน้าชาวอุยกูร์ ในรูปภาพ แต่นึกไม่ถึงว่า สส.ที่ชอบเชิดชู หลักสิทธิมนุษยชน จะเผลอแสดงเห็น ย้อนแย้งกับหลักการ เพียงเพราะต้องการจะดิสเครดิต คณะรองนายกฯ รมว.ยุติธรรม และ สื่อมวลชน ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เยี่ยมเยียน ชาวอุยกูร์ ในครั้งนี้ โดยหยิบยกเรื่อง การเบลอใบหน้าชาวอุยกูร์ ที่อยู่ในภาพข่าวมาเป็นประเด็น เหมือนจงใจมองข้าม หลักการ เรื่อง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของ ชาวอุยกูร์ ที่ถูกคุมขังมา 10 กว่าปี ก่อนจะได้รับอิสระส่งกลับไปประเทศบ้านเกิดเมืองนอน แสดงเจตนาเหมือนต้องการให้มีการ เปิดเผยใบหน้าพวกเขา บนหน้าสื่อที่ต้องถูกเผยแพร่ตีแผ่ไปทั่วโลก แถมยังใช้คำพูดฉวัดเฉวียนเกี่ยวกับการไปทำหน้าที่ของ บรรดาสื่อมวลชน ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะอีกต่างหาก...มุ่งเน้นเกมการเมืองมากไป ระวังจะเข้าตำราปลาหมอตายเพราะปาก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ

ฮัดชิ้ว...จากการที่ วุฒิสภา ได้มีการลงมติเพื่อให้ความเห็นชอบ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และ ชาตรี อรรจนานันท์ ที่คณะกรรม การสรรหาเสนอชื่อเป็น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนตำแหน่งที่ว่างลง แต่ได้รับเสียงเห็นชอบ ไม่เกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สว.ที่มีอยู่ ถือว่า ไม่ได้รับเลือก ต้องไปสรรหากันใหม่...ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ จะมีการประชุม วุฒิสภา วาระการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทนที่ตำแหน่งที่ว่างลง โดยมีชื่อบุคคล 3 คน ที่ผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมการสรรหาฯ โดย คณะกรรมาธิการสอบประวัติฯ จะต้องนำชื่อบุคคลเข้าสู่ที่ประชุม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจะถูกสกัดจากบรรดา สว.สายสีน้ำเงิน หรือไม่ เพราะมีเสียงนินทาหนาหูหากไม่ใช่ คนของสายสีน้ำเงิน ต้องโดนที่ประชุมวุฒิสภาตีตก...แถมล่าสุด นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มสีขาว ออกมาแฉโพยบอกใบ้ทำนองว่าถ้าไม่เคยไปเที่ยว จังหวัดบุรีรัมย์ มักถูกตีตก จริงหรือไม่ต้องจับตาดู

สังคมทั่วไป
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฉลองสมรส สุไพรพล เพ็ญแข กับ จักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ 23 มี.ค. 18.00 น.
ศพ คุณหญิงชอุ่มศรี วีรานุวัตติ์ ตั้งสวดศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตรฯ 23 มี.ค. คืนสุดท้าย

"ธนูเทพ"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม