หลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ กลับมาเปิดให้บริการเมื่อช่วงปลายปี 2567 เป็นที่กล่าวขานถึงมากในเรื่องการนำอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม เดินทางข้ามผ่านกาลเวลา และผสมผสานได้อย่างลงตัว จนเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม และงานออกแบบภายในของยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำความวิจิตรของงานศิลปะทั้งของเดิมและของใหม่ที่ได้รับการรังสรรค์โดยศิลปินไทยรุ่นใหม่ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานอินทีเรียดีไซน์ชนิดไร้รอยต่อ

หนึ่งในชิ้นงานสำคัญที่ถูกเก็บรักษาและนำมาเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมโฉมใหม่ คือต้นเสาขนาดใหญ่น้ำหนักต้นละ 5 ตัน จำนวน 2 ต้น ที่มีงานจิตรกรรมไทยผลงาน “อาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ” หรือ “ท่านกูฎ” ซึ่งรังสรรค์ให้โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม เมื่อ 50 กว่าปีก่อน และเนื่องในโอกาสชาตกาล 100 ปีของ “ท่านกูฎ” ในปีนี้ ทางโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ จึงจับมือกับทายาทตระกูลสุวรรณกูฎดำเนินการบูรณะงานจิตรกรรมบนผนังเสา ณ บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม

จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี
จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี

...

ปกติการบูรณะงานจิตรกรรมมักเกิดขึ้นในวัด และโบราณสถาน ทว่ากิจกรรม “Murals Restoration” กำลังเกิดขึ้นใจกลางล็อบบี้ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ “Live Art Exhibition” และยิ่งหาชมได้ยากสุดๆ เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปินรุ่นครู ร่วมกับทายาทท่านกูฎ คือ “อาจารย์ภาพตะวัน สุวรรณกูฎ” และ “อาจารย์กาพย์แก้ว สุวรรณกูฎ” ช่วยกันบูรณะผลงานของบรมครูให้ได้ชมกันสดๆใจกลางล็อบบี้โรงแรมห้าดาว ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เปิดประสบการณ์ และเรียนรู้จากศิลปินรุ่นครู ในการอนุรักษ์ชิ้นงานที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน

จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี
จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี
จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี

การบูรณะงานจิตรกรรมบนผนังของต้นเสาขนาดใหญ่ยักษ์นี้ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักๆ ทางช่างศิลป์จะเริ่มดำเนินการเก็บลวดลายต้นฉบับของเดิมด้วยการลอกลาย เพื่อนำลายเส้นที่ทำการลอกลายไว้ไปทำเป็นภาพพิมพ์ลายฉลุ ลายที่ได้หลังจากการบูรณะจะมีความถูกต้องตรงตามผลงานต้นฉบับ หลังจากลอกลายต้นฉบับเก็บไว้แล้ว จึงขัดผิวผนังด้านนอกของเสาออก เพื่อเตรียมผนังให้พร้อม

จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี
จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี

...

ขั้นต่อมา ช่างศิลป์จะเริ่มลงลายวาด ลงลายเส้นผ่านภาพพิมพ์ลายฉลุบนผนังของต้นเสา จากนั้นจะเริ่มลงสี ซึ่งช่างศิลป์และทายาทของท่านกูฎได้ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องสี เพื่อให้แน่ใจว่าสีที่ลงใหม่จะไม่ดูแปลกตาไปจากสีเดิมของผลงานต้นฉบับ ความท้าทายในขั้นตอนการลงสีคือสีที่ใช้ในปัจจุบันแตกต่างกับที่ท่านกูฎใช้เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน ซึ่งสีสมัยก่อนได้มาจากการนำแร่สีต่างๆไปบด และผสมกับสีจากธรรมชาติ ดังนั้นเนื้อสีจึงมีความแตกต่างกับสีในยุคปัจจุบัน ส่วนขั้นสุดท้ายเป็นการเก็บรายละเอียดของลายวาด และสี เพื่อให้งานที่ได้จากการบูรณะ ทั้งลายเส้นและลายพู่กันทุกลายมีความงดงามใกล้เคียงที่สุดกับงานต้นฉบับ

จิบชาดูจิตรกรรมไทยที่ดุสิตธานี

ในโอกาสพิเศษนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้รังสรรค์ “ชุดน้ำชายามบ่ายตำรับไทย” ด้วยแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมด้านอาหารไทย ในอดีต ผนวกกับชีวิตและผลงานของ “อาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ” ให้บริการที่บริเวณแกรนด์ ล็อบบี้ บาร์ เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการเสพงานศิลป์ ชมการบูรณะงานจิตรกรรมเป็นไปอย่างครบรส โดย “ชุดน้ำชายามบ่ายตำรับไทย” เนื่องในโอกาสร้อยปีชาตกาลของท่านกูฎ จะมีให้บริการไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. ในราคา 2,450++ บาท ต่อ 1 ชุดสำหรับสองท่าน (สงวนสิทธิ์เฉพาะท่านที่สั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2200 -9000 หรืออีเมล dtbk@dusit.com.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่