ผู้ออกกฎหมายไม่ได้อยู่เหนือกติกากฎหมาย
หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568

...
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...จากการที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอให้แก้ไขญัตติขอเปิดไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการระบุชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติ อาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถมาชี้แจงในที่ประชุมสภาฯได้ จึงขอให้แก้ไขตัดรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ...ขณะที่ แกนนำพรรคประชาชน ดาหน้าออกมาตอบโต้ว่าไม่ใช่อำนาจของ ประธานสภาฯ ที่จะสั่งให้ แก้ไข เนื้อหาในญัตติ และบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ รวมทั้งข้อบังคับการประชุมสภาฯ ก็ไม่ได้ห้ามการระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงมีหน้าที่ต้องบรรจุระเบียบวาระ

ขณะที่ ณัฐพงษ์ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ทำหนังสือโต้แย้งส่งถึง ประธานวันนอร์ โดยระบุว่า มาตรา 151 มิได้ให้อำนาจแก่ ประธานสภาฯ ใช้ดุลพินิจวินิจฉัยเนื้อหาญัตติ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ กำหนดให้ ประธานสภาฯ ตรวจสอบว่าญัตติมีข้อบกพร่องหรือไม่ เช่น มีรายชื่อผู้เสนอไม่ครบตามเกณฑ์ การที่ประธานสภาฯใช้อำนาจโดยอ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ตีความในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการตีความกฎหมายที่ลุแก่อำนาจ ส่งผลกระทบร้ายแรง และทำลายอำนาจ ฝ่ายนิติบัญญัติ ในการควบคุมตรวจสอบฝ่ายบริหาร...ผู้นำฝ่ายค้าน ยังระบุด้วยว่า ข้อบังคับการประชุมสภาฯไม่ได้มีข้อห้ามมิให้ระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหา และข้อบังคับ ข้อ 178 กำหนดให้การอภิปรายของ สส.ผู้ใดที่อาจเป็นเหตุให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่นายกฯ หรือรัฐมนตรีหรือ สส.เสียหาย สส.ผู้นั้นต้องรับผิดชอบผลแห่งการกระทำนั้นเอง...ออกอาการดื้อแพ่ง คัดค้านทัดทานการใช้อำนาจวินิจฉัยของประธานสภาฯ

...
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา คัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงชี้แจงหนังสือโต้แย้งของผู้นำฝ่ายค้านว่า ข้อบังคับการประชุมสภาฯ เรื่องการเปิดอภิปรายทั่วไป กำหนดอำนาจและหน้าที่ให้ประธานสภาฯไว้ชัดเจนในการตรวจสอบความถูกต้องของญัตติ หากมีข้อบกพร่องให้ ประธานสภาฯ แจ้งผู้เสนอญัตติทราบภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้ญัตติเพื่อให้แก้ไขให้ถูกต้อง โดยข้อบังคับไม่ได้มีการกำหนดนิยามคำว่าข้อบกพร่องไว้อย่างชัดเจน จึงเป็นอำนาจของ ประธานสภาฯ ที่จะใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัย หากมีการแก้ไขญัตติถูกต้องเรียบร้อยแล้ว จึงจะสั่งเข้าบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน และแจ้งให้ ครม. ทราบ...โฆษกประธานสภาฯ ระบุด้วยว่า เมื่อพิจารณาจาก ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 178 และข้อ 69 แล้วจะเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจห้ามผู้อภิปรายออกชื่อบุคคลใดโดยไม่จำเป็น และการอภิปรายที่อาจทำให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ นายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี หรือ สส. ได้รับความเสียหายถือเป็นการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม สส.ผู้นั้นต้องรับผิดชอบ ประธานสภาฯ ต้องการให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประโยชน์แก่ชาติและประชาชน จึงเห็นว่าหากปล่อยให้ ชื่อบุคคลภายนอก อยู่ในญัตติ จะเกิดความเสียหายและความไม่เรียบร้อยในที่ประชุม ซึ่ง ประธานสภาฯ จะต้องรับผิดชอบด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยข้อบกพร่องของญัตติดังกล่าวที่ระบุ ชื่อบุคคลภายนอก ไว้ ซึ่งไม่สามารถทำได้ จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถบรรจุเข้าระเบียบวาระได้

...
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำทับว่าการใช้ดุลพินิจของ ประธานสภาฯ ได้ให้ สำนักการประชุม ตรวจสอบดูในอดีต ซึ่งพบว่าการกล่าวถึง บุคคลภายนอก ไว้ในญัตตินั้นไม่มีแต่ใช้คำว่า บุคคลในครอบครัว อดีตสมาชิกฯ จะไม่ระบุชื่อโดยตรง โดย เฉพาะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องอยู่ในกรอบนี้ ประธานสภาฯ จึงถือเป็น บรรทัดฐานในการใช้ดุลพินิจครั้งนี้

...
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ประธานวันนอร์ เป็นผู้มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญการทำหน้าที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มายาวนาน แม่นข้อบังคับ มีความรอบคอบรัดกุม แถมมี ทีมที่ปรึกษา ทีมกฎหมาย ที่เชี่ยวชาญ รัฐธรรมนูญ และ ข้อบังคับการประชุมสภาฯ คอยกลั่นกรองข้อมูล แบบแน่นปึ้ก...งานนี้ หากฝ่ายค้านยังทำมึน ดื้อแพ่ง หวังใช้เหลี่ยมกฎหมายในมุมของตัวเองฝ่ายเดียวมางัดง้างกับอำนาจของประธานสภาฯ ระวังสุดท้ายแล้วจะได้ไม่คุ้มเสีย

ฮัดชิ้ว...มหากาพย์ใน แวดวงสีกากี เดินมาถึงฉากสำคัญ เมื่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.
สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และงดบำเหน็จบำนาญ ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาเพื่อเสนอแนะการลงโทษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมูลเหตุจากกรณีถูกดำเนินคดีฐานร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับ เว็บพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดย ศาลอาญา มีคำสั่ง ออกหมายจับ และโดนสอบสวนวินัยร้ายแรง โดย คณะกรรมการ ตร. เสนอความเห็นให้ ผบ.ตร. มีคำสั่งไล่ออกจากราชการ...อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้อีกช็อต รวมทั้งยังมีโอกาสไปร้อง ศาลปกครอง อีกกระทอก

ประสา “ธนูเทพ” ดูจากรูปการณ์เชื่อว่างานนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ คงไม่ยอมง่ายๆ ต้องดิ้นสู้สุดฤทธิ์แน่ เพราะต้องไม่ลืมว่า ฉายาแมวเก้าชีวิต ไม่ใช่ได้มาโดยบังเอิญ จบข่าว

สังคมทั่วไป...ศพ ทันตแพทย์ชำนาญ ชนะภัย ตั้งสวดศาลา 150 ปี วัดมกุฏกษัตริยาราม 18.30 น. 14 มี.ค. คืนสุดท้าย พระราชทานเพลิง 15 มี.ค. 14.00 น.
"ธนูเทพ"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม