หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2568

...
“เพลิงสุริยะ” รายงานตัวรับใช้ท่านผู้อ่าน........จักรวาลการเมืองของประเทศไทยยังคงหมุนรอบตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ........ผู้สถาปนาตำแหน่งให้ตัวเอง สทร. ที่เป็นทั้ง จุดแข็งและจุดอ่อน ในตัวคนเดียวของ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผู้เป็นลูกสาว........ล่าสุดก็ทำเอาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แบบยิงโดด นายกฯเพียวๆ คาราคาซัง ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปต่อหรือพอกันแค่นี้........จะให้ดี อดีตนายกฯทักษิณ น่าจะออกมา โชว์แมน กันไปเลย ว่าจะให้ฝ่ายค้านพูดถึงได้หรือไม่

งุนงงกับบทบาทของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อาศัยอำนาจประธานสภา งัดแท็กติกทางกฎหมาย ขึ้นมา สกัดการเปิดซักฟอกของพรรคร่วมฝ่ายค้าน........ดึงเกมยื้อการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เข้าสู่วาระการประชุม........ยื้อยุดฉุดกระชากกันมาจะร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ยังคงวนเวียนอยู่แค่ว่า จะถอน–ไม่ถอนชื่อทักษิณ ชินวัตร ออกจากตัวญัตติ
แทนที่ วันมูหะมัดนอร์ ในฐานะ ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่คือการ บริหารกิจการในสภา ควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ควรเล่นบท ท้าวมาลีวราช เรียกประชุม วิป 3 ฝ่าย แก้ปัญหาหาทางลง........แต่ดันสวมบทตัวเปิดเกม ออกมาทักท้วงเรื่อง ความเป็นคนนอกของทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงแก้ต่างในที่ประชุมได้ ก่อนคนของพรรคเพื่อไทยซะอีก

...
ท่าทางขึงขังดุดัน ขู่สำทับต่อเนื่องกันมาหลายวัน ถ้าฝ่ายค้านไม่แก้ไขถอนชื่อทักษิณออกจากญัตติ ก็จะไม่บรรจุวาระให้ แถมออกตัวล่วงหน้าว่าที่ทำไปทั้งหมดไม่ใช่อคติ หรือรับงานใครมา........แต่ดูไปแล้วนับว่าผิดฟอร์มไปจาก “อาจารย์วันนอร์” คนก่อน ที่จะไม่แข็งกร้าวดุดันขนาดนี้........งานนี้ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องมีอันล่มปากอ่าว คนที่ เสียกับเสียก็คือ รัฐบาลนายกฯแพทองธาร และตัวประธานสภา เอง........ที่ยอมเปลืองตัวขนาดนี้เพราะอะไร เข้าใจได้
จึงไม่แปลก ที่ฝ่ายค้านจะตั้งข้อสงสัย ว่ามีการ รับใบสั่ง “นายใหญ่” มาล้มญัตติซักฟอกหรือไม่ ........ขณะที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้าน ยืนยันเสียงแข็งไม่ยอมถอนชื่อ ทักษิณ พร้อมซักฟอกประธานสภาไปกลายๆ

...
“การที่ประธานสภาฯใช้อำนาจ โดยอ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ตีความในทางเป็นปฏิปักษ์ต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นการใช้และตีความกฎหมายที่ลุแก่อำนาจที่รัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาฯกำหนดไว้ ส่งผลกระทบร้ายแรง ทำลายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการควบคุมตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร”........จบเห่
วี้ดวิ้ว ........มาแล้ว เงินหมื่นเฟส 3 รอบนี้เอาใจวัยโจ๋ เมื่อ นายกฯแพทองธาร นั่งหัวโต๊ะประชุม บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ไฟเขียวแจกให้กลุ่มอายุ 16–20 ปี ราวๆ 2.7 ล้านคน........รอบนี้บังคับใช้ผ่าน แอปฯทางรัฐ นำร่องก่อนจะใช้ เงินดิจิทัล อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมปลดล็อกกลุ่มสินค้าต้องห้าม ฯลฯ และน่าจะได้ใช้กันในช่วง มิ.ย.–ก.ค.นี้........ส่วนกลุ่มที่เหลือ 21–59 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด อดทนรอกันไปก่อนนะจ๊ะ........เพราะถึงยังไงรัฐบาลก็ต้องเร่งใช้งบก้อนนี้ ให้จบสิ้นภายใน ปีงบประมาณ 68 นี้ คือไม่เกินช่วงเดือน ก.ย. ก่อนปิดงบปีบัญชี

...
แต่คงได้ไม่ทั่วถึงแน่นอน เพราะเหลือเงินที่จะใช้ในโครงการอีกเพียง 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่มียอดผู้ลงทะเบียนไว้ถูกต้องราว 20 ล้านคน........มันเป็นความอิหลักอิเหลื่อ ต้องแจกทั้งที่ไม่พร้อม จากที่คาดหวังจะให้เงินสะพัดเป็นพายุหมุน ดันกลายเป็นลมบ้าหมูซะงั้น ........พัดผ่านมาแล้วก็วูบหายไป........แถมยังเปิดช่องให้ พวกนักร้องตกงาน ใช้ตลบหลังเอาได้

หันไปดูความมั่งคั่งของพวก อภิมหาเศรษฐีโลก กันบ้าง หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ รีเทิร์นกลับมามีอำนาจรอบสอง ........บลูมเบิร์ก รายงานสภาวะเงินในกระเป๋าของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกที่ยืนเคียงข้าง ทรัมป์ แค่ในช่วงไม่ถึง 7 สัปดาห์ ต้องเผชิญกับความสูญเสียทั้ง มูลค่าทรัพย์สินและมูลค่าหุ้น มหาศาล........รายแรก อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อ Tesla ความมั่งคั่งลดลง 148,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5 ล้านล้านบาท ปัจจัยหลัก คือ มูลค่าหุ้นและยอดขายของ Tesla ในยุโรป ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ
รายต่อมา เจฟฟ์ เบโซส เจ้าของอีคอมเมิร์ซ Amazon.com ความมั่งคั่งลดลง 29,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.8 แสนล้านบาท จากมูลค่าหุ้นของแอมะซอนที่ลดลง 14% นับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.เป็นต้นมา........รายถัดไป เซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Google กับแลร์รี เพจ ความมั่งคั่งลดลง 22,000 ล้านดอลลาร์ ราวๆ 7.5 แสนล้านบาท เมื่อหุ้นของ Alphabet ที่เป็นเจ้าของ Google ร่วงลงมากว่า 7% ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตัวพ่อของ Meta และ Facebook ความมั่งคั่งลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์ ราว 1.7 แสนล้านบาท จากมูลค่าดัชนี 7 หุ้นนางฟ้าสหรัฐฯ ลดลง 20%
รายสุดท้าย เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของอาณาจักร LVMH ที่เป็นมิตรกับ ทรัมป์ มาหลายสิบปี ความมั่งคั่งลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์ ราว 1.7 แสนล้านบาท จากผลกระทบเต็มๆกับมาตรการภาษีที่ ทรัมป์ จะเรียกเก็บกับสินค้าหรูหราจากยุโรป 10–20%
รวมแล้วสูญเสียทรัพย์สินรวมกันถึง 209,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7 ล้านล้านบาท

ทั้งหมดเป็น 5 อภิมหาเศรษฐี ที่นั่งอยู่ข้างหลังทรัมป์ ในโดมของรัฐสภา ในวันกล่าวปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีฯ........โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งโลกของแทร่
กำหนดการพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่พจนีย์ ณ ป้อมเพชร วันเสาร์ที่ 15 มี.ค. เวลา 17.45 น. แสดงพระธรรมเทศนา เวลา 18.30 น. พิธีสวดพระอภิธรรม ณ ศาลา 150 ปี วัดมกุฏกษัตริยาราม วันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. เวลา 10.30 น. พิธีสวดมาติกาบังสุกุล และถวายเพล เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานเพลิง
"เพลิงสุริยะ"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม