หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2567
...
เศรษฐกิจนำการเมือง ข้อมูลเศรษฐกิจโดย ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผย ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 3 ปีนี้ หนี้ครัวเรือนเฉพาะไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 16.32 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.3 แต่ชะลอลงจากร้อยละ 2.3 ในไตรมาสแรก...ทำให้ สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ปรับลดลง จากร้อยละ 90.7 ของไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 89.6 เป็นการปรับลดลงมาต่ำกว่าร้อยละ 90 ในรอบ 4 ปี
แต่เมื่อสรุป สัดส่วนหนี้ครัวเรือนทั้งหมด ในขณะนี้อยู่ที่ 91.2% ต่อ GDP.....แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า คนไทยมีหนี้เพิ่มขึ้น แต่จำนวนน้อยลง....ชีวิตนี้เป็นหนี้วันยังค่ำ......เพราะที่ หนี้ครัวเรือนลดลง ไม่ใช่เพราะ ชาวบ้านสร้างหนี้น้อยลง...แต่ สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อยากมากขึ้น......จะกู้เงินซื้อบ้านแต่ละหลังต้องสืบประวัติกันสามชั่วโคตร.....เมื่อสะท้อนจาก เงินให้กู้ภาคครัวเรือนของธนาคารพาณิชย์ พบว่ามีสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 38.5 ของหนี้ครัวเรือนที่มีการหดตัวที่ร้อยละ 1.2
...
นอกจากนี้ยังพบว่า ยอดคงค้างสินเชื่อบุคคลที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ในฐาน ข้อมูลเครดิตบูโร มีมูลค่า 1.16 ล้านล้านบาท.....ตีความได้ว่าหนี้จำนวนนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้เสียในอนาคตอันใกล้นี้......คิดเป็นสัดส่วนสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 8.48....เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 8.01 ของไตรมาสที่ผ่านมา
สภาพัฒน์ ยังวิเคราะห์ต่อไปว่า มีแนวโน้ม การก่อหนี้ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด....คงไม่ต้องเดาให้เมื่อยตุ้ม ชาวบ้านจะหันไปกู้หนี้นอกระบบ เพื่อนำมาใช้จ่าย เพิ่มมากขึ้นในสัดส่วนที่มีการปล่อยสินเชื่อในระบบที่ยากขึ้น....ให้จับตา หนี้สินเชื่อซื้อบ้านที่มีวงเงินต่ำกว่า 3 ล้านบาท....จะมีผลกระทบในลำดับแรกจะก่อให้เกิดหนี้เสีย....จากความสามารถในการชำระหนี้ลดลง
...
ดังนั้น เรื่องของกำลังซื้อที่ซบเซา ก็จะซบเซาต่อไป และซบเซามากยิ่งขึ้น....ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาคแรงงานหาเช้ากินค่ำ ที่มีจำนวนผู้ใช้แรงงานอยู่ประมาณ 40 ล้านคน.....อยู่ในสภาวะไม่ตายแต่ไม่โต....แม้แต่ การจ้างงานภาคเกษตรกร ที่เป็นฐานคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.4....บวกกับผลกระทบจากการปรับตัวภาคอุตสาหกรรม ที่เปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคนมากขึ้น...และ ภัยธรรมชาติ ที่ยากจะป้องกัน....ยังไม่รวมกับผลกระทบจาก นโยบายทรัมป์ ในอนาคต
...
ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยลบต่อ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการแก้ปัญหาหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ.....ระบบภาษีใหม่ และ สวัสดิการจากรัฐที่จะลดลงไปตามรายได้ภาครัฐ......แถมท้ายด้วยการที่ต้องรับมือกับ สังคมผู้สูงอายุ ที่จะเป็นภาระให้กับรัฐบาลต้องรับผิดชอบตามมา......สงสัยงานนี้รัฐบาลเอามือก่ายหน้าผากอย่างเดียวคงไม่พอ
โฟกัสไปที่ การประชุม ครม.นอกสถานที่...ที่ จ.เชียงใหม่ นำโดย นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 29 พ.ย.นี้.....นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ เตรียมนำ โครงการช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกรกลุ่มชาวนา ที่จะได้รับเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่
มีเกษตรกรที่จะได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน....ในวงเงิน 38,000 ล้านบาท... โดยเป็นงบประมาณกรอบวงเงินเดิมจาก ธ.ก.ส. 29,000 ล้านบาท...ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเร่งเพิ่มผลผลิตในระยะยาว ตามมติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและการบริหารข้าวแห่งชาติ...จัดไป
การเมืองยังเล่นชกใต้เข็มขัด กันต่อไป กรรมาธิการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร มีพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.พรรคประชาชน เป็นประธาน....พิจารณาปัญหาข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง ใน จ.บุรีรัมย์...เตรียมเชิญทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม มาชี้แจง.....ระบุเป็นหน้าที่ของ การรถไฟ ที่จะต้องพิสูจน์ว่า เป็นผู้ครอบครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาล....ให้เหตุผลไม่อยากให้เรื่องนี้จบไปแบบเงียบๆ
เช่นเดียวกับปัญหา MOU44 ที่นักร้องไปจับมือกับแกนนำพันธมิตรเคลื่อนไหวอีกกระทอก....สุดจัดปลัดบอก.....ส่วน แกนนำพรรคประชาชน นำโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค จะออกมาจี้จุดว่า แม้ผู้สมัครของพรรคจะแพ้การเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี แต่มีแต้มเพิ่มขึ้นได้รับคะแนนร้อยละ 41.53 จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ....ก็แพ้ พรรคเพื่อไทย ไปกว่า 5 หมื่นคะแนนอยู่ดี.....โตแล้ว โตอยู่ โตต่อไป จนกว่าจะโต
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยผลประกอบการ 9 เดือนแรกในปี 2567....ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 80,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,502 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ...ผลจากการเพิ่มอัตราผลิตก๊าซในเดือน มี.ค. มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น...ยกเว้นธุรกิจการกลั่นที่ปรับลดลง การขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ธุรกิจก๊าซมีผลการดำเนินงานลดลง รวมถึงการด้อยค่าสินทรัพย์ธุรกิจปิโตรเคมี
ทั้งนี้ มีการนำเงินส่งรัฐ รวม 42,669 ล้านบาท ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
สังคมวันนี้
เวลา 09.30 น. ประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติทางสัตวแพทย์และการเลี้ยงสัตว์ ครั้งที่ 46 ประจำปี 2567 จัดโดยสัตวแพทย์สมาคมแห่งประเทศไทย และสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของ 2 วิชาชีพ และนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัย สนับสนุนการเลี้ยงสัตว์ให้มีสุขภาพดี ตามแนวทางสุขภาพคน สุขภาพสัตว์และสิ่งแวดล้อมหนึ่งเดียว ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์
"อินทรีเหล็ก"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม