งาน คอลัมนิสต์ข่าวสังคม ทำให้โสมชบาวนเวียนอยู่ในแวดวง High Society, celebrity ซึ่งทำให้รู้ (และสอดรู้) เรื่องผู้คนมากมายว่า Who What When Where Why และเหมือนหลายสื่อมวลชน ที่นำเสนอภายใต้กฎหมายอย่าง (ค่อนข้าง) ดีมาก แม้จะได้ยินได้ฟังเรื่องที่ ลึกและลับ ก็แค่ รับรู้ ต่างจาก สื่อโซเชียล ที่บางสื่อเสนอ ตามใจชอบ เพราะเห็น จุดอ่อนของรัฐ รวมทั้ง กระทรวงดิจิทัล ซึ่งป่านนี้ก็ยังปราบ สื่อที่สร้างความเสียหาย ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ยอมรับได้บ้างว่า ถึงจะ สุดโต่ง แต่บาง สื่อโซเชียล ทำให้สังคมได้ประโยชน์ จากการเปิดโปง จับโป๊ะ ตีแผ่ แฉแหลก คนที่ดูน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง ดูดีมีเกียรติ แต่เบื้องหลังคือสร้างความเสื่อมและทราม--ที่กำลัง talk of the town ก็ยกให้ ดิ ไอคอน ที่ทำให้ เครือข่ายขายตรง เดือดร้อน เพราะส่วนใหญ่อยู่ในระดับ รากหญ้า เพราะพื้นฐานชีวิตไม่เอื้อให้มีโอกาสที่ดีกว่าที่เป็นอยู่--พร้อมๆกับ ดิ ไอคอน ยังทำให้รู้พฤติกรรมของคนระดับ ยอดหญ้า ที่น่าอึ้ง ทั้งบอสๆ และดารา ทั้ง เจ๊พัช ที่อาสาช่วยคนขายตรง และคู่หู ฟิล์ม-รัฐภูมิ
วันนี้มีเรื่อง ยอดหญ้า อีกวงการ เพราะเธอเป็นหมอ (หมอจริงๆ ไม่ใช่หมอดู หมอนวด) ชื่อเล่น จ. ซึ่งเปิดคลินิกทำสวย พร้อมกับเปิดเพจ ซื้อขายกระเป๋า Hermes ด้วย ซึ่งมีคนติดตามมากมาย รวมทั้งหมอๆด้วยกัน จนวันหนึ่ง หมอเซเลบริตี้คนสวยและรวยมาก คุณหมอ ม. เอาเคลลี่หนังจระเข้ ใบสวยโก้หายาก ซึ่งประมูลจาก Sotheby และไม่เคยใช้ ไปฝากขายในราคาแค่ 3 ล้านกว่า อาทิตย์เดียว หมอ จ. ก็แจ้งว่าขายได้แล้ว แต่ลูกค้าขอวางมัดจำไว้ ไว้จ่ายครบแล้วจะโอนให้ แต่ผ่านไปเป็นเดือนก็ยังไม่โอน พอถาม ก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้ง จน คุณหมอ ม. สงสัย พอคุยกับร้านอื่น ก็ตกใจ เพราะทุกคนบอกทันทีว่า โดนกันเยอะ ถ้าซื้อไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝากขายจะเป็นแบบนี้ คุณหมอ ม. จึงขอให้ หมอ จ. เซ็นเอกสาร รับสภาพหนี้ ซึ่งเธอก็ยอมเซ็นทันที--แต่กลายเป็นว่าให้ หุ้นส่วน ร้านเซ็น โดยบอกว่าแตกหักกันไปแล้ว เธอจึงเลิก เหลือแต่หุ้นส่วนทำ
...
แต่ คุณหมอ ม. ไม่ยอมง่ายๆ จึงหาหลักฐาน ส่งฟ้อง หมอ จ. เป็นจำเลยที่ 1 คนเซ็น เป็นจำเลยที่ 2 พอเรื่องถึงขั้นสืบพยาน จึงรู้ว่า คนที่เซ็นชื่อรับสภาพหนี้ เป็น บุคคลล้มละลาย มาหลายปีแล้ว โดย หมอ จ. อ้างว่า เลิกทำตั้งแต่เดือนกันยายน ดังนั้น ตัวเองจึงไม่เกี่ยวกับค่ากระเป๋า 3 ล้าน แต่โชคดี คุณหมอ ม. มีหลักฐานว่าเดือนกันยายน และหลังจากนั้น หมอ จ. ยัง ประกาศขายกระเป๋าในเพจตัวเอง อยู่--ตอนถูกซักว่า จริงหรือไม่ เห็นหรือไม่ หมอ จ. ซึ่งกระสับกระส่าย ตอบตะกุกตะกักว่า ก็เห็น แต่เธอถูกแอบอ้าง พอซักว่า แจ้งความคนแอบอ้างหรือไม่ เธอตอบว่า ไม่ได้แจ้ง!!
คุณหมอ ม. จึงรู้ว่า 2 คนทำด้วยกัน คนหนึ่งใช้ความเป็นหมอ โฆษณาขายกระเป๋า ทั้งในเพจ และไลฟ์ขายในเพจคลินิก พอถูกทวงหนักๆก็ให้อีกคนเซ็นรับสภาพหนี้เผื่อลูกค้าฟ้อง เพราะหัวหมอว่า กว่าเรื่องถึงศาลก็นานเป็นเดือนเป็นปี ฟ้องไปก็เรียกร้องไม่ได้ เพราะคนเป็นหนี้ล้มละลายไปแล้ว แต่ หมอ จ. นึกไม่ถึงว่า คุณหมอ ม. เซเลบริตี้ชื่อดัง จะเอาเรื่องขึ้นศาล เพราะเหยื่อรายอื่นไม่เคยฟ้อง เพราะไม่อยากเป็นข่าว หล่อนจึงลอยนวล จนถูกแฉประจาน ความเป็น หมอ “มง”--เป็นอุทาหรณ์ว่า อย่าเชื่อนักว่า คนที่มีโอกาสได้เรียนดี มีอาชีพที่คนยกย่องเชื่อถือ อย่าง หมอ จะไม่ทำเรื่องต่ำตม โกหก ต้มตุ๋น
โสมชบา ยังมีอีกหลายเรื่องที่ สอดรู้ สอดเห็น ว่าคนที่ทำตัวหรู รวย สวย หล่อ ไฮโซ แต่ความจริง น่าขนลุก พอๆหรือยิ่งกว่า หมอ จ. มาเตือนให้ระวัง ตามหน้าที่ของสื่อ และยังเห็นว่า ถ้ารู้จริง และ มีหลักฐาน ทุกคนต้องช่วยสกัดคนที่ เป็นภัยสังคม เพื่อร่วมกันสร้าง จรรโลงสังคมที่ดี.
โสมชบา
คลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม