จากคุณยาย มะลิ ฮิปโปที่มีอายุยืนที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะครบ 60 ปี ในปีหน้า 2568 เหมือน นมตรามะลิ ที่อยู่คู่คนไทยมา 60 ปีแล้ว พอลูกฮิปโปโปเตมัสแคระน้องหมูเด้ง เกิดมาเป็นขวัญใจคนทั่วโลก พิมพ์ จารุเศรนี บอสใหญ่ บริษัทอุตสาหกรรมนมไทย จำกัด เจ้าของแบรนด์ นมตรามะลิซึ่งเป็น นมข้นหวานยอดขายอันดับ 1 ก็เกิดไอเดียเพื่อสังคมของบริษัท ในปี 2568 ในการช่วยทั้งคนทั้งสัตว์ จึงร่วมกับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทำโครงการ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ เพื่อสนับสนุนการดูแลชีวิต และสวัสดิภาพของสัตว์ป่า และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือ ที่ทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย โดย คุณพิมพ์ ได้ร่วมลงนาม MOU กับอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพื่อใช้ภาพลักษณ์น่ารักของ น้องหมูเด้ง มาช่วยโน้มนำให้แฟนคลับ คนรักหมูเด้ง ร่วมสมทบทุนและร่วมกิจกรรม เพื่อปรับปรุงที่อยู่ของ แม่มะลิ ซึ่ง นมตรามะลิ ได้มอบเงินสนับสนุนให้ โครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่า สวนสัตว์เปิดเขาเขียว 300,000 บาท เพื่อประเดิมการระดมทุนจากคนรักสัตว์ ในการปรับปรุงพื้นที่ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และบ้าน “แม่มะลิ” ให้เหมาะสมกับ คุณยายฮิปโป ที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้น ยังเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้เกี่ยวกับฮิปโปโปเตมัสในธรรมชาติ เพราะเห็นความสำคัญของ สวนสัตว์ ว่าเป็นแหล่งที่ช่วยสร้างพัฒนาการ การส่งเสริมความรู้ในเด็ก ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว สามารถช่วยส่งเสริมศักยภาพในเด็กได้ดียิ่งขึ้น
...
ตอนนี้ นมตรามะลิ จึงมี Mascot และผลิต Merchandise รูปแบบต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในเวอร์ชันพิเศษ ที่มี น้องหมูเด้ง บนบรรจุภัณฑ์ ให้แฟนคลับได้มีส่วนร่วมโครงการ กับองค์การสวนสัตว์ฯ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยเฉพาะ “แม่มะลิ” ที่คนไทยรู้จักมา 60 ปี เหมือน “นมตรามะลิ” ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 60 ปี.
เพื่อนๆที่เคยร่วมชะตากรรมกับ เยาวณี นิรันดร ตอนไปทริปเรือสำราญ (ที่ไม่ค่อยสำราญ) เมื่อ 5 เดือนก่อน เพราะ คุณกิ๊ก-เยาวณี ถูกโจรจีนขโมยเงินในกระเป๋าแอร์เมสตั้งแต่บนเครื่องเอมิเรตส์จากไทย ทำให้ระหว่างทรานสิตดูไบ 3 ชั่วโมงก่อนบินต่อไปลิสบอน จึงวุ่นอยู่กับการจับโจร ที่ได้ตัวทั้งแก๊ง แต่ตำรวจต้องปล่อยตัวมันไป เพราะขนาดจับแก้ผ้าค้น ก็ไม่พบเงินของกลาง 1 หมื่นเหรียญยูเอส จึงรู้ว่ามันต้องเอาเงินที่ขโมยไปให้โจรอีกคนในชั้นบิสซิเนส ซึ่งไม่รู้ว่าใคร
พอไปถึงลิสบอน พล.อ.นพ.วิทยา ช่อวิเชียร ศานติ ประนิช ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ โสมชบา ก็เจอแท็กซี่โจร ทำให้สูญเสียเงิน บัตรเครดิต มือถือกันถ้วนหน้า แต่ก็เอาผิดใครไม่ได้ จากนั้น ก็ล่องเรือ 10 วัน เจอทั้งไกด์เจ้าเล่ห์ที่โมร็อกโก ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นรอมฎอน ที่ชาติมุสลิมหยุดถือศีล แต่ยังพาเดินตลาดเหม็นๆ 3 ชั่วโมงโดยไม่ได้เห็นอะไร มีที่เปิดคือร้านขายของ ซึ่งคงของไกด์ สุดท้าย ที่ผจญคือเรือเสียกลางทะเล ทำให้คณะไทยต้องเปลี่ยนไฟลท์ จนกระจายไปคนละวันเวลา พอบินได้ก็ไปเจอหางเลขน้ำท่วมสนามบินดูไบ ตบท้ายด้วยกระเป๋าไม่มา ต้องรอ 4-5 วัน พร้อมของกินที่เน่าในกระเป๋า ตุ๊กตาเซรามิกที่ระลึกหักเป็นท่อน จึงเป็นเรื่องที่คณะเจอกันทีไรก็คุยกันด้วยความขำว่าทำไมถึงโชคดียกแก๊ง และใครจะโดนอะไรอีก
และพบว่าเป็น คุณกิ๊ก เพราะถูกล้วงกระเป๋าที่ห้างเซลฟริดเจส ลอนดอน ซึ่งตอนขึ้นรถที่เช่าของคนไทย คนขับก็เตือนว่า คนไทยที่เขารับ 3 คณะก่อน ถูกโจรกรรมทุกคณะ คุณกิ๊ก จึงระวังแจ ไม่ถือกระเป๋าแบรนด์เนม แต่ออร่ามหาเศรษฐีก็ยังปิดไม่มิด จึงถูกล้วงบัตรเครดิตไปจนได้ ซึ่งโจรคงมีเครื่องรูดบัตรติดตัว พอได้บัตรมันก็รูดจ่ายค่าเพชรทันที 100 ล้าน (รูเปียห์) หรือ 2 แสนบาท ซึ่งพอ คุณกิ๊ก รู้ตัว ก็รีบระงับบัตรแต่ไม่ทัน พอตรวจสอบพบว่าเป็นร้านเพชรห้องแถวซอมซ่อในจาการ์ตา ที่คงเปิดไว้รับเงินโจรโดยเฉพาะ--ตอนนี้เพื่อนๆจึงคิดหนัก ว่าถ้า คุณกิ๊ก ชวนไปไหน จะไปดีไหม.
...
โสมชบา
คลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม