หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
...
เปิดม่านการเมือง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้....สุกๆ ดิบๆ....ล่าสุด รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ถูกโยงไปถึงผลประโยชน์ทับซ้อน กับกัมพูชา...ระบุทำให้ ประเทศไทย อาจเสีย ดินแดนเกาะกูด ที่เป็นของไทยให้กับ กัมพูชา เพราะ การลากเส้นเขตแดนตามข้อตกลง หรือ MOU 2544 กับรัฐบาลกัมพูชา....นอกจาก สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะออกมาขย่ม รัฐบาลเพื่อไทย กำลังจะทำให้ไทยเสียดินแดนแล้ว...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต อดีตแกนนำเสื้อเหลือง ออกมาโพสต์ข้อความ หัวข้ออย่าลืมมติ ครม.รัฐบาลอภิสิทธิ์ เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 ไปแล้ว
การประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป และทะเลอาณาเขตของกัมพูชาในปี พ.ศ.2515....ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล ได้มีการละเมิดสิทธิและอธิปไตยทางทะเลของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน....และส่งผลทำให้ราชอาณาจักรไทย ปฏิเสธ การประกาศขีดเส้นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลของกัมพูชาไปแล้ว....ตามด้วยการมีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2516....ในเวลาเดียวกับที่ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมาธิการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ ระบุ ท้าทายให้ นายกฯ, รมว.กลาโหม, รมว.ต่างประเทศ.....ออกมาโต้แย้ง ประเด็นที่พรรคพลังประชารัฐเปิดเผยเรื่อง MOU 2544....ตั้งข้อสังเกตมีแต่ พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ อดีตโฆษกกองทัพเรือ ออกมาให้ข้อมูล...ที่อ้างว่า MOU 2544 อาจทำให้ไทยเสียเขตแดนทางทะเลให้กับกัมพูชาในอนาคต...ซึ่งรวมถึงเกาะกูด ด้วย เพราะเส้นแบ่งเขตแดนที่กัมพูชาลากข้ามเกาะกูด....นั้นเห็นว่า ไม่ควรยกเลิก MOU 2544 เพราะไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดน ...แต่ถ้ามีการยกเลิกจะทำให้เสียประโยชน์มากกว่า......หรือมี แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน ออกมาแก้ต่างว่า.....ไม่ใช่เป็นการลากเส้นเขตแดน แต่เป็นการแบ่งผลประโยชน์ทางทะเล......ทำให้เกิดความสับสน วกวนไปใหญ่..... “อินทรีเหล็ก” มองว่าเพื่อเป็นการตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม......รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กองทัพเรือ ควรออกมาอธิบายความจริง เรื่องนี้ให้ชัดเจน ทุกซอกทุกมุม....เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ก่อนที่จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
...
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ยังไม่ทันจะครบไตรมาส...กลับเจอปัญหาที่เป็นมรสุมกับเสถียรภาพรัฐบาล ทุกมิติ.......ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน ออกมาทวงสัญญากับ นายกฯแพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย ที่จะสนับสนุนในการแก้รัฐธรรมนูญ....หรือ กฎหมายนิรโทษกรรม ที่ยังคาราคาซัง เพราะ พรรคร่วมรัฐบาล ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการนิรโทษกรรมที่ เกี่ยวโยงกับคดี ม.112 ในทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น.....แม้ล่าสุด นพดล ปัทมะ สส.เพื่อไทย จะให้สัมภาษณ์ ...ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม...อยู่ในระหว่างการหารือของแกนนำพรรคและสส.พรรค...ที่ในที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทยก็คงต้องเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ด้วยเช่นกัน....ย้ำจุดยืน ไม่รวมความผิดอาญา ม.110 และ ม.112....ที่ไม่ตรงกับ ร่างของพรรคประชาชน แน่นอน
...
ส่วนกฎหมายประชามติ ที่มีการตั้งกรรมาธิการร่วมสองสภาไปแล้ว.....สส. และ สว.สายสีน้ำเงิน เปิดเกมชัดเจน....โหวตให้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.สายสีน้ำเงิน อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ เป็นประธาน......ในขณะที่ เกมร้องยุบพรรคเพื่อไทย กำลังเข้มข้น....นพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว เข้าให้ปากคำ กกต. กรณีกล่าวหา พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ยอมให้ ทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน ......วิบากกรรมการเมืองเพิ่งจะเริ่มต้น ............nสำหรับปมดิ ไอคอน....ที่ พลังประชารัฐ โยนเผือกร้อนให้ พรรคเพื่อไทย...จากที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงชื่อย่อ สส.เพื่อไทย ไปมีส่วนเกี่ยวข้องคดีนี้ด้วย....โดยเฉพาะ แกนนำเพื่อไทย กลุ่มสามมิตร บางคน.....ถึง รมว.สาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทิน จะออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง.....แต่ถูกปักหมุดจากงานนี้ไปเรียบร้อยแล้ว.... พับผ่า
...
ประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด กรรมาธิการการ คุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนฯ ที่มี บุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน....ถึงยังไม่ขยับ....ได้รับคำตอบว่ามีการเชิญคนที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้ว...เช่น สคบ. ดีเอสไอ บก.ปคบ. กองบัญชาการสอบสวนกลาง และ ปปง. ....สรุปผลการหารือว่า เทวดาใน สคบ.ยังสาวไปไม่ถึง เพราะ ดีเอสไอ นิ่งเฉยไม่ดำเนินการแก้ปัญหาที่ตัวเองถูกพาดพิง.....โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตจาก ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร...การที่ดีเอสไอบุกจับนาฬิกาปลอมของบอสพอล ใครเป็นคนให้ข้อมูล.....งานนี้รับประกันยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อ
กำลังเป็นกระแส กรณีที่ 4 อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ....ปรีดิยาธร เทวกุล, ประสาร ไตรรัตน์วรกุล, วิรไท สันติประภพ และ ธาริษา วัฒนเกส จับมือกับ 227 นักวิชาการคัดค้านการเมืองส่งคนมาแทรกแซงการตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ...เป็นอีกปรากฏการณ์ที่ฝ่ายการเมืองต้องรู้จักประมาณตัวเอง......เพราะฉะนั้น 3 แคนดิเดตประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.....กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.พาณิชย์สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...กุลิศ สมบัติศิริ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร ที่ได้ข้ามห้วยมาเป็นปลัดพลังงานสมัยรัฐบาลลุงตู่ และ สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรรมการกฤษฎีกา ประธานบริหารโรงเรียนกำเนิดวิทย์....ใครบ้างที่ไม่ได้เป็นตัวแทนการเมืองยกมือขึ้น
"อินทรีเหล็ก"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม